นโยบาย..3 แสน 5 หมื่นล้านแก้น้ำท่วม จำนำข้าว ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ รถคันแรก ไม่รอบคอบและอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝง


บทความจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2555

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ข้างล่างนี้

http://www.naewna.com/columnist/1104

 

นโยบาย..3 แสน 5 หมื่นล้านแก้น้ำท่วม จำนำข้าว ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ รถคันแรก ไม่รอบคอบและอาจจะมีผลประโยชน์แอบแฝง

 

สัปดาห์นี้ ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะน้ำท่วมอีกครั้ง สุโขทัยและพระนครศรีอยุธยาและหลายจังหวัดเริ่มจมน้ำ คงจะต้องดูกันต่อไปว่า ปี 2555 จะเอาอยู่ไหม?

ส่วนที่สหรัฐ ภายใต้การนำของโอบามา พยายามให้สหรัฐเป็นมิตรกับทุกประเทศในโลกมุสลิม แต่คนมุสลิมโกรธแค้น เรื่องหนังอเมริกันที่ดูถูกศาสนาอิสลาม ทำท่าจะบานปลาย ทูตสหรัฐที่ลิเบียถูกฆ่าตาย ประท้วงหลายประเทศ จะแก้อย่างไร?

ในฐานะเป็นประชาชนคนไทยที่รักชาติและเป็นห่วงประเทศ จะขอสรุปปัญหาหลักๆ ที่รัฐบาลเสียงข้างมากทำอยู่ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยส่วนรวมหรือไม่? เป็นรัฐบาลเพื่อยึดอำนาจรัฐ ควบคุมงบประมาณ แต่ความยั่งยืนระยะยาวจะเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ยังเป็นที่สงสัยและใครจะช่วยได้ แต่อย่างน้อยบทความก็คงจะเตือนสติผู้อ่านและสื่อ (ที่ถูกซื้อ) ให้มองถึงผลประโยชน์ของประเทศระยะยาวด้วย

นโยบาย..เรื่องแรกคือ งบ 350,000 ล้าน แก้น้ำท่วม

-ที่น่าสงสัยคือ ทำไมต้องรีบร้อนอยากเป็นพระราชกำหนด แต่เกือบ 1 ปี มาแล้วยังใช้เงินไปนิดเดียว

-350,000 ล้าน คิดมาจากหลักการอะไร คำนวณอย่างไร?

-แต่ที่รู้ๆ ก็มีการวางแผนการโกงกินงบประมาณของชาติแบบมโหฬาร และใครจะรับผิดชอบ

-ทำไมต้องมีบริษัทต่างประเทศโดยเฉพาะจีน เข้ามาแก้ปัญหาน้ำท่วมของไทย

ผมมีข้อสรุปคือ เป็นวิธีการของคุณทักษิณที่หาช่อง โอกาสที่จะมีงบประมาณของรัฐก้อนใหญ่เพื่อการเมือง

 


บรรยากาศการประชุมสัมมนาคณบดีวาระพิเศษ จัดทำ Road Map การเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและกำหนดกรอบการดำเนินงานเกี่ยวกับอาเซียนของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีอธิการบดีมาต้อนรับ และผมได้รับเกียรติให้บรรยายเรื่อง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กับการเป็น
Education Hub ของอาเซียน เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2555 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา

 


ผมมองว่า 3 แสน 5 หมื่นล้านคือ ขนมเค้กก้อนโตที่จะเพิ่มให้กลุ่มการเมืองระบอบทักษิณ

นโยบาย..เรื่องที่ 2 เรื่องจำนำข้าว

-สื่อหลายสำนักเริ่มให้ความสนใจ

-สถานี Thai PBS ช่องทีวี.สาธารณะเจาะลึกเรื่องโกงข้าวแต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่สนใจคล้ายๆ ธุระไม่ใช่

สิ่งแรกที่รู้ๆ กันก็คือ ประเทศที่ได้ประโยชน์คือ เขมร เพราะมีการสวมสิทธิ์จำนำข้าวจากเขมร มาจำนำข้าวในประเทศไทย

-นำหลักฐานปลอมโดยการร่วมมือกับโรงสีและเจ้าหน้าที่รัฐ

-คาดว่าผลประโยชน์ต่อการเมืองและพรรคการเมืองมหาศาล แต่เงินเหล่านี้คือเงินที่เสียโอกาสไม่ได้นำไปใช้ที่มีประโยชน์กว่าและเป็นเงินภาษีอากรของคนไทย

-แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เกษตรกรยังยากจนอยู่

-สุดท้ายยุคคุณยิ่งลักษณ์ การส่งออกข้าวไทยติดอันดับ 3แพ้อินเดีย แพ้เวียดนาม เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี

นโยบาย..เรื่องที่ 3 เรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท

ผมได้จัดสัมมนาร่วมกับนายจ้าง ลูกจ้างและกระทรวงแรงงาน นายจ้างส่วนมากปรับตัวลำบากมากๆ ไม่มีใครเห็นด้วย นโยบายนำร่องใน 7 จังหวัดนำร่องและรัฐบาลยังจะเดินหน้าอีก 60 กว่าจังหวัดที่เหลือในเดือนมกราคม 2556 นี้ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้าน ผลกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันของไทย ในอนาคตก็จะลดลงเพราะต้นทุนการผลิตสูง

ส่วนนโยบายสุดท้าย รถคันแรก

-ทำไมต้องไปอุดหนุนคนชั้นกลาง

-บริษัทรถส่วนมากเป็นบริษัทจากต่างประเทศ ใครได้ประโยชน์?

-หนี้เสียในอนาคตจะมีมากเพราะ คนซื้อบางคนไม่มีความสามารถในการผ่อนส่งเป็นความต้องการ เทียม ไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริง

-นโยบายนี้ขัดกับการประหยัดพลังงาน

-รถติดในกรุงเทพฯมากขึ้น

-สิ่งแวดล้อมเป็นพิษมากขึ้น

“ระยะยาวใครได้ประโยชน์?”

ผมเชื่อว่าในอนาคตไม่นานเศรษฐกิจของไทยก็จะพบกับวิกฤติที่รุนแรงเพราะนโยบายผิดพลาดดังกล่าว คนไทยทั้งหลายก็ต้องช่วยกันให้ข้อมูลที่ถูกต้องและประคับประคองประเทศต่อไปและให้อยู่อย่างยั่งยืน

งานหลักๆ ของผมในการทำงานพัฒนาทุนมนุษย์ของคนไทยก็เดินหน้าต่อไป ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้โอกาสผมไปร่วมและหวังว่าจะช่วยองค์กรของท่านอย่างแท้จริง

จบงานพัฒนาทุนมนุษย์ 100 คน ของกรมพัฒนาที่ดินอย่างน่าพอใจ องค์กรนี้มีคุณค่าต่อประเทศไทยมาก เพราะเป็นองค์กรที่จะช่วยให้เกษตรกรมีศักยภาพในการเพาะปลูก และใช้ที่ดินสร้างความปลอดภัยในเรื่อง “อาหาร” เพราะจะดูแลเรื่องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์มากกว่าปุ๋ยเคมี อนาคตกรมนี้จะช่วยให้คนไทยเป็นมะเร็งน้อยลง

ผมพัฒนาระดับผู้ปฏิบัติการกลาง เห็นว่าถ้ากระตุ้นให้เกิดพลังทุกๆ คนก็มีศักยภาพแน่นอนซึ่งจะต้องทำอย่างต่อเนื่องและตรงความจริง

ส่วนที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา เมื่อวันที่12 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสในฐานะกรรมการสภาฯได้เป็นองค์ปาฐกแสดงความคิดเห็นต่อหน้าผู้บริหารทั้งหมดกว่า 300 คน เรื่อง ม.อ. กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและพัฒนาการศึกษาและพัฒนาความมั่นคงใน 3 จังหวัดภาคใต้ซึ่งพบว่า

ม.อ.มีศักยภาพมีจุดแข็งมากมาย เช่น การแพทย์ วิศวะ วิทยาศาสตร์และวิจัยความสัมพันธ์ระหว่างมุสลิมกับวัฒนธรรม
อื่นๆ ที่ร่วมมือกันกับประเทศอาเซียนและทำให้สำเร็จเป็นรูปธรรมได้ ขอให้ทำงานเป็นทีม ผนึกกำลังทุกๆ ส่วนของมหาวิทยาลัยทั้งหมด



ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์
เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างประเทศ
[email protected]
www.gotoknow.org/blog/chiraacademy
แฟกซ์ 0-2273-0181 begin_of_the_skype_highlighting            0-2273-0181      end_of_the_skype_highlighting



หมายเลขบันทึก: 503831เขียนเมื่อ 28 กันยายน 2012 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม 2012 09:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท