ดาวเสาร์กับบทบาททางโหราศาสตร์


ดาวเสาร์กับบทบาททางโหราศาสตร์
ตัวอย่างดาวเสาร์ในวงการดาราศาสตร์ไทย
บทบาทของดาวเสาร์ในปัจจุบัน
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
                      ผมได้เคยกล่าวถึงอิทธิพลของดาวพระเคราะห์ในวันที่เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิที่ได้สร้างภัยพิบัติขึ้นใน ๖ จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗ และได้แสดงแผนที่วงโคจรของดาวเสาร์ในวันที่เกิดเหตุว่า ได้โคจรผ่านจุดที่เกิดเหตุพอดี จึงน่าจะถือได้ว่า ดาวเสาร์เป็นดาวพระเคราะห์หนึ่งที่มีอิทธิพลในวันที่เกิดเหตุซึ่งขณะนั้นโคจรวิกลคติถอยหลัง หรือ พักร อยู่ในราศีกรกฎและทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ ๙๐ องศากับราหู หรือ โลก ตามความเชื่อของโหราจารย์บางท่าน นอกเหนือไปจากดาวพลูโตที่กำลังโคจรอยู่ในภพที่ ๘ ซึ่งเป็นภพมรณะของดวงเมืองซึ่งทำมุมเล็ง (๑๘๐ องศา) กับดาวจันทร์ และดาวจันทร์ทำมุมเล็งกับดวงอาทิตย์ ดาวจันทร์จึงถ่ายทอดพลังงานจากดวงอาทิตย์ไปให้แก่ดาวพลูโตซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์ที่อยู่ไกลที่สุดในสุริยจักรวาลนี้
                     ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาว ดาวพระเคราะห์ที่จะมีอิทธิพลต่อดวงชะตาเมืองหรือดวงชะตาบุคคลมากเป็นพิเศษเมื่อดาวนั้นโคจรวิกลคติถอยหลัง หรือ พักร ซึ่งตามหลักวิชาดาราศาสตร์ถือว่า ดาวพระเคราะห์นั้นได้โคจรเข้ามาใกล้โลก และได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์โดยตรงจากดาวจันทร์และหรือดาวพระเคราะห์อื่นๆ ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงานจากดวงอาทิตย์ (คล้ายกับสถานีถ่ายทอดสัญญาณ หรือ รีพีทเตอร์ ในระบบวิทยุกระจายเสียงโทรทัศน์ และระบบโทรคมนาคมทั่วไป)
                       เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๔๖ ดาวเสาร์ได้เคยโคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุด อีกไม่กี่วันต่อมาคือ ในวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๗ ก็ได้เกิดเหตุปล้นอาวุธปืนจำนวนมากกว่า ๒๐๐ กระบอกจากค่ายทหารที่จังหวัดนราธิวาส และนับตั้งแต่บัดนั้นมา การก่อการร้ายด้วยการเผา การวางระเบิด การลอบสังหารทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนพลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งพระสงฆ์ ได้เกิดขึ้นเป็นรายวันยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันนี้
                      เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๗ ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกอีกครั้งหนึ่ง จึงได้แสดงผลให้ปรากฏที่สำคัญคือ เกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิที่ได้สร้างภัยพิบัติขึ้นใน ๖ จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗ ติดตามด้วยเหตุการณ์ปฏิบัติการก่อการไม่สงบรายวันในสามจังหวัดภาคใต้ และเกิดอัคคีภัยขึ้นที่ตัวอาคารเก็บอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ที่ถนนพระราม ๖ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงหลายนาย ต่อมาอีกไม่กี่วันได้เกิดอัคคีภัยที่ร้านจำหน่ายของเล่นในต่างจังหวัด นอกจากการสูญเสียทรัพย์สินที่ถูกพระเพลิงเผาพลาญแล้ว ยังคลอกคร่าชีวิตผู้ที่อยู่ในอาคารนั้นอีกหลายคน
                         มื่อตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ในวันเกิดเหตุอัคคีภัย ดาวเสาร์ทำมุมเล็ง (๑๘๐ องศา) กับดวงอาทิตย์ และดาวจันทร์ซึ่งอยู่ร่วมกับดวงอาทิตย์ในราศีธนูมีองศาใกล้เคียงกันมาก เนื่องจากใกล้กับวันจันทร์ดับอมาวสี (แรม ๑๔ ค่ำ) ดาวเสาร์จึงได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน ดาวเสาร์ยังทำมุมเบียน ๙๐ องศากับราหู หรือ โลกด้วย จึงถ่ายทอดพลังงานมาสู่โลกในลักษณะที่เป็นทุกข์โทษเกิดภัยพิบัติขึ้น
                        ตามคติของโหราจารย์ไทยดั้งเดิมได้กล่าวถึงคุณสมบัติของดาวเสาร์ว่า เป็นธาตุไฟ และดวงอาทิตย์เป็นธาตุไฟ เมื่อทั้งสองทำมุมถ่ายทอดพลังานให้กันอย่างเต็มที่จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น
                      เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ ดาวเสาร์ได้โคจรวิกลคติถอยหลังจากราศีกรกฎเข้าไปสู่ราศีมิถุนซึ่งเป็นราศีธาตุลม การที่ดาวพระเคราะห์ใหญ่ได้แก่ ดาวเสาร์และหรือดาวพฤหัสบดีโคจรอยู่ในราศีธาตุลมซึ่งได้แก่ ราศีมิถุน ราศีตุล และราศีกุมภ์ จะมีอิทธิพลเกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศ ลมพายุมีการเปลี่ยนแปลงทิศทาง เกิดพายุใหญ่ เรื่องนี้ ผมได้เคยกล่าวไว้แล้วในบทความเรื่อง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับวิชาการโหราศาสตร์” ซึ่งอ้างอิงบทพระราชนิพนธ์ “พระมหาชนก” ซึ่งพระองค์ท่านได้แสดงจุดที่ตั้งของดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีในดวงวันที่เกิดเหตุเรือพระที่นั่งของพระมหาชนกประสบวาตะภัยอัปปางลงในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งดาวทั้งสองสถิตอยู่ในราศีธาตุลมทั้งคู่ โดยมีดวงอาทิตย์ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษร่วมด้วย กับบทความเรื่อง “ขงเบ้งเชิญเทพยดาให้เรียกลมมาเผาทัพเรือโจโฉได้จริงหรือ?” ซึ่งเป็นบทความที่กล่าวถึงความเชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์ของขงเบ้ง ทำให้ทราบว่า ในวันที่เผากองทัพเรือของโจโฉนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของลมโดยฉับพลัน เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้น ทั้งดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในราศีมิถุนและราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นธาตุลมทั้งคู่ตามลำดับ
                       การโคจรวิกลคติถอยหลังเข้าไปสถิตในราศีมิถุนของดาวเสาร์เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ นี้ จึงแสดงอิทธิพลปรากฏให้เห็นคือ มีลมแรงเป็นพิเศษ ต่อจากนั้น อากาศของประเทศไทยในวันต่อมาอีกหลายวันมีอุณหภูมิลดต่ำลงมากกว่าปกติถึง ๒-๓ องศา
                        เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๐๙:๑๖ น. ได้เกิดอุบัติภัยรถไฟใต้ดินชนกันอย่างไม่คาดคิด เมื่อได้ผูกดวงในวันเวลาที่เกิดเหตุแล้วปรากฏว่า นอกจากจะทำมุมเล็ง ๑๘๐ องศากับดวงอาทิตย์แล้ว ยังทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ ๙๐ องศากับดาวจันทร์ และดาวพฤหัสบดีตามลำดับ และเมื่อนำดวงวันเกิดเหตุมาเปรียบเทียบกับดวงเมืองประเทศไทยแล้ว ปรากฏว่า ดาวอังคารได้โคจรเข้ามาในภพที่ ๘ ซึ่งเป็นราศีพิจิก เป็นภพมรณะของดวงเมืองเป็นการเสริมกำลังดาวพลูโตซึ่งสถิตอยู่แต่เดิมแล้วอีกส่วนหนึ่ง ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาว ราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ โดยมีดาวอังคารและดาวพลูโตเป็นเจ้าของเรือนหรือภพ ดังนั้น การที่ดาวเจ้าของเรือนเข้ามาสถิตในเรือนของตนจึงแสดงอำนาจได้อย่างเต็มที่ไม่เกรงใจผู้ใด นอกจากนี้ ดาวอังคารจรยังทำมุมเล็ง ๑๘๐ องศากับดาวอังคารเดิมซึ่งสถิตอยู่ในภพที่ ๒ ของดวงเมือง ภพที่๒ นี้เป็นภพที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติของประเทศ
                       ดาวอังคาร มีความหมายถึง กิจการอุตสาหกรรม การต่อสู้ การสงคราม การทหาร อาวุธ เลือด อุบัติเหตุ โลหะที่เป็นตัวนำไฟฟ้าโดยเฉพาะทองแดง เมื่อวิเคราะห์ตามความหมายแล้วดูจะเกี่ยวข้องกับประเด็นหลังๆ คือ อุบัติเหตุที่ทำให้มีการเสียเลือดด้วยโลหะ (ตัวรถไฟ) ที่มีส่วนประกอบด้วยตัวนำไฟฟ้า (รางรถไฟที่ใช้เป็นสื่อตัวนำไฟฟ้าให้รถไฟเคลื่อนที่ไปได้) ดังกล่าวแล้วว่า ดาวอังคารซึ่งเป็นเจ้าการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟใต้ดินชนกันนั้น ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับดาวเสาร์ แต่เมื่อวิเคราะห์แล้ว ดาวเสาร์ในขณะนี้ทำมุมเบียนแก่ภพที่ ๖ หรือภพอริของดวงเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ข้าทาสบริวาร และการให้บริการต่างๆ ของเจ้าชะตา ในกรณีรถไฟฟ้าใต้ดินนี้ก็นับได้ว่า เป็นบริการสาธารณะประเภทหนึ่งของเมืองไทย
                       อาจกล่าวได้ว่า ดวงชะตาเมืองไทยในปัจจุบันนี้ชอกช้ำมาก เพราะได้รับอิทธิพลจากดาวพระเคราะห์ต่างๆ มะรุมมะตุ้มประดังประเดเข้าเป็นระลอกๆ ในลักษณะผีซ้ำด้ำพลอย แผลเก่ายังไม่ทันหายก็เกิดเหตุขึ้นในที่เดียวกันซ้ำขึ้นมาอีก
                      ดาวอังคารจะโคจรอยู่ในภพที่ ๘ ซึ่งเป็นภพมรณะของดวงเมืองประเทศไทยจนถึงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ส่วนดาวพลูโตจะอยู่ในภพนี้ไปจนถึงประมาณปลายเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐ สำหรับดาวเสาร์จะยังทำมุมเบียนกับภพที่ ๖ ซึ่งเป็นภพอริของดวงเมืองฯ ไปจนถึงประมาณปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๕๐ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาอันยาวนานนี้ ถ้าไม่มีดวงอาทิตย์ หรือ ดาวบาปเคราะห์อื่นๆ จรเข้ามาทำมุมทับ เล็ง ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ หรือ เกิดสุริยคราส จันทรคราส ขึ้นในภพที่ ๖ ภพที่ ๘ และภพที่ ๑๒ ของดวงเมืองฯ อุบัติภัยรุนแรงต่างๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้น
                       อย่างไรก็ตาม ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว เราสามารถผ่อนบรรเทาทุกข์โทษต่างๆ ได้ หากผู้บริหารประเทศทุกระดับชั้นรวมทั้งประชาชนคนไทยได้ร่วมกันน้อมนำหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาศึกษาให้เกิดความรู้และประพฤติตาม พระธรรมนั้นย่อมคุ้มครองต่อผู้นั้นเสมอ และยังมีอานิสงส์ต่อเนื่องแผ่กระจายยังความสงบสุขร่มเย็นเป็นสุขแก่สังคมชุมชนและบ้านเมืองได้ การยึดติดในวัตถุนิยมซึ่งเป็นกามคุณโดยไม่คำนึงถึงการพัฒนาจิตใจให้อยู่ในศีลธรรม คุณธรรม ความวิบัติต่างๆ ย่อมจะปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ ดังเช่นในขณะนี้
เมื่อดาวเสาร์เข้ามาใกล้โลกที่สุด
พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์
                  เมื่อปีที่แล้วผมได้เคยนำเสนอบทความกรณีศึกษาทางวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวเรื่อง “เมื่อดาวอังคารเข้ามาใกล้โลกที่สุด” มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยได้กล่าวไว้ว่า นับตั้งแต่วันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เวลา ๑๔.๓๗ น. ปรากฏหลักฐานตามหลักวิชาดาราศาสตร์ ดาวอังคารได้เริ่มโคจรเข้ามาใกล้โลก ตามทฤษฎีความเร็วสัมพัทธ์ จะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ดาวดวงนี้มีความเร็วในการโคจรช้าลง ซึ่งตามตำราโหราศาสตร์เรียกดาวพระเคราะห์ที่โคจรช้ากว่าความเร็วปกติว่า เป็นการโคจรวิกลคติ หรือ “พักร (Retrograde)” ดาวอังคารจะโคจรเข้ามาใกล้โลกเรื่อยๆ และจะมาใกล้โลกที่สุดในวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๖ เวลา ๑๗.๐๐ น.
                   ได้เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปทั้งในวงการโหราศาสตร์ดวงดาวไทย ฮินดู และตะวันตก ว่า ดาวอังคารเป็นดาวบาปเคราะห์ หรือ ดาวที่มีอิทธิพลเป็นทุกข์โทษต่อดวงชะตาโลก บ้านเมือง และตัวบุคคล ยกเว้นในบางกรณีที่ดาวอังคารได้โคจรเข้าไปอยู่ในบางราศี ตรียางศ์ หรือนวางศ์ จึงจะแสดงอิทธิพลให้คุณแก่ดวงชะตา อย่างไรก็ตาม ดาวอังคารเป็นดาวพระเคราะห์ที่โคจรอยู่ไม่ห่างจากดวงอาทิตย์ และโลกนัก มีระยะเวลาโคจรอยู่ในแต่ละราศีโดยปกติประมาณ ๔๕ วัน อิทธิพลของดาวดวงนี้ทั้งที่ให้โทษและให้คุณจึงไม่ถาวรยาวนาน
                    การโคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดในครั้งนั้นได้แสดงอิทธิพลต่อโลกในส่วนภูมิภาคที่ดาวอังคารโคจรผ่านในลักษณะอุบัติภัย อาทิ วาตะภัย แผ่นดินไหว รวมทั้งการเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นในบางประเทศเช่น การเกิดไฟฟ้าดับในเมืองใหญ่ๆ ทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา อาทิ นิวยอร์ค บอสตัน มิชิแกน และบางส่วนตอนใต้ของแคนาดา มีโตรอนโต เป็นต้น เนื่องจากเกิดฟ้าผ่าสถานีผลิตกำลังไฟฟ้าใหญ่ ทำให้สถานีผลิตกำลังไฟฟ้าย่อยรวม ๒๑ แห่ง ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟได้ มีการระเบิดพลีชีพที่ในกรุงแบกแดค ประเทศอิรัค หลายครั้ง ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย เกิดไฟไหม้อาคารคอนโดมิเนียมในกรุงไทเป ไต้หวัน มีผู้ถูกไฟคลอกตายหลายคน ฯลฯ สำหรับบ้านเรานั้นมีเหตุการณ์สำคัญที่ได้บันทึกไว้อยู่ ๒ เรื่อง คือ ผู้ก่อการร้ายโจมตีตำรวจที่จังหวัดปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต ๓ นาย และนักศึกษาสถาบันอาชีวศึกษาวัยรุ่นจำนวนมากก่อความไม่สงบในขณะที่มีการแสดงคอนเสิร์ตสิทธิทางปัญญาที่สวนลุมพินี ถูกจับกุมดำเนินคดีมากกว่าพันคน
                     เมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๗ เวลา ๑๗.๕๓ น. ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกมากที่สุดและอยู่เหนือหัวในเมืองไทยเมื่อเวลาประมาณ ๒๔ นาฬิกา มีความสว่างเต็มที่สามารถเห็นได้ง่ายด้วย มีประกายแพรวพราวระยิบระยับสวยงามมากเนื่องจากดาวเสาร์มีดวงจันทร์เป็นบริวารโคจร เป็นวงแหวนรอบดาวเสาร์มากกว่า ๒๐ วงแหวน อย่างไรก็ตาม ตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ทั่วไปได้ถือว่า ดาวเสาร์เป็นบาปเคราะห์ เป็นดาวพระเคราะห์ที่ให้ทุกข์โทษเช่นเดียวกับดาวอังคาร และแปรสภาพเป็นศุภเคราะห์ได้ในบางโอกาส แต่ให้อิทธิพลรุนแรงและส่งผลเป็นระยะยาวนานกว่าคือประมาณ ๒ ปีครึ่งต่อหนึ่งราศี ดาวเสาร์นี้จะทำมุมเบียนให้ทุกข์โทษแก่เรือน หรือ ภพต่างๆ คือ เรือนที่โคจรเข้าไปสถิตได้แก่เรือนที่ ๑ (ลัคนา) เรือนที่ ๔ เรือนที่ ๖ เรือนที่ ๗ เรือนที่ ๘ เรือนที่ ๑๑ และเรือนที่ ๑๒ ของดวงชะตา
                      ดาวเสาร์มีความหมายที่เป็นที่รับรู้กันในวงการโหราศาสตร์ทั่วไปว่าเกี่ยวกับนักการเมือง สมาชิกรัฐสภา ผู้สูงอายุ วิศวกรและช่างโยธา ธรณีวิทยา ผู้ใช้แรงงาน คนจน คนดื้อรั้น คนใจร้อน คนวิตกจริต การก่อสร้าง การพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ รัฐสภา การเมือง การบริหารราชการแผ่นดิน บทบาทของสหภาพแรงงาน ความทุกข์โทมนัส ความยากจน การล้มเหลวในธุรกิจหน้าที่ ความหนาวเย็น ความแห้งแล้ง ฯลฯ ดาวเสาร์มีคู่มิตรสำคัญคือราหู เมื่อดาวเสาร์โคจรทับราหูในดวงชะตามักจะให้โชคใหญ่แก่เจ้าชะตา
                       เมื่อได้ตรวจสอบแผนที่การโคจรของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ในวันที่ดาวเสาร์โคจรเข้ามาใกล้โลกในครั้งนี้ ปรากฏว่า ดาวเสาร์ได้โคจรผ่านประเทศอินโดเซีย มาเลเซีย และเลียบฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทยโดยเฉพาะจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ผ่านกรุงเทมหานครขึ้นไปทางภาคเหนือตามลำดับ เส้นทางโคจรของดาวเสาร์นี้ยังตัดกับดาวอังคารซึ่งขณะนั้นอยู่หนือจังหวัดนราธิวาสด้วย ในวันเดียวกันนี้ดาวเสาร์ทำมุมเล็งกับดวงอาทิตย์สนิทที่เรียกว่า “เสาร์เพ็ญ” จึงได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่
                        การก่อการร้ายในสามจังหวัดภาคใต้ได้เริ่มเกิดขึ้นในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๗ หลังจากวันที่ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุดเพียง ๔ วัน จึงน่าจะพิสูจน์ได้ว่า เกิดจากอิทธิพลของดาวเสาร์ในครั้งนี้
                       เส้นทางโคจรของดาวเสาร์ดังกล่าวยังทำมุมเบียน ๑๕๐ องศากับดาวเน็ปจูนซึ่งโคจรผ่านหมู่เกาะปาปัว นิวกินี จึงส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรง ๕.๘-๖.๒ ริกเตอร์ ถึงสองครั้ง
                      เมื่อนำเอาดวงเมืองกรุงเทพมหานครมาเปรียบเทียบ ปรากฏว่า ดาวเสาร์กำลังโคจรอยู่ในราศีมิถุน เรือนที่ ๓ ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษแก่เรือนที่ ๕ ของดวงเมืองซึ่งเกี่ยวข้องกับการลงทุน ตลาดหุ้น ดังนั้นการที่ตลาดหุ้นของไทยได้ตกต่ำลงรายวันจึงน่าจะเกิดจากอิทธิพลของดาวเสาร์อีกเช่นกัน นอกจากนี้ ดาวอังคารซึ่งมีความหมายถึงทหาร การต่อสู้ การนองเลือดและได้รับอิทธิพลจากดาวเสาร์ยังโคจรทับดาวพุธซึ่งหมายถึงมวลชน และเป็นเจ้าของเรือนที่ ๖ ของดวงเมืองซึ่งมีความหมายถึงศัตรูลับ ข้าทาษบริวาร ประกอบกับในวันเดียวกันดาวเสาร์ยังทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ ๙๐ องศากับดาวเน็ปจูนในดวงเมือง ทั้งดาวเน็ปจูนจรยังโคจรทับดาวพลูโตและเรือนที่ ๑๐ ของดวงเมืองซึ่งหมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน สถานภาพทางการเมือง ดาวเน็ปจูนนี้มีความหมายว่า ภาพลวงตา ข่าวลวง การเจ็บป่วยด้วยโรคซึ่งไม่สามารถเห็นด้วยตาได้เช่น โรคเกี่ยวกับสมอง ประสาท รวมทั้งโรคที่เกิดจากไวรัส แบ็คทีเรีย การระบาดของไข้หวัดนกซึ่งเป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้ไก่เจ็บป่วย และถูกฆ่าเพื่อระงับยับยั้งการระบาดของเชื้อไวรัสนกเป็นจำนวนล้านตัว รวมทั้งการล้มเหลวเกี่ยวกับการข่าวกรองของทางราชการซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ก่อการร้ายเกิดความเหิมเกริมสามารถเข้าไปปล้นอาวุธที่ใช้ในราชการภายในค่ายทหารจำนวนหลายร้อยกระบอกได้อย่างง่ายดาย และปฏิบัติการรายวันเข่นฆ่าข่มเหงรังแกข้าราชการตำรวจทหารพลเรือนรวมทั้งชาวบ้านไม่เว้นแม้แต่พระเณรโดยไม่หวั่นเกรงต่อกฏหมายบ้านเมืองมาจนถึงทุกวันนี้ จึงดูจะช่วยเสริมข้อพิสูจน์อิทธิพลของดาวเสาร์ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
                      ส่วนเรื่องที่จะให้วิเคราะห์ว่า อิทธิพลของดาวเสาร์ที่เข้ามาใกล้โลกครั้งนี้มีผลต่อดวงชะตาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือ บุคคลอื่นๆ หรือไม่เพียงไรนั้น ผมขอออกตัวที่จะไม่สนองความต้องการให้ได้ เนื่องจากผมเป็นเพียงนักศึกษาวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวคนหนึ่งเท่านั้น บทความที่เขียนขึ้นในครั้งนี้จึงเป็นบันทึกผลกรณีศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาวิชาโหราศาสตร์ดวงดาวเท่านั้นมิใช่เพื่อการพยากรณ์ อนึ่งตามหลักของพระพุทธศาสนานั้น กรรม หรือ การกระทำของผู้ใด ย่อมจะส่งผลหรือวิบากแก่ผู้นั้นโดยตรง ตามความเข้าใจของผมนั้น ดวงดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในดวงชะตาเป็นแต่เพียงลายแทงแจ้งสมบัติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด และปรากฏการณ์ธรรมชาติของดวงดาวที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวอาทิ ดาวเสาร์โคจรเข้ามาใกล้โลกในครั้งนี้ ดาวอังคารเข้าวงพระจันทร์ในวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๔๗ จันทรุปราคา สุริยุปราคา ฯลฯ เป็นแต่เพียงสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าซึ่งอาจนำมาใช้ประโยชน์ในทางที่สมควรได้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการเตือนสติให้เจ้าชะตาตั้งอยู่บนความไม่ประมาท อย่าลืมตัวหลงตัว ขอให้ยึดพระธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน นักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการบริหารประเทศหากนำหลักธรรมนำหน้าการเมือง บ้านเมืองย่อมมีแต่ความสงบสุขร่มเย็นเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีสภาพเป็นพลเมืองดี มีผู้ที่มีศีลธรรมคุณธรรมมีความรู้ในวิชาชีพสามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัวในลักษณะเศรษฐกิจพอเพียงโดยไม่ต้องรอความหวังจากโครงการเอื้ออาทรต่างๆ รวมทั้งทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อชุมชนสังคมและประเทศชาติได้
                       ดังกล่าวแล้วข้างต้นว่า เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคมนี้ ดาวอังคารได้โคจรเข้าวงพระจันทร์ (Mars Occultation) ปรากฏการณ์ธรรมชาติในลักษณะนี้ ผมได้เคยเขียนบทความกรณีศึกษาตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวไปแล้วหลายครั้ง ดังนั้น จึงน่าสนใจอย่างยิ่งที่จะศึกษาผลกระทบจากอิทธิพลของปรากฏการณ์ครั้งนี้ ภัยธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นในวันแรกเท่าที่ทราบคือ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ตุรกี มีผู้บาดเจ็บล้มตายหลายคน เรื่องนี้ ผมจะได้นำเสนอในโอกาสต่อไป

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

http://www.horawej.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=91225&Ntype=14

http://suriyon.rtarf.mi.th/suri_doc66.htm

 

 

 เรียบเรียงโดย

น.ส.ปัทมาภรณ์  เกตุศรี  54010510022  GS

น.ส.วราภรณ์  โม้ทอง  54010510032   GS

น.ส. กนิษฐา   แพงวงศ์   54010510038  GS

หมายเลขบันทึก: 504002เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2012 00:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 ตุลาคม 2012 14:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อาจารย์เห็นแต่บทความคนอื่น ... ไม่เห็นการตีความของพวกเราเลยครับ

แสดงว่าต้องตีความลงไปด้วยเหรอคะอาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท