โค้งสุดท้าย..ไม่แหกโค้ง ไม่เพริด ไม่เลิศ ก็ไม่เป็นไร_ตอนที่หนึ่ง


โค้งสุดท้าย ไม่แหกโค้ง ไม่เพริด ไม่เลิศ ก็ไม่เป็นไร เกิดงานชิ้นต้น เฝ้าทำต่อ ดูแล รอแตกยอด เติบโต จนกว่าเก็บเกี่ยวได้ก็แล้วกัน

โค้งสุดท้าย..ไม่แหกโค้ง ไม่เพริด ไม่เลิศ ก็ไม่เป็นไร ตอนที่หนึ่ง 

 

เช้าวันอาทิตย์นี้ ตื่นนอนค่อนข้างเช้า เจ็ดนาฬิกา
ที่ว่าเช้าเพราะมักนอนดึกค่ะ นอนประมาณตีหนึ่งครึ่งที่นี่ โดยเฉพาะเป็นวันหยุด รอคุยข้ามทวีปกับลูกชายสุดรักด้วย เบ็ดเสร็ดใกล้ตีสอง นอนอีกหกชั่วโมง เวลาตื่นจึงประมาณแปดนาฬิกา


วันนี้ตื่นแล้วโอเค สบาย ๆ คิดถึงเพื่อนรักคนหนึ่งจึงโทรทางเน็ตไลน์ไปหา
เธอรู้ใจมากว่า ช่วงนี้เป็น โค้งสุดท้ายที่จะเก็บเกี่ยวความรู้ เราคงคร่ำเคร่งพอสมควรจึงไม่กวนโทรหาเรา รอจนเราเป็นคนโทรไป

“เป็นอย่างไรบ้าง เก็บได้แค่ไหนแล้ว”
“อืม ได้เยอะ ที่ไม่ทันก็เยอะ กำลังทำใจปล่อยแล้ว”

“รู้สึกอย่างไรบ้างที่เก็บไม่หมด”
“รู้สึกเสียดายมาก ตั้งใจจะไม่เดินเที่ยว ไม่กินไ ม่นอน ฮ่า ฮ่า แต่ทำไม่ได้ ทำใจง่ายกว่าเยอะ”

“งั้นมาฟังนิทานเรื่องหนึ่ง”


แปลกใจ แต่ฟังค่ะ

 

โง่หรือฉลาด - นิทานชาดก ก่อนนอน
นิทานเรื่ิองนี้มาใน "กปายกฏฐิชาดก ทุกนิบาต"

ณ ชายแดนเมืองพาราณสี ของพระเจ้าพรหมทัต เกิดกลุ่มโจรร้ายออกอาละวาดเที่ยวปล้น สร้างความเดือดร้อนให้แก่อาณาประชาราษฎร์อย่างเหลือคณานับ ทหารรักษาชายแดนได้เข้าเฝ้ากราบทูลถวายรายงานว่า

"ขอเดชะ บัดนี้ชายแดนเกิดความเดือดร้อนหนัก" ด้วยมีโจรกลุ่มหนึ่งไม่เกรงพระราชอาญา ได้พากันไปเทียวปล้น ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนแสนสาหัส ทหารรักษาดินแดนก็มิอาจจะต่อกรกับโจรกลุ่มนี้ได้ ขอพระองค์โปรดเสด็จไปดับทุกข์เข็ญด้วยเถิดพระเจ้าค่ะ"

"บังอาจมาก! ไอ้โจรกลุ่มนี้ มันหมิ่นพระราชานุภาพของเรา ท่านอำมาตย์ท่านจงไปจัดทัพให้พร้อม เราจะไปจัดการดับอหังการกลุ่มโจร" พระเจ้าพรหมทัต ทรงพิโรจน์และได้รับสั่งเสนาบดีให้เตรียมทัพ

เมื่อทุกอย่างพร้อม กระบวนทัพจึงได้ฤกษ์ออกเดินสู่ชายแดน พระเจ้าพรหมทัต รับสั่งให้หยุดพักเป็นระยะ เพราะหนทางที่ยกทัพไปนั้นไกลพอสมควรและทรงเกรงว่ากำลังพลจะเหนื่อยล้าเกินไป

ในเวลาหยุดพัก ณ ที่แห่งหนึ่ง พวกทหารเสบียง พวกทหารเสบียงได้นึ่งถั่วราชมาศใส่ไว้ในรางอาหารม้า มีลิงตัวหนึ่งแอบดูอยู่บนต้นไม้ มันเห็นว่าเป็นถั่วก็เกิดอยากกินขึ้นมาทันที

พอพวกทหารเผลอ เจ้าลิงก็ปีนจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว คว้าเอาถั่วใส่ปากจนเต็มแก้ม 2 ข้างแล้วก็กำจนเต็มมือ 2 มือ รีบปีนไปบนต้นไม้ทันที

ด้วยความบังเอิญ เมื่อลิงขึ้นไปนั่งอยู่บนต้นไม้ มันทำถั่วราชมาศหลุดมือเม็ดหนึ่ง เจ้าลิงเกิดความเสียดายถั่วเม็ดนั้นมาก จึงคายถั่วในปาก และหว่านถั่วในกำมือทิ้ง แล้วรีบปีนลงจากต้นไม้เพื่อมาหาถั่วเมล็ดนั้น

แต่ไม่ว่ามันจะพยายามหาอย่างไรก็ไม่พบ จนอ่อนใจ ปีนขี้นไปนั่งเจ่าอยู่บนต้นไม้ พระเจ้าพรหมทัตเสด็จมาพบเข้า ทรงเห็นลิงมีอาการหงอยเศร้าซึม ทรงปรืวิตก (กังวล) ว่า จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับพระองค์ จึงรับสั่งให้ราชครูเข้าเฝ้า

"ท่านราชครู ลิงตัวนี้มันดูซึม ๆ มันจะเป็นลางร้านแก่เราไหม!"
ราชครูได้กำหนดตรวจตรา อย่างละเอียดทุกแง่มุม จึงกลาบทูลว่า

"ขอเดชะ เจ้าลิงตัวนั้นมันซึมเศร้าเพราะความโง่ของมัน มันขโมยถั่วราชมาศสำหรับมาจนเต็มแก้มทั้งสองข้าง และกำเอาจนเต็มมือ แล้วปีนขึ้นไปบนต้นไม้ บังเอิญถั่วเมล็ดหนึ่งหล่นจากมือมัน มันจึงทิ้งถั่วที่เหลือทั้งหมด แล้วลงมาหาถั่วเมล็ดนั้น แต่หาอย่างไรก็ไม่พบ มันจึงซึมเศร้า พระเจ้าค่ะ "


"เออแน่ะ ... เจ้าลิงมันอับปัญญาเอาของมากมาแลกของเพียงน้อยนิด ตัวเราขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน เรายกทัพใหญ่เพื่อไปปราบโจรกระจอกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเหมือนเอาพิมเสนไปแลกเกลือ ซ้ำร้ายนี่ก็เข้าสู่ฤดูฝนแล้วการเดินทางก็ลำบาก ผลคงไม่คุ้มอย่างแน่นอน เหมือนลิงตัวนี้ที่เอาของมากมาแลกของเพียงนิดเดียว"

 

พระเจ้าพรหมทัตได้สดับการถวายวิสัชชนา ก็ทรงใคร่ครวญด้วยพระสติปัญญาของพระองค์ เมื่องทรงเห็นว่า "ไม่คุ้ม" จึงรับสั่งให้ถอนทัพกลับพระนคร

ฝ่ายโจรชายแดน ได้ยินข่าวว่าพระเจ้าพรหมทัตยกทัพมาปราบต่างก็เกรงพระราชอาญาจึงพากันแตกหนีกระจัดกระจาย ชายแดนสงบสันติสุขอีกครั้ง


มาชาติสุดท้าย พระเจ้าพรหมทัตเกิดเป็นพระอานนท์ ราชครูได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้า

 

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนโง่เขลาเบาปัญญาย่อมไม่รู้ว่าสิ่งใดไม่ควร บางทีอาจจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปโดยขาดปัญญา อันจะนำผลเสียมาให้อย่างมากมาย เหมือนลิงโง่ดังกล่าว หากเป็นเช่นนี้ ก็เข้าข่ายว่า "โง่แต่อวดฉลาด"

ก่อนที่จะทำสิ่งใดลงไป ต้องคิดถึงความเหมาะสม สิ่งใหนทำแล้วตนไม่เดือดร้อน ไม่เบียดเบียนคนอื่น สิ่งนั้นเเหละสมควร

งานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าได้เอากำลังส่วนมากทุ่มใส่ จะเข้าสุภาษิตไทยที่ว่า

"ขี่ช้างจับตั๊กแตน"


ฟังนิทานจบ เราถึงบางอ้อเลยค่ะ


ไปเคาะประตูห้องเพื่อนรักที่นี่ มิสเตอร์ดีล

“ไป ไป ไปเดินเที่ยวกัน”


ดีลพาไปเดินเลียบริมแม่น้ำเทมส์ ชมงานศิลป ที่ The Tate

ดื่มกาแฟกับเค็กแครอท แล้วก็ไปเดินไชน่าทาวน์ สถานที่คนไทยที่นี่ทุกคนรู้จักยกเว้นเรา


เราไม่เคยคิดผ่อนคลายเดินเที่ยวลอนดอนเลย ทำแต่งานทุกวัน วันหยุดทำความสะอาดห้อง ที่เคยไปมาบ้างเป็นเพราะสมัยแรก ๆ มีเพื่อนรุ่นน้องที่รู้ใจอยู่ เมื่อเธอกลับเราก็เก็บตัว


ตึง เกินไป

รู้ถึงดีล เธอปวารณาตัวจะพาเดินเที่ยวตั้งนานแล้ว

 

วันนี้ฟังนิทานจบ ตัดสินใจไปเที่ยว สักนิด


ในสมองก็วางแผนงานไว้ต่อเนื่อง

บันทึกหน้ามาเล่าต่อค่ะ...

 

หมายเลขบันทึก: 504079เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2012 17:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2014 22:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท