ฉี่ไม่ออก


ปล่อยให้ผมหลับตาและนับลูกแกะต่อไปเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดที่สุดๆ, ขอขอบคุณจริงๆ ครับ คุณป้าชุดสีน้ำเงินคนนั้น

“โอ๊ย... โอย... เจ็บมากเลยครับหมอ” เสียงร้องดังลั่นของผู้ป่วยชายคนหนึ่งจากรถเข็นนอนด้านซ้ายมือของผมในห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินของโรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่ง ขณะที่แพทย์ดูอาวุโสกว่าจับขาท่อนล่างข้างซ้ายที่งอเกือบจะพับ ผิดรูปไปจากเดิมขยับไปมา

“หักทั้งสองท่อน ส่งออร์โธ ...” แพทย์คนเดิมหันไปบอกอีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ แล้วทั้งสองคนก็เดินไปดูผู้ป่วยคนอื่น

ผมนอนอยู่บนรถเข็นเช่นเดียวกับผู้ป่วยคนอื่นๆ อีกหลายสิบคัน แต่ละคันจะหันหัวชิดผนังด้านในของห้อง แต่ก็ยังมีอีกหลายคันที่จอดระเกะระกะ หันหัวแบบไร้ทิศทางอยู่กลางห้อง เสียงร้องครวญครางจากความเจ็บปวดดังมาเป็นระยะๆ ยังมีรถเข็นนั่งอีกหลายสิบคันจอดเรียงต่อกันเป็นแถวยาวทะลุเลยออกไปนอกห้อง รอการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาจากแพทย์

การให้บริการในวันหยุดของห้องอุบัติเหตุฉุกเฉินของโรงพยาบาลศูนย์ในวันนี้ของเขา มีผู้ป่วยถูกเข็นเข้ามาและเข็นออกไปดูสับสน วุ่นวายตลอดเวลา ผมถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้านในต่างอำเภอ จากอุบัติเหตุเลื่อยไฟฟ้าหลุดมือตกใส่เท้าข้างขวาเมื่อเช้าวันนี้ วันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดปกติของผม แต่อยากจะทำโต๊ะเล็กๆ สักตัวไว้ใช้เอง ในบ้านหลังแรกของชีวิตตนเองและครอบครัวที่กำลังสร้าง โดยเก็บเศษไม้ที่เหลือจากการทำแบบเทคอนกรีตมาต่อทำเป็นแคร่หรือโต๊ะเล็กๆ เพื่อไว้วางข้าวของต่างๆ

เมื่อสองวันก่อนก็ได้ทำโต๊ะเล็กๆ มาหนึ่งตัว  ใช้กระดาษทรายขัดและลงแล็คเกอร์ซะมันวาวทีเดียว  แถมอวดเมียด้วยความภาคภูมิใจว่า นี่ฝีมือช่างใหญ่ประจำบ้านล่ะ (ก็ไม่เห็นจะต้องเป็นชิ้นงานใหญ่โตอะไร  ถ้าเราจะมีความสุข ความภาคภูมิใจกับมัน  มัวแต่รอความภาคภูมิใจใหญ่ๆ ก็ไม่รู้จะมีเมื่อไหร่)

ใบเลื่อยบาดเฉือนนิ้วนางไปบางส่วน แต่นิ้วกลางของเท้าถูกตัดห้อยร่องแร่ง เกือบขาด ปิดทับด้วยผ้าก๊อซชุ่มเลือดแต่ก็ยังมีความหวังว่าน่าจะต่อคืนได้ อย่างน้อยผมก็ไม่อยากเป็นคนที่ไม่ครบสามสิบสอง

ผมก็คงมีสภาพไม่แตกต่างกับผู้ป่วยคนอื่นๆ มากนัก ข้างๆ รถเข็นนอนของผมมีเจ้าสองสาวตัวน้อยเป็นญาติผู้ติดตาม ยืนอยู่ข้างๆ เป็นกำลังใจให้ผมได้เป็นอย่างดี เจ้าคนพี่ถือผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆ กับโทรศัพท์อีกเครื่องเพื่อไว้ติดต่อกับแม่ของเขาที่กำลังตามมา เจ้าคนน้องหอบผ้าขาวม้าตาหมากรุกสีแดงแถบเหลืองเปื้อนเลือดที่ใช้พันเท้าผมจากที่เกิดเหตุไว้แนบอก ลูกสาวทั้งสองของผมทั้งคู่อยู่ในอาการสงบ ไม่ตื่นตระหนกหรือลุกรี้ลุกรนเหมือนเมื่อตอนแรกๆ ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เห็นว่าเวลาผ่านไปนานพอสมควรจนรู้สึกสงสาร ผมจึงบอกให้เขาออกไปนั่งเก้าอี้พลาสติกที่เรียงเป็นแถวติดกันด้านนอกหน้าห้องก็ได้ ทั้งสองจึงห่างจากผมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลชุมชนประจำอำเภอมา

ใกล้ๆ เกือบจะเที่ยงวัน รถเข็นที่ผมนอนอยู่ห้องด้านนอกได้ถูกเคลื่อนย้ายลึกเข้าไปในห้องด้านในที่อยู่ถัดไป ลึกเกือบสุดถึงผนัง สักครู่ใหญ่แพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมของโรงพยาบาลแห่งนี้ได้เข้ามาเปิดผ้าก๊อซที่เริ่มจะแห้ง จับเป็นก้อนแข็งออก

ซี๊ด..... ความเจ็บปวดสุดๆ ตอนดึงผ้าออก สุดแสนจะบรรยายจริงๆ

“กระดูกนิ้วขาดแล้ว ส่งศัลย์ ออร์โธ ...” หันไปบอกแพทย์เด็กๆ สองคนที่เดินตาม

เท้าขวาสั่นระริกๆ จากความเจ็บปวด คงเป็นเพราะยาชาที่ฉีดก่อนส่งตัวมาเริ่มจะหมดฤทธิ์ และรู้สึกว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่มีทางทำอะไรกับมันได้ นอกจากจะอยู่ให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามทำสมาธิง่ายๆ จากที่เคยได้ยินมา นอนหลับตานิ่งๆ นับลูกแกะไปเรื่อยๆ แต่รู้สึกว่าจะวกไปวนมาจนไม่รู้ว่านับไปได้กี่ร้อยตัวแล้ว

“ขอดูแผลหน่อยนะคะ” ผมลืมตาขึ้นจากเสียงผู้หญิงพูดข้างๆ คุณหมอตัวเล็กๆ ใส่แว่นตาหนาเตอะมายืนอยู่ที่ท้ายเตียง แล้วก็ดึงผ้าก็อซออกดูแผล ซี๊ด.......อ้า..... อีกแล้ว ซักถามข้อมูลเล็กน้อย แล้วก็เดินจากไป

ผมหลับตาลงและเริ่มนับลูกแกะต่อ และนับเร็วขึ้นอีกซักสามเท่า ได้ซักพักคุณหมอเอ็กเทิร์นสวยๆ กับหนุ่มรูปหล่อก็เข้ามาดูแผลและซักถามข้อมูลแบบเดิมๆ อีก แล้วก็จากไป ปล่อยให้ผมหลับตาและนับลูกแกะต่อไปเพื่อต่อสู้กับความเจ็บปวดที่สุดๆ

แล้วและต้องสะดุ้งเฮือกใหญ่เมื่อคุณหมอเอ็กเทิร์นอีกกลุ่มใหญ่เข้ามาเปิดแผลอีก คงคิดว่าผมหลับเลยไม่ได้บอกก่อน แต่ก็ขอโทษผมภายหลังและขอดูแลอย่างละเอียดอีกครั้ง ดูอย่างละเอียดครั้งนี้เล่นเอาสั่นไปทั้งตัวเลยคุณเอ๋ย อากาศร้อนอบอ้าวขึ้นมาทันที ทำเอาผมเหงื่อตกเปียกชุ่มไปทั่วตัวทีเดียว ภาวนาว่าอย่าให้ใครมาดูแผลอย่างละเอียดอีกเลย จะทำอะไรก็ทำเถอะ อย่ามาเปิดดูแล้วก็ไป เปิดดูแล้วก็ไปบ่อยนักเลย

แผนการรักษาของผม จะต้องรอเข้าห้องผ่าตัดเพื่อต่อนิ้ว โดยการใส่แกนเหล็กเข้าไปยึดกระดูกไว้ แต่ต้องรอคิวผ่าตัดคิวที่สอง คิวแรกรอบบ่ายห้องผ่าตัดจะต้องรีบผ่าตัดให้ผู้ป่วยอีกรายเป็นการเร่งด่วนก่อน ไม่งั้นเขาอาจจะตาย คิวที่สองก็ประมาณบ่ายสามโมง ผมชำเลืองดูนาฬิกาข้างผนัง ขณะนี้เพิ่งจะเที่ยงวันอีกตั้งสามชั่วโมงกับความเจ็บปวด ก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่าระหว่างความเจ็บปวดกับความเป็นความตายแพทย์จะต้องเลือกทำผู้ป่วยคนไหนก่อน ไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่นหรอกครับ นอกจากกลั้นใจตายไปเลยถ้าทนไม่ไหว

ปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้น ตอนนี้ผมอยากเอาน้ำออกซะแล้ว ได้ขอเป็ดจากพยาบาลที่เดินดูแลผู้ป่วยมาได้แล้ว แต่จะฉี่ยังไงล่ะ มองหาม่านแบบลากกางได้ก็ไม่เห็นมี มองดูพยาบาลเจ็ดแปดคนในห้องนั้น ก็เห็นสาระวนอยู่กับการดูแลคนไข้ เดี๋ยววัดความดันเตียงนั้น ย้ายมาเตียงนี้ โทรศัพท์รายงานแพทย์ บันทึกการรักษาพยาบาลต่างๆ อธิบายข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติ วุ่นวายไปหมด หน้าตาที่มีสีสันสวยงามจากแป้งและลิปสติกที่ตกแต่งไว้อย่างประณีตของบางคนเริ่มซีดจาง บางคนปาดเช็ดเหงื่อบริเวณใบหน้าเป็นระยะๆ ผมที่มัดไว้อย่างเรียบร้อยในตอนเช้าเริ่มหลุดลุ่ย ไม่มีใครว่างเลย

แล้วผมจะฉี่บนเตียงได้ยังไงนี่ รู้สึกผะอืดผะอมสุดๆ ครับท่าน สารภาพว่าไม่เคยฉี่ต่อหน้าธารกำนัล ผู้คนมากมายอย่างนี้มาก่อนเลยจริงๆ ตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่มีพยาบาลหน้าตาเฉยแบบดุๆ อยู่ใกล้ๆ ญาติผู้ป่วยทั้งชาย หญิงอีกบานตะเกียง พยาบาลสาวๆ เอ็กเทิร์น ขาว สวย หมวย อึ๋มจ๋ากันทุกคนเดินผ่านไปมาตลอดเวลา มันลำบากมากนะที่จะฉี่ออกมาได้ สั่งให้เจ้าใบ้ทำหน้าที่ของมัน มันไม่ฟังคำสั่งใครอยู่แล้ว

“จะให้เอาเป็ดไปเก็บมั๊ยคะ?” เสียงถามจากผู้หญิงวัยกลางคนใส่ชุดสีน้ำเงินเอ่ยถาม

“ผมยังฉี่ไม่ออกเลยครับ” ผมบอกด้วยเสียงแผ่วเบา

หล่อนยืนมองผมอย่างฉงน เพียงชั่วครู่ก็ยิ้มออกมาอย่างขำๆ แล้วก็เดินหายไป สักครู่ก็เห็นลากม่านบังตามาจากไหนไม่รู้ กางออกอ้อมรอบเตียงข้าพเจ้า

“ทำธุระเสร็จแล้วเรียกนะคะ” แล้วก็เดินจากไป

เฮ้อ... ค่อยเข้าท่าหน่อย ผมรำพึงกับตัวเอง คราวนี้นั่งหลับตาแล้วจินตนาการว่ากำลังเดินเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าบนเนินเขาเตี้ยๆ แล้วผมก็ยืนฉี่อย่างสบายอารมณ์ท่ามกลางลมเย็นๆ พัดเอื่อยเฉื่อยฉิว เย็นสบาย ไม่มีใครเห็นเรา เพราะเราไม่เห็นใคร ได้ผลเกินคาด น้ำที่คั่งค้างอยู่พากันวิ่งแย่งกันลงปากเป็ดเป็นที่สนุกสนาน ปริมาณเต็มตัวเป็ดทีเดียวครับ

ขอขอบคุณจริงๆ ครับ คุณป้าชุดสีน้ำเงินคนนั้น

หมายเลขบันทึก: 503706เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2012 12:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2012 20:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สุดยอดค่าาา ขอเอาไปเผยแพร่นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท