ปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมาจากสภาพการดำเนินชีวิตตามระบบ "วัตถุนิยม"
หากเราเปลี่ยนแนวคิดใหม่ที่ทรงด้วยคุณค่ายิ่ง โดยการดำเนินชีวิตตามระบบ "พอเพียงนิยม"
ปัญหาต่าง ๆ จักลดลง หรือแทบไม่มี
ด้วยความปรารถนาดีจาก "ธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก"
ยุคที่อะไร ๆ มันเปลี่ยนแปลง ซึ่งส่วนใหญ่เปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี ไม่ควร ที่ว่าไม่ดีไม่ควรคือเปลี่ยนแปลงในทางเสื่อมถอยด้านศีลธรรม ด้านคุณธรรม จนทำให้ผู้คนเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เรื่องเด็กหนีวัดก็เข้าทำนองนี้
สมัยเมื่อประมาณ 40 ก่อนหน้านี้เด็กผูชายที่บ้านอยู่ห่างไกลจากโรงเรียน พ่อแม่ต้องนำไปฝากไว้เป็นศิษย์วัด บางวัดมีเด็กวัดเป็นร้อย ๆ คนเด็กผู้หญิงฝากวัดไม่ได้ต้องนำไปฝากญาติ หรือเพื่อนฝูงที่อยู่ใกล้กับโรงเรียน
เด็ก ๆ สมัยนั้นที่พ่อแม่นำไปฝากไว้ที่ดังกล่าวจะไม่มีปัญหาในเรื่องการเต็มใจอยู่ไม่เต็มใจอยู่ ส่วนใหญ่จะพึงพอใจที่พ่อแม่จัดให้ ถ้าไม่พึงพอใจก็ต้องถูกบังคับ และก็ไม่เคยได้ยินข่าวในเรื่องถูกบังคับ หากถามว่าสมัยนี้ถ้านำเด็กไปฝากวัด ฝากญาติ เด็กจะว่าอย่างไร จะเต็มใจหรือไม่ คำตอบคำสุดท้ายก็คือไม่เต็มใจ นี่จะเรียกว่า "เด็กหนีวัด" ก็ได้
วัดสมัยก่อนเป็นสถานสร้างคนแห่งหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาสทุกวัดจะเข้มงวดในการดูแลเด็กวัดอย่างยิ่ง เด็กวัดที่อยู่ในปกครองต้องอยู่ในระบบระเบียบ เด็กวัดจึงล้วนแต่ถึงอบถึงรม ส่งผลให้มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ดังนั้นการเรียนจึงมีคุณภาพ การันตีได้ว่าเด็กทีเคยเป็นศิษย์วัดเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ
คนรุ่นอายุประมาณ 50 ปี ยังกล่าวขานถึงคุณค่าของการเป็นเด็กวัด และยังพูดถึงความเข้มงวดกวดขันของพระสงฆ์ที่เป็นผู้ปกครองอย่างไม่ลืมเลือน นั่นแสดงให้เห็นว่าการอบรมสั่งสอนให้อยู่ในระเบียบกฏข้อบังคับ การอยู่ในโอวาทของเด็กสมัยก่อนมีความเป็นบรรทัดฐานดีเยี่ยมที่ยังสรรเสริญเยินยออยู่ไม่จางหาย
คนหัวโบราณ หรือคนที่เคยรู้เรื่องการเป็นเด็กวัดยังมีจิตใจที่จะส่งเสริมให้บุตรหลานเข้าไปเป็นศิษย์วัด แต่ก็ทำไม่ได้เหตุสำคัญประการใหญ่เนื่องจากเด็กสมัยนี้หนีวัด ความเป็นจริงวัดเดียวนี้มีสถานที่เอื้ออำนวยมากขึ้นกว่าเก่าหลายเท่า สรุปว่าวัดยังมีที่ว่างสำหรับเด็กวัด
เหตุที่เด็กหนีวัดสาเหตุหนึ่งคือปัจจุบันมีบ้านเช่า มีหอพัก การอยู่หอพัก อยู่บ้านเช่ามีความเป็นอิสระอย่างมาก ด้วยกฎระเบียบที่ไม่เข้มงวดเหมือนอย่างกฏของวัด หอพักที่เข้มงวดมาก ๆ เด็กจะไม่อยู่ ผู้เป็นเจ้าของจึงต้องยอมลดกฎระเบียบ ตรงนี้เองที่ทำให้เด็กขาดการอบรมดูแลอย่างใกล้ชิด เด็กอยู่บ้านเช่า หอพักจึงขาดระเบียบวินัย ขาดความรับชอบ ผลการเรียนก็จะอ่อนลง
เรื่องการหนีวัดจองเด็กจึงเป็นเรื่องที่น่าคิดอย่างมาก ด้วยเยาวชนปัจจุบันต้องออกจากครอบครัว ออกจากพ่อแม่ เพื่อไปศึกษาเล่าเรียน บางครั้งถึงต่างจังหวัด ต่างภูมิภาค นี่คือประเด็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้คนขาดคุณภาพ ดังนั้นพ่อแม่ รัฐบาล การทรวงศึกษาธการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันวางแผนหาแนวทาง หรือแก้ปัญหาเพื่อให้เด็กยุคใหม่มีคุณภาพเช่นเดียวกับเด็กวัดแบบเก่า แบบโบราณ
ท้ายนี้ฝากบทประพันธ์กลั่นจากใจ
เป็นระเบียบเป็นระบบอย่างครบถ้วน
เป็นกระบวนสร้างคนชนของรัฐ
ยึดแนวเก่าเอาแบบแอบแนววัด
หรือจะจัดแนวใหม่ใส่ใจเอย
ปัญหา และอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนมาจา
กสภาพการดำเนินชีวิตตามระบบ "วัตถุนิยม"
หากเราเปลี่ยนแนวคิดใหม่ที่ทรงด้วยคุณค่ายิ่ง โดยการดำเนินชีวิตตามระบบ "พอเพียงนิยม"
ปัญหาต่าง ๆ จักลดลง หรือแทบไม่มี
ด้วยความปรารถนาดีจาก "ธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก"
แม้อายุจะไม่ถึง 50 เห็นด้วยค่ะท่าน เป็นศิษย์หรือเด็กวัด ได้อะไรมากมายเลยค่ะ
หมอเปิ้นยังคิดอยู่เลยว่า .... ถ้าเป็น ผู้ชาย ... เกษียรอายุราชการ....น่าไปช่วยหลวงพ่อที่วัด นะคะ .... ได้บำเพ็ญบุญที่วัด นะคะ
ขอกราบเรียนท่านด้วยความเคารพจริงๆครับ ที่นำเรื่องเด็กวัดมานำเสนอดีมากๆครับแนวคิดของท่าน ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับที่นำเสนอด้านนี้ ที่มักจะไม่มีใครกล่าวถึง
ขอบคุณครับที่นำประเด็นนี้มากระตุกเพื่อกระตุ้นเตือน...กัน
ทุกวันนี้ อย่าว่าแต่ไปเป็นเด็กวัดเลยครับ แม้จะเข้าวัดก็ยากแสนยาก เด็กทุกวันนี้... -ชอบเข้าวิกมากกว่าเข้าวัด -ชอบฟังเสียงเพลงมากกว่าเสียงพระ -ชอบสนุกมากกว่าสงบ -ชอบใช้อารมณ์มากกว่า สติปัญญา คงต้องชวนกันสร้างกระแส เรื่องวัด เรื่องศีลธรรมกันยกใหญ่เลยครับ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ ที่นี่ ค่ะ