ผู้ชายตีเมือง นางพญานั่งเมือง


ประเทศมหาอำนาจเช่นอังกฤษ ได้พิสูจน์ให้ชาวโลกได้เห็นแล้วว่า นางพญาผู้งามสง่าย่อมนำพาชาติไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ไม่แพ้ผู้นำที่เป็นชาย

ผู้ชายตีเมือง นางพญานั่งเมือง

เป็นสภาพการณ์ของสังคมยุคขอมโบราณ เพราะบ้านเมืองยุคนั้น
ผู้ชายที่เป็นใหญ่จำต้องเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเขตชายแดนหรือต่างบ้านต่างเมือง เพื่อให้บ้านเมืองรวมกันเป็นปึกแผ่นได้ก็ต้องอาศัยหลังบ้านที่สอดรับและเข้ากันได้ดีกับหน้าบ้านมิใช่หรือ

แต่ปัญหาเกิดขึ้นมายุคหลังที่ผู้ชายคิดว่าการนั่งเมืองควรจะเป็นผู้ชายหน้าที่ของผู้ชายมากกว่า จึงทำให้พระราชายุคหลัง ๆ ของขอมโบราณขาดความเป็นชายชาตรีเยี่ยงบรรพบุรุษ

ตามสัญชาตญาณของมนุษย์แล้ว ผู้ชายสมชายมักจะมีนิสัยก้าวร้าวและชอบการแย่งชิง หากเมื่ออยู่ในสถานการณ์เดิม ๆ ซ้ำ ๆ เป็นเวลานานก็จะเกิดความเฉื่อยชาและหมดศรัทธาในความเป็นชาย หรืออาจจะมีความเป็นหญิงขึ้นมาแทนที่ก็เป็นได้

นิสัยของผู้หญิงแท้จริงแล้วซ่อนความทะเยอทะยานอยากที่จะเป็นคนกุมชะตาชีวิตของคนส่วนมากเอาไว้ เมื่อฐานะเอื้ออำนวยจึงทำให้นางพญาหลายท่านสามารถจะนำพาให้ชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญได้หากมีความเป็นแม่อยู่อย่างเต็มเปี่ยม หาใช่หญิงที่มักมากในตัณหาราคะและอำนาจเท่านั้น หญิงที่งามพร้อมจึงจะสามารถเป็นนางพญาที่สมบูรณ์พร้อมได้ ไม่ได้กำหนดอยู่แต่เพียงชนชั้นเจ้านายเท่านั้น แต่หากรวมไปถึงทุกระดับของสังคม ไม่ใช่ความผิดอันใดที่จะให้หญิงเป็นผู้นำ และชายเป็นผู้ตาม แต่ต้องมีกรอบของจริยธรรมอันดีมาเป็นตัวกำหนด อย่าให้กิเลสเข้าครอบงำ เมื่อใดที่นางพญาลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งสมมติแล้วไซร้ บ้านเมืองจะถึงกาลวินาศ แต่หาใช่ว่าผู้ชายจะไม่เคยทำให้บ้านเมืองถึงกาลวินาศสันตะโร แต่เพราะสังคมเราเหยียดหยามหญิงที่ก่อความไม่สงบมากกว่าชาย ก็เท่านั้น

ประเทศมหาอำนาจเช่นอังกฤษ ได้พิสูจน์ให้ชาวโลกได้เห็นแล้วว่า นางพญาผู้งามสง่าย่อมนำพาชาติไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้ไม่แพ้ผู้นำที่เป็นชาย

เพราะแท้จริงแล้ว ธรรมชาติของมันสมองในผู้หญิงถูกสร้างมาเพื่อการเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณมากกว่าชาย ผู้ชายมีหน้าที่ทำตามจึงจะสมควรกว่า เช่นที่ครอบครัวระดับรากหญ้าของไทยเป็น นั่นคือสิ่งที่จะสนับสนุนให้เกิดขึ้นที่สุด

แล้วชายที่ปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคใหม่ละมีหน้าตาเป็นเช่นไร

คำตอบก็คือ เพศที่สาม สี่ ห้า แล้วแต่จะเรียกขานกันตามแต่ถนัด

เพศสภาวะเป็นที่สุดของการมีชีวิตอยู่จริงนะหรือ

ทำไมจึงต้องแบ่งเป็นชาย หรือหญิงเท่านั้น แล้วบุคคลที่ไร้เพศมีอยู่ไม่ได้จริงหรือ เป็นคำถามที่ใคร ๆ ต่างก็ตอบว่า ไม่อยากจะให้เกิด แต่เอาเข้าจริงแล้ว คนไร้เพศสามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าที่คนเราทั่วไปจะคาดเดาได้ หากหน้าที่ในการสืบพันธุ์เป็นตัวแบ่งสภาวะทางเพศ แล้วสภาวะทางจิตละ สามารถเป็นตัวแบ่งหรือจำแนกเพศสภาวะได้หรือไม่

เพราะข้าพเจ้ากำลังเผชิญคำถามนี้อยู่ จึงอยากจะให้ผู้รู้ได้ช่วยชี้แจงแถลงไข โดยแยบคายด้วยเถิด

ทำไมถึงเกิดคำถาม เพราะบุคคลสำคัญแห่งโลกทั้งทางด้านศิลปะและสังคมยุคเก่าหลายท่าน อาจจะมีเพศสภาวะที่หลากหลายภายในบุคคลคนเดียว ดั่งเช่นรูปภาพบันลือโลก “โมนาลิซ่า” ที่สะท้อนให้เห็นว่า นักวิชาการบางท่านยังไม่สามารถระบุเพศสภาวะของเธอได้ หากนับจากเครื่องแต่งกายตามจารีตแห่งยุค

หรือว่าคนในอดีตอาจจะมีเพศสภาวะที่หลากหลาย ก็เป็นได้และเหตุการณ์เหล่านั้นกำลังค่อย ๆ คืบคลานเข้าสู่กงล้อแห่งวัฏจักรนี้อีกคราหนึ่ง ข้าพเจ้าหวังใจจะได้คำตอบยิ่งนัก

การชี้นำคำถามนี้ หาใช่ว่าข้าพเจ้าเป็นเช่นนี้ แล้วนำเรื่องราวเหล่านี้มาตีรวนให้เกิดความสับสันในจิตใจของใครหลายคน แต่หากต้องการให้เราได้ฉุกคิดว่า ความสับสนทางเพศสภาวะเป็นสิ่งผิด หรือว่าอาจจะใช้สิ่งนี้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศของเราได้หรือ เพราะความเป็นชายหรือหญิงได้ก้าวล่วงเลยมาจากคำว่า บทบาทหน้าที่ในการให้กำเนิดทายาทก็เท่านั้น

หมายเลขบันทึก: 504186เขียนเมื่อ 1 ตุลาคม 2012 14:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม 2012 16:41 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ผู้ชายพายเรือ ผู้หญิงยิงเรือ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท