การฝึกปฏิบัติงานทางคลินิก ณ ศุนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน

การฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกที่ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน

การฝึกปฏิบัติงานครั้งนี้ ดิฉันได้มีโอกาสจัดการประเมินทักษะการทำงานโดยใช้การประเมิน Prevocational การประเมินครั้งนี้เป็นการจัดการประเมินเป็นกลุ่ม ซึ่งจะเเตกต่างจากทุกครั้งที่เคยประเมินมา เเต่การประเมินเป็นกลุ่มนั้น ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้และเข้าใจกระบวนการกลุ่มในเชิงปฏิบัติที่มากขึ้น โดยในการประเมินในแต่ละฐานนั้น ผู้บำบัดจะเป็นผู้อธิบายวิธีการในแต่ละฐานในครั้งแรก เเละเมื่อมีการวนฐาน ก็จะให้เด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมการประเมินเป็นผู้อธิบายวิธีการทำในแต่ละฐาน ซึ่งจะเป็นเหมือนการให้เพื่อนได้สอนเพื่อน มีการให้เพื่อนได้ช่วยเหลือกันในส่วนของการเก็บอุปการณ์ก่อนเริ่มกิจกรรมใหม่ ซึ่งในการประเมินเป็นการฝึกการทำการประเมินที่ได้ประสบการณ์เป็นอย่างมาก และเมื่อประเมินPrevocational ครบแล้วจะนำมาหาค่าเฉลี่ยของเด็กในศูนย์ฝึกอบรม และดูว่ามีเด็กที่มีคะเเนนต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้กี่คน

จากนั้น ในอาทิตย์ต่อไป ทำการประเมิน Volition โดยคัดเฉพาะเด็กที่ได้คะเเนนต่ำกว่าเกณฑ์ ของPrevacational มาประเมิน ซึ่งการประเมินนั้นจะเเบ่งการประเมินเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 6-7 คน และผู้บำบัดจะเป็นผู้ให้คะเเนนตามการประเมินแต่ละกิจกรรม เป็นการบันทึกคะเเนนขณะทำกิจกรรม จากการประเมิน Volition  ผลคะเเนนของเด็กนั้น 2 ใน 3 ของเด็กที่เข้าประเมิน ได้คะเเนน Volition ต่ำกว่าเกณฑ์ ที่ตั้งไว้ จึงทำให้จะต้องมีการวางแผนในการจัดกิจกรรมเพื่อบำบัด ฟื้นฟู

ในการบำบัดฟื้นฟูนั้น ได้แบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีคะเเนน Volition ต่ำ และมี Psychomotor และอีกหนึ่งกลุ่มคือ กลุ่มที่มีคะเเนน Volition สูง และมี psychomotor 

การจัดกิจกรรมกลุ่มที่มีคะเเนน Volition สูง และมี psychomotor จะเน้นให้เด็กเป็นผู้คิดและดำเนินกิจกรรมด้วยตนเอง เน้นเป็นการใช้ความคิด การเคลื่อนไหว เเละการช่วยเหลือกันภายในกลุ่ม 

ส่วนกลุ่มที่มีคะเเนน Volition ต่ำ และมี Psychomotor เน้นทำกิจกรรมที่ให้เด็กมีส่วนร่วมภายในกลุ่ม มีการช่วยเหลือกัน ส่งเสริมการรับรู้ตนเอง และมีความภาคภูมิใจในตนเอง 

ซึ่งในการจัดกิจกรรมทั้งสองกลุ่มนี้พบว่า เด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสองกลุ่ม มีการให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมกลุ่มทุกคน เด็กมีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส และเด็ก 3 ใน 5 คน ได้พูดว่าม มีความสุข และสนุกในการทำกิจกรรม และเด็กทุกคนยังได้รู้จักเพื่อน และคอยช่วยเหลือกัน ทำให้เห็นว่าในการจัดกิจกรรมตลอดการฝึกงานไม่เพียงเเต่เป็นการจัดกิจกรรมให้เด็กได้เรียนรู้เท่านั้น แต่ทุกครั้งที่จัดกิจกรรมก็ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้จากเด็กที่ศูนย์ฝึกอบรมเช่นกัน

นอกจากการจัดกิจกรรมกลุ่มแล้ว ดิฉันได้มีโอกาสพูดคุยกัย เด็กคนหนึ่งที่ศูนย์อบรม เด็กคนนี้เข้ามาอยู่ที่ศูนย์นี้ด้วยคดีหนึ่งซึ่งเด็กไม่ได้เป็นผู้ก่อ เเต่ยอมรับผิดแทนเพื่อนของเขา และการโดนคดีครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของเขา จึงทำให้ดิฉันเก็บมาคิดว่า เพราะอะไร เด็กคนนี้จึงจะต้องโดนคดี เป็นครั้งที่สอง เเละทั้งสองครั้งที่ผ่านมา เด็กไม่ได้เป็นผู้เริ่มกระทำผิดเอง แต่เด็กโดนข้อหาแทนคนรอบข้างของเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สิ่งแวดล้อมมีผลต่อการใช้ชีวิตของบุคคลเช่นกัน หากเป็นคนดี เเต่สิ่งแวดล้อมนำพาให้ไปในทางเสื่อม ก็อาจจะทำให้อนาคตของเด็กคนหนึ่งผิดพลาดไปได้เช่นกัน ถ้าหากเด็กคนนี้ยอมรับ และเข้าใจเหตุผลในการที่เข้ามาอยู่ที่ศูนย์ฝึกอบรมนี้ และเมื่อออกไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอก เด็กไม่เข้าไปร่วมกับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี เด็กคนนี้ก็คงมีอนาคในแบบที่เขาได้วาดฝันไว้ ซึ่งดิฉันก็หวังว่า อีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ไปที่เด็กคนนี้จะได้พบกับอิสระ เขาคงได้เดินไปตามทางของเขาที่เขาได้วาดฝันไว้ และไม่หันหลังกลับไปทำสิ่งที่จะทำลายอนาคตเขาอีกต่อไป