ฟัก แฟง แตงกวา กับปัญหาดอกหลุดร่วง

 

ฟักแฟงแฟงแตงกวาเป็นพืชผักสวนครัวที่ปู่ย่าตายายและบรรพบุรุษของไทยปลูกไว้ตามหัวไร่ปลายนาหรือเป็นพืชผักสวนครัวรั้วกินได้มาอย่างยาวนาน จนปัจจุบันเริ่มเรือนรางห่างเหินหมดไปจากสังคมหรือครอบครัวชนบทเนื่องด้วยผู้คนชนรุ่นใหม่นิยมที่จะซื้อหามารับประทานกันมากกว่าที่จะปลูกจะเพาะเกาะะก็บไว้กินเองมากกว่า อีกทั้งในชุมชนคนต่างหวัดก็ยังมีตลาดนัดที่จัดสรรเป็นประจำสม่ำเสมอเกือบทุกวันต่อสัปดาห์ ทำให้วิถีชีวิตคนเมืองกับคนต่างจังหวัดมีชีวิตที่ไม่ขัดแยกแตกต่างกันมากเท่าใด ต่างมีสิ่งของปัจจัยให้จับจ่ายใช้สอยได้ไม่ยากเหมือนกับในอดีต

การปลูกพืชผักสวนครัวรั้วกินได้จึงไม่ใช่สิ่งที่จะปลูกแบบสิ่งละอันพันละน้อยอีกต่อไป อย่างน้อยก็ต้องปลูกกันเป็นไร่เป็นสวนชวนกันทำเป็นอาชีพมากกว่าที่จะปลูกไว้แบ่งปันทานกันเองในครอบครัวและเผื่อแผ่เพื่อนบ้าน เมื่อปลูกเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ใช้วิถีเชิงเดี่ยวก็หลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องปะปนวนเวียนพบเจอกับโรคแมลงศัตรูพืชเป็นธรรมดาเพราะปัญหาขาดความสุมดุลย์ในการที่จะมีระบบนิเวศน์ที่หลากหลายเกื้อกูลหนุนอิงกัน

นอกจากปัญหาเรื่องโรคแมลงศัตรูพืชแล้วพืชผักกตระกูลฟักแฟงแตงกวายังมีปัญหาในเรื่องการผสมเกสร ยิ่งเป็นระบบการปลูกพืชผักที่ใช้ยาฆ่าแมลงจำแลงแปลงธรรมชาติให้เป็นสารพิษทำลายต่อแตน แมลง ผึ้งให้สูญหายล้มตายจากสารพิษมหาภัยส่งผลให้การผสมเกสรมีความออนแอแย่ลงไปตามจำนวนของแมลงผสมเกสรที่ตายหายไปกับสารเคมีที่เป็นพิษ ดอกผลของฟักแฟงแตงกวาจะติดดกตกผลไม่เป็นหมันต้องหมั่นเสริมเพิ่มเติมจุลธาตุ (tracelement) สังกะสี โบรอนและวิตามินอีใส่เสริมเพิ่มเข้าไปด้วยก็จะช่วยผสมเกสร ไม่เป็นหมัน ขยับขยายรังไขดอกใหญ่ผลโตดีขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน เพราะโบรอนจะช่วยขยายรังไข่ช่วยสนับสนุนให้แคลเซียมทำงานประสานเซลล์ได้ดีขึ้น สังกะสีช่วยในการสังเคราะห์ฮอร์โมนอ๊อกซินขั้วดอกและผลเหนียววิตามินอีช่วยให้เกสรไม่เป็นหมันเพราะฉะนั้นช่วงติดดอกออกผลควรหลีกพ้นการฉีดพ่นสารเคมียาฆ่าแมลงและหมั่นแต่งแต้มเติมเสริมจุลธาตุให้เพียงพออยู่เสมอ

มนตรี บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com