เมื่อเอ่ยพระนามพ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ต่างรับทราบถึงวีรกรรมแห่งความกล้าหาญจากการรับฟังและการท่องจำกันมาตั้งแต่เด็กว่า พ่อขุนบางกลาวหาวเจ้าเมืองบางยางกับพ่อขุนผาเมืองเจ้าเมืองราด นำทัพมาร่วมพลกันแล้วเข้าตีสุโขทัยคืนมาจากขอมแล้วสถาปนาพ่อขุนบางกลางหาวเป็นพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย ก่อนที่จะมีพ่อขุนรามฯ นามกระเดืองผู้เป็นนักรบขยายอาณาจักรออกไปอย่างกว้างขว้างขณะเดียวกันก็เป็นนักคิดประดิษฐ์อักษรไทยให้ได้ใช้กันจนถึงทุกวันนี้
ถ้าศึกษาลงไปในรายละเอียดแล้วเราจะพบข้อมูลเพิ่มเติมที่ได้มีนักประวัติศาสตร์ นักวิชาการ ผู้สนใจได้ศึกษา วิเคราะห์ สันนิษฐานจากศิลาจารึก เอกสาร ตำนาน ฯลฯ พบประเด็นที่น่าสนใจหลายประเด็น เช่น พ่อขุนบางกลางหาวเป็นใครมาจากไหน เมืองบางยางในปัจจุบันอยู่ที่ไหน เมืองราดของพ่อขุนผาเมืองอยู่ที่ไหน เมืองบางขลังในศิลาจารึกอยู่ที่ไหน ทำไมพ่อขุนผาเมืองไม่ครองกรุงสุโขทัยทั้งๆ ที่ได้เข้ายึดเมืองได้ก่อน และหลังจากพ่อขุนบางกลางหาวขึ้นครองราชย์ครองสุโขทัยแล้วพ่อขุนผาเมืองไปอยู่ไหน ประเด็นต่างๆ เหล่านี้เป็นที่ถกเถียงเพื่อหาข้อสรุป และอยู่ในความสนใจเสมอมา
อย่างไรก็ตาม ผลจากการศึกษาของนักประวัติศาสตร์ นักวิชาการ ผู้สนใจ พบข้อสรุปที่ตรงกันว่า พ่อขุนผาเมืองเป็นบุตรของพ่อขุนศรีนาวนำถม (นำถุม) ชึ่งครองนครสองอัน ได้แก่สุโขทัยและศรีสัชนาลัย พ่อขุนผาเมืองได้ไปครองเมืองราด เมืองลุ่ม จะเป็นด้วยความเก่งกล้าสามารถของพ่อขุนผาเมืองเองหรือเพราะอิทธิพล บารมีของพ่อขุนศรีนาวนำถมผู้บิดา (ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน) ทำให้พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ กษัตริย์ขอมที่ครองกรุงยโสธรนครธม ยกพระธิดานาม “สิขรมหาเทวี” ให้อภิเษกกับพ่อขุนผาเมือง และทรงมอบ “พระขรรค์ชัยศรี” และตั้งพระนามให้พ่อขุนผาเมืองว่า “กมรเต็งอัญผาเมือง” และพระนามเต็มว่า “ศรีอินทรบดินทราทิตย์”
ขณะเดียวกันพ่อขุนผาเมืองก็เป็นเพื่อนกับพ่อขุนบางกลางหาวเจ้าเมืองบางยาง และอาจจะเป็นด้วยความเก่งกล้า สามารถของพ่อขุนบางกลางหาว หรือวิสัยทัศน์ของพ่อขุนนาวนำถม (ไม่ชัดเจนเช่นกัน) ได้ยกพระธิดานาม “นางเสือง” ให้อภิเษกสมรสด้วย (“นางเสือง” คือแม่ของพ่อขุนราม และคือ “พระแม่ย่า” ที่ชาวสุโขทัยเคารพนับถือ)
เมื่อพ่อขุนศรีนาวนำถมสิ้นพระชนม์ ขอมสบาดโขลญลำพง ได้ทำการยึดเมืองสุโขทัยและศรีสัชนาลัย ทำให้พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมืองร่วมมือกันที่จะยึดเมืองคืน โดยพ่อขุนบางกลางหาวไปเมืองบางยางเพื่อรวบรวมกำลังพลแล้วเข้าตียึดเมืองศรีสัชนาลัย และทั้งสองพ่อขุนได้มารวมพลกันที่เมืองบางขลังก่อนเข้าตีขับไล่ขอมสบาดโขลญลำพงออกจากสุโขทัย ในการนี้พ่อขุนผาเมืองสามารถเข้าเมืองสุโขทัยได้ก่อนแต่ได้ยอมเสียสละ ได้มอบพระขรรค์ชัยศรีและพระนาม "ศรีอินทรบดินทราทิตย์" และอภิเษกให้พ่อขุนบางกลางหาวเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชราชวงค์พระร่วงครองเมืองสุโขทัยสืบมา
ด้วยวีรกรรมอันทรงคุณค่า ทำให้มีการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ เพื่อเป็นการรำลึกและเทอดพระเกียรติให้แก่ทั้งสองพระองค์
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนผาเมือง มี ๓ แห่ง ได้แก่ บริเวณสี่แยกหล่มสัก, อนุสรณ์สถานเมืองราด บ้านห้วยโป่ง ต.บ้านหวาย อ.หล่มสัก, กองพลทหารม้าที่ ๑ ค่ายพ่อขุนผาเมือง
พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มี ๓ แห่ง ได้แก่ ณ วัดคุ้งวารี ต.ย่านยาว อ.สวรรคโลก, วัดกลาง อ.นครไทย, ศาลเสด็จพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (ศาลเจ้าพ่อขุนศรี) ณ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๓๔ อ.เมือง จ.พิษณุโลก และกำลังจะดำเนินการก่อสร้างอีกหนึ่งแห่ง โดย อบต.คณฑี อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองบางขลังกับสองพ่อขุน
ศิลาจารึกหลักที่ ๒ วัดศรีชุม ด้านที่ ๑ ตั้งแต่บรรทัดที่ ๒๔ ได้บันทึกถึงการรวมพลของสองพ่อขุนที่เมืองขลัง และได้รวบรวมนักรบเมืองบางขลังเข้าตีเมืองสุโขทัยคืนจากขอมสบาดโขลญลำพง แต่จารึกไม่ได้บอกว่าเป็นพ่อขุนท่านได้ตีเมืองบางขลังได้ ก่อนที่สองพ่อขุนจะนำพลมาพบกัน บ้างว่าพ่อขุนบางกลางหาวตีเมืองศรีสัชนาลัยได้แล้วจึงมาตีเมืองบางขลังแล้วยกเมืองบางขลังให้แก่พ่อขุนผาเมือง บ้างว่าพ่อขุนผาเมืองตีได้เมืองบางขลัง บ้างว่าพ่อขุนผาเมืองไม่ได้ตี แต่ผู้ครองเมืองบางขลังไม่ต่อสู้ยินยอมยกเมืองบางขลังให้พ่อขุนผาเมือง
อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานศิลาจารึกดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเมืองบางขลังกับเมืองสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัย และความสัมพันธ์ระหว่างเมืองบางขลังกับพ่อขุนบางกลาวหาวและพ่อขุนผาเมืองที่ไม่อาจปฏิเสธได้
คุณูปการของหนังสือ บางขลง บางฉลงง บางขลัง
หลังจากที่ “เมืองบางขลัง” ปรากฏอยู่ในหลักฐานหลายแห่ง เช่น จารึกหลักที่ ๒ วัดศรีชุม, จารึกหลักที่ ๓ จารึกนครชุม, พงศาวดารโยนก, หนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ , พระราชนิพนธ์ “เที่ยวเมืองพระร่วง” ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประวัติศาสตร์ “เมืองบางขลัง” ได้ถูกรวบรวม ตีพิมพ์เป็นเอกสารวิชาการเล่มแรก โดยสำนักพิมพ์มติชน ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทการบินกรุงเทพจำกัดและบริษัทมติชน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเอกสารการเสวนาประวัติศาสตร์เมืองบางขลังโดยชมรมเรารักเมืองพระร่วง นำโดย ดร.มังกร ทองสุขดี เมื่อวันที่ ๒-๓ เมษายน ๒๕๓๙ ใช้ชื่อว่า “บางขลง บางฉลงง บางขลัง” ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว ตลอดจนเกิดการยอมรับอย่างกว้างขวาง
เอกสารเล่มนี้ได้รวบรวมข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้าของนักประวัติศาสตร์ที่มีการอ้างอิงที่มาที่ไปอย่างชัดเจน และสรุปได้ว่า “เมืองบางขลังในอดีตนั้นมีอยู่จริง มีความสำคัญ และอยู่ที่นี่... ”
จาก “บางขลง บางฉลงง บางขลัง” นำไปสู่การต่อยอดองค์ความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ภายใต้การสนับสนุนอย่างดียิ่งจากนายวีระชัย ภู่เพียงใจ ปลัดจังหวัดอุตรดิตถ์ (อดีตนายอำเภอสวรรคโลก อดีตปลัดจังหวัดสุโขทัย) นายประจวบ คำบุญรัตน์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ผู้ล่วงลับ) รศ.ดร.มังกร ทองสุขดี ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัยและภาคเหนือ จัดเสวนาประวัติศาสตร์เมืองบางขลัง และกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการรวบรวมบทความมาจัดพิมพ์หนังสือ ที่นี่...เมืองบางขลัง ๑-๓ หนังสือประวัติศาสตร์เมืองบางขลังฉบับการ์ตูน การแสดงแสง สี เสียง เพลงลูกทุ่งและคาราโอเกะ ฯลฯ ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งจนได้รับรางวัลต่างๆ เช่น รางวัลพระปกเกล้า ปี ๒๕๕๒ ด้านเสริมสร้างเครือข่ายรัฐ เอกชน และประชาสังคม, ปี ๒๕๕๓ สถาบันพระปกเกล้าได้ส่งนักวิจัยมาถอดบทเรียนเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น, รางวัลพระปกเกล้าปี ๒๕๕๔ ด้านการเสริมสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์ เป็นต้น
นำมาสู่การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับชุมชนโบราณเมืองบางขลังอย่างกว้างขวาง ทั้งภายนอกและภายในตำบล เช่น วิทยานิพนธ์ปริญญาโท โดยวราพร คำบุศย์ เรื่อง “การศึกษาพัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณเมืองบางขลังในเขตอำเภอสวรรคโลก และอำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย (ระหว่างพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๒๒)” มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีการศึกษา ๒๕๕๓ (๕๐๒ หน้า)
วิทยานิพนธ์ปริญญาโทของ สุวรรณ ทรัพศิริกาญจนา เรื่อง “บทบาทขององค์การบริหารส่วนตำบลในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองประวัติศาสตร์ : กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองบางขลัง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย” มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีการศึกษา ๒๕๕๓
วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกโดยมนตรี นุ่มนาม เรื่อง “เครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการโครงการประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นเมืองบางขลัง จังหวัดสุโขทัย” มหาวิทยาลัยศรีปทุม มี รศ.ดร.ไชยา ยิ้มวิไล เป็นที่ปรึกษา
อ.สมถวิล สอนแจ่ม ร.ร.บ้านขอนซุง อ.สวรรคโลก จัดทำหนังสืออ่านเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนประถมศึกษาชุด “เมืองบางขลังรากหยั่งบรรพกาล ๑๒ เล่ม”
อ.พจมาน หาญกล้า ร.ร.มิตรภาพที่ ๓๘ (บ้านหนองเรียง) อ.สรรคโลก จัดทำหนังสือ ชุดตามรอยสวรรคโลก เล่มที่ ๑๓ เรื่อง “เที่ยวเมืองบางขลัง”
ปัจจุบันได้รับสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สามแสนบาท ทำการวิจัย เรื่อง “การศึกษาอัจฉริยลักษณ์ชุมชนโบราณเมืองบางขลังเพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน และอบต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย” (ระยะเวลา ๑๘ เดือน) ภายใต้การดูแลของ ผศ.ดร.ชุลีรัตน์ จันทร์เชื้อ ม.ราชภัฎพิบูลสงครามและคณะ
ดังนั้นจึงถือได้ บางขลงง บางฉลงง บางขลัง”โดยสำนักพิมพ์มติชน เป็นเสมือนดั่งปฐมบทแห่งการศึกษาประวัติศาสตร์เมืองบางขลังยุคใหม่อย่างแท้จริง
พระบรมราชานุสาวรีย์สองพ่อขุน ณ เมืองบางขลัง
นายสุวิทย์ ทองสงค์ นายก อบต.เมืองบางขลัง ได้หารือร่วมกับกำนันสนิท ชื่นชอบ, ประธานสภาฯ มาเยือน โพธิ์ทอง, รองประธานสภาฯ บุญมา พละทรัพย์, พระมหาบุญมี เจ้าอาวาสวัดโบสถ์, อดีตประธานสภาฯ สมเด็จ หลวงนุช, ประธานประชาคมตำบล ประทวน ขุมเพชร เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง โดยมีเหตุผลหลายประการ เช่น
๑. มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์รองรับถึงการรวมพลของสองพ่อขุนที่เมืองบางขลัง ตลอดจนเป็นการเชื่อมโยงประวัติศาสตร์สุโขทัย
๒. เพื่อเทิดพระเกียรติวีรกรรมอันกล้าหาญของสองพ่อขุน ตลอดจนเป็นศูนย์รวมใจให้ประชาชนคนไทย
๓. มีสถานที่เหมาะสม คือหน้าที่ทำการ อบต.บนเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๑ งาน และติดถนนลาดยางสายเมืองเก่าสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย
๔. เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุโขทัย และเมืองบางขลัง ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลาง สร้างเป็นจุดแวะพักผ่อน สักการะสองพ่อขุน ซื้อสินค้า ชมโบราณสถาน และพิพิธภัณฑ์ ณ วัดโบสถ์
๕. เพื่อส่งเสริมอาชีพ เพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน เปิดตำบลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม
ดังนั้น นายสุวิทย์ ทองสงค์ จึงได้ทำหนังสือพร้อมส่งเอกสาร หลักฐานผ่านนายอำเภอสวรรคโลก ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยถึงกรมศิลปากร
กรมศิลปากรได้มีหนังสือแจ้งให้ทราบ ที่ วธ ๐๔๑๔/๓๕ ลงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๔ ใจความว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาสร้างอนุสาวรีย์ ในการประชุมครั้งที่ ๑๔/๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๓ มีมติเห็นชอบในหลักการให้สร้างได้ โดยให้ใช้การเรียกนามพระบรมราชานุสาวรีย์ว่า “พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ (พ่อขุนบางกลางหาว) และพ่อขุนผาเมือง” มอบหมายให้ผู้แทนคณะกรรมการฯ เดินทางมาพิจารณาสถานที่ก่อสร้าง
วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ นายโสภิศ พุทธรักษ์ ประติมากรชำนาญการ และนายกิรศักดิ์ จริวัฒนศิรินนท์ สถาปนิกชำนาญการ ตัวแทนคณะกรรมการฯ จากกรมศิลปากรได้เดินทางมาพิจารณาสถานที่ก่อสร้าง
หนังสือกรมศิลปากร ที่ วธ ๐๔๑๔/๓๔๔๕ ลงวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ แจ้งว่า คณะกรรมการพิจารณาการสร้างอนุสาวรีย์ฯ ได้รับรายงานผลจากผู้แทนคณะกรรมการฯ ในการประชุม ครั้งที่ ๘/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ที่ประชุมพิจารณาแล้ว เนื่องจาก อบต.เมืองบางขลังมีแผนพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว (ผังชุมชนดำเนินการโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุโขทัย ปี ๒๕๕๔) จึงให้ส่งผังแม่บทการใช้พื้นที่ให้กรมศิลปากรเพื่อประกอบการพิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งได้แนบรายละเอียดการก่อสร้างของสำนักช่างสิบหมู่ ตลอดจนตัวอย่างมาให้ อบต. เพื่อดำเนินการต่อไป
ในส่วนของงบประมาณดำเนินการนั้น ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ภายใต้การประสานงานของนายกฯ สุวิทย์ ทองสงค์, ส.ส.จักรวาล ชัยวิรัตนนุกูล และนายเกรียงไกร สมเสนาะ ท้องถิ่นจังหวัดสุโขทัย.
ไม่มีความเห็น