หน่วยฝึกและพัฒนาอาชีพโครงการทับทิมสยาม 02 ศฝช.สระแก้ว
หน่วยฝึกและพัฒนาอาชีพโครงการทับทิมสยาม 02 ศฝช.สระแก้ว สายสุดา ประเสริฐสวัสดิ์

การเลี้ยงปลาดุก


การเลี้ยงปลาดุก

         หน่วยฝึกและพัฒนาอาชีพโครงการทับทิมสยาม 02 ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว  จัดอบรมการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติกให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่และประชาชนทั่วไป

การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก (เกษตรพอเพียง)
การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก   ขั้นตอนการเลี้ยงมี 4 ขั้นตอน
              1. การจัดเตรียมบ่อ     ขุดบ่อขนาดกว้าง 2 เมตร ลึก 1 เมตร ก้น 1 เมตร จัดทำขอบบ่อให้มีระดับเดียวกัน ปูผ้าพลาสติกสีดำกันน้ำซึม
              2. การปรับสภาพน้ำในบ่อปลา   เปิดน้ำใส่บ่อจนเต็มจากนั้นใส่น้ำจุลินทรีย์  จำนวน 1 ลิตร ผสมกากน้ำตาล 1 กิโลกรัม และแร่แมกนีเซียม จำนวน 3 กิโลกรัม ทิ้งไว้ 5 – 7 วัน เพื่อเป็นการปรับสภาพน้ำและลดการเน่าเสียของน้ำ จากนั้นก็ปล่อยปลาลงเลี้ยงได้
              3. ปลาดุกที่เลี้ยงใช้ พันธุ์บิ๊กอุย ขนาดยาว 5 – 7 ซม. จำนวน 1,000 – 2,0000 ตัว เลี้ยงประมาณ 2–3 เดือน ก็สามารถจับบริโภคได้
              4. การทำอาหารปลาดุก  ส่วนผสม
                        1. รำละเอียด 2 กระสอบปุ๋ย 2. กากมะพร้าว 1 กระสอบปุ๋ย 3. ปลาป่น 6 กิโลกรัม  4. กากถั่วเหลือง 6 กิโลกรัม 5. กากน้ำตาล 1 กิโลกรัม  6. น้ำมันพืช 1 – 2 ลิตร
                วิธีทำ
                     1. นำส่วนผสมข้อ1   1 กระสอบ ข้อ 2,3,4 คลุกให้เข้ากัน
                     2. นำส่วนผสม ข้อ 5,6  ผสมน้ำ 20 ลิตร เพื่อคลุกเคล้าส่วนผสม ข้อ 1 หมักไว้ 12 ชั่วโมง
                     3. นำส่วนผสมที่หมักไว้ในข้อ 1,2 ผสมกับรำละเอียด 1 กระสอบและน้ำมันพืช 1 – 2 ลิตร คลุกเคล้านำเข้าเครื่องอัดเม็ดผึ่งแดด 2 วัน เก็บไว้ได้ 2 เดือน
เกร็ดความรู้
              1. การซื้อพันธุ์ปลาก่อนการเคลื่อนย้ายให้ปลาอดอาหาร 1 – 2 วัน เพื่อป้องกันปลาดิ้นและทำให้ปลาไส้ขาดเวลาเลี้ยงปลาจะไม่โต
              2. การเคลื่อนย้ายปลาให้เตรียม น้ำมันพืช 30 ซีซี : เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันตักใส่ใน
ถุงหรือที่มีพันธุ์ปลา อยู่ประมาณ 1 ช้อนชา เพื่อป้องกันปลาบาดเจ็บ
              3. การป้องกันปลาหนีจากบ่อเวลาฝนตก ใช่วิธีหากมีฝนตกให้หว่านอาหารให้ปลากิน สัก 2 – 3 ครั้ง เพื่อหลอกว่าเวลาฝนตกจะได้กินอาหารแล้วปลาจะไม่หนี
              4. การเปลี่ยนถ่ายน้ำให้ดูดน้ำออก 1 ส่วน ใน 3 ส่วน และนำน้ำที่ใส่ใหม่ให้ทำเป็นละอองฝอยโดยใช้สายยางเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้แก่ปลา
              5. การจับปลาเพื่อบริโภคโดยใช้วิธีใช้สายยางฉีดน้ำเหมือนกับฝนตกปลาจะเล่นน้ำจากนั้นใช้สวิงตักปลา ที่เล่นน้ำทันที ปลาจะไม่รู้สึกถึงอันตรายและจะกินอาหารต่อและไม่หนี้

ข้อดีของการเลี้ยงปลาดุกบิ๊กอุยในบ่อพลาสติก 
                  ใช้พื้นที่เลี้ยงน้อย   สามารถเลี้ยงได้ทุกที่  ก่อสร้างบ่อเลี้ยงได้ง่าย  ระยะเวลาเลี้ยงสั้น    เลี้ยงง่าย อดทนต่อสภาพน้ำได้ดี   บริโภคเองในครัวเรือน  และมีเหลือจำหน่าย

การเลือกสถานที่สร้างบ่อ
                    อยู่ใกล้บ้าน /  อยู่ที่ร่มหรือมีหลังคา /  มีแหล่งน้ำสำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำได้สะดวก
การสร้างบ่อ
การเตรียมน้ำ
               น้ำบาดาล น้ำบ่อ น้ำในแหล่งน้ำลำคลองสามารถใช้เลี้ยงปลาได้ น้ำประปาต้องทิ้งน้ำไว้ 3 วัน ก่อนถึงจะนำมาเลี้ยงปลาได้

 การเลี้ยง  
            1. ขนาดปลาที่จะนำมาเลี้ยง ปลาที่เริ่มเลี้ยงยาวตั้งแต่ 1.5 นิ้วขึ้นไป ไม่ควรนำปลามาเลี้ยงในฤดูหนาวเพราะปลามีความต้านทานต่อโรคต่ำ
            2. อัตราการเลี้ยง ปล่อยลูกปลาในอัตรา 50 – 70 ตัว/ตารางเมตร
            3. การปล่อยปลา แช่ถุงลูกปลาไว้ในบ่อเลี้ยง 30 นาที จึงค่อยๆ ปล่อยลงบ่อ ช่วงแรกที่ปล่อย ให้เติมน้ำลงบ่อมีความสูงประมาณ 10 ซม.แล้วค่อยเพิ่มระดับน้ำขึ้นไปเรื่อยๆทุกๆอาทิตย์จนมีระดับสูงสุด30-50 ซม.
การดูแลรักษา
            1.  หลังคาบัง แดด ฝน
            2.  การให้อาหารปลา เริ่มแรกให้อาหารเม็ดเล็กและบุบพอแตกสำหรับปลาเล็ก อาหารสดพวกเศษเนื้อ สับให้ปลากินได้ ตัวปลวก แมลงเม่าและแมลงอื่น ๆ โปรยให้ปลากิน ให้อาหารเป็นเวลา วันละ 2 มื้อ เช้า - เย็น
            3. การถ่ายเทน้ำ ทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำเมื่อน้ำเริ่มเสีย ไม่ควรถ่ายน้ำออกหมด เหลือน้ำเก่าไว้ 2/3 เปลี่ยนถ่ายน้ำหลังให้อาหารแล้วไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง น้ำที่ถ่ายออกสามารถนำไปรดพืชผักได้
            4.  การใช้ประโยชน์พื้นที่รอบบ่อ ปลูกพืชผักสวนครัวรอบๆ บ่อพลาสติก
การจับปลา
             เลี้ยง 3-4 เดือน ได้ปลาขนาด 100-200 กรัม/ตัว อัตรารอดประมาณ 80-90 % ได้ผลผลิตปลา ประมาณ 30-50 กก/บ่อ คิดเป็นมูลค่า (กก. ละ 30 บาท) 900-1,500 บาท
หน่วยฝึกและพัฒนาอาชีพโครงการทับทิมสยาม 02   ศูนย์ฝึกฯสระแก้ว  โทร.0-8441-0405-1

หมายเลขบันทึก: 505136เขียนเมื่อ 10 ตุลาคม 2012 16:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ตุลาคม 2012 09:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท