ต้นไม้...เปียโน...โกทูโนว์รำพึงรำพัน


เช้าวันอาทิตย์ที่ 23 กันยายน 2555

 

ผมพาทิมดาบ-ลูกชายมาเรียนเปียโนทุกเช้าวันอาทิตย์,  1 เดือน จะขาดเรียนเพียงอย่างมาก 1 ครั้ง  เพราะผมติดธุระ หรือมีคนใดในบ้านเกิดอาการไม่สบายเท่านั้น...

 

ค่าเรียนเปียโนที่ทิมดาบเรียนมา 2 ปีกว่า, 4 ครั้ง หรือ 1 เดือน จำนวน 900 บาท และครูเพิ่งขอขึ้นค่าเรียนเดือนนี้เป็น 1,200 บาท ตก 4 ครั้งๆ ละ 300 บาท ต่อ 1 วัน 1 ชั่วโมง  นับเป็นค่าเรียนไม่แพงถ้าเทียบกับตัวเมืองใหญ่ๆ เช่น ...ขอนแก่น  ซึ่งผมไม่อาจจะหาเงินให้ทิมดาบเรียนได้           

 

เปียโน...เป็นความฝัน (ความฝันโง่ๆ) ร่วมกันทั้งผมและภรรยา, พวกเราเป็นประเภทคลั่งไคล้ซีรีย์ญี่ปุ่นและเกาหลี (พักหลังไม่ค่อยได้ดู...) และเพลงประกอบส่วนใหญ่จะไพเราะมาก และมีเสียเปียโนเคล้าคลอ...และจับใจ...ถึงแม้ผมไม่รู้เนื้อหาบทเพลงว่า กล่าวถึงอะไร ? …แต่เมื่อหลับตา...เนื้อหา อารมณ์ และการรับรู้...เป็นสิ่งที่ผมจินตนาการได้กว้างไกลและไร้ขอบเขต….

 

ทิมดาบตกลงปลงใจอย่างง่ายดายในตอนแรก ที่พวกเราขอให้ไปเรียนเปียโน, ในทุกๆ วันอาทิตย์ และกลับมาทบทวนบทเรียนในทุกๆ เช้า ด้วยอิเล็กโทนของเขา (สักวันที่บ้านของเราต้องมีเปียโน...มีญาติๆ พี่น้องหลายคนอาสาออกเงินให้ หรือขอซื้อให้ก่อน...แต่พวกเราไม่อยากติดหนี้บุญคุณ) ...เมื่อเสียงเปียโนของทิมดาบเล่น..ผมมองเห็นความจดจ่อและการกอดเก็บตัวโน๊ตของเขา...และยามผมเหนื่อยหน่ายกับสิ่งแย่ๆ ที่เจอะเจอถาโถมเข้ามา...เสียงเปียโนของลูกชาย สามารถบรรเทาและเยียวยาอาการของผมให้ทุเลาเบาบางได้อย่างประหลาด

 

มีใครหลายๆ คน ถามผมว่า ?, บังคบลูกหรือเปล่า?...เรียนเปียโนมีประโยชน์อะไร? ….ทำไมไม่เอาเวลาที่มีค่าไปเรียนพิเศษ...ติวเตรียมสอบ?....เห็นไหมไปเรียนเปียโนลูกถึงสอบได้ที่ 20 กว่าๆ ของห้อง....เลิกเรียนเถิด....????

 

คำถามมากมายที่รอคอยคำตอบเหล่านั้น ทำให้ผมฉุกคิดและทบทวนอยู่ตลอดเวลา...

ในฐานะพ่อคนหนึ่งที่พยายามขัดเกลาสั่งสอนให้ลูกเป็น คนเก่ง-ดี-มีสุข…จะทำได้หรือเปล่า?

…หรือวันข้างหน้า...ผมจะปล่อยให้ลูกย้อนมาถามผมว่า “สิ่งที่ให้ลูก...พ่อแม่รังแกฉันหรือเปล่า?”

...หรือเห็นภาพลูกในวันข้างหน้าที่ผมมีชีวิตอยู่...ลูกเบียดเบียนตนเอง-ผู้อื่น...และแผ่นดิน

 

 

###ความเก่ง###

ในฐานะอยู่วงการสาธารณสุข แม้ผมเองจะทำงานในหน้าที่หนึ่งในตำแหน่งที่อยู่ปลายแถวสุด...ผมเห็น “ความเก่ง” ของเพื่อนร่วมวิชาชีพ...ทั้งในระยะปลาย-กลาง-ยอด...หลายท่านมีความเก่งที่น่ายกย่อง...และคนในสังคมส่วนใหญ่ต่างเชื่อมั่นและให้ลูกหลานร่ำเรียนด้านนี้...เป็นค่านิยมร่วมสมัย....”คนเรียนเก่งต้องเรียนแพทย์”

 

 

###ความสุข###

ผมต้องกลับมาถามใจตนเองและลูกชายทุกระยะๆ...

...อยากเรียนเปียโนต่อหรือเปล่า?

…เรียนแล้วมีความสุขกับเปียโนไหม?

ทิมดาบยังยืนยันว่า...อยากเรียนและมีความสุข ดังนั้น ผมจึงมีหน้าที่ประคับประครองและสนับสนุนดวงใจดวงน้อยๆ ของลูกชายต่อไป เพราะลูกเชื่อว่า...ลูกมีความสุขและอยากจะทำ...

ส่วนเรื่องของอนาคตปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ “เวลา” ทำงานตามบทบาทหน้าที่อันซื่อสัตย์ต่อไป....

 

 

ในฐานะที่เรียนสังคมวิทยา...ผมมีหน้าที่หนึ่งคือ “ตั้งประเด็นวิพากษ์”  ให้กับตนเองและผู้อื่น...ประเด็นที่เกิดขึ้นกับตนเองและสังคม...ประเด็นการให้ลูกเรียนเปียโนผมควรจะเลิกวิพากษ์พอๆ กับประเด็น ต่อไปนี้

....มนุษย์จำเป็นต้องศรัทธากับศาสนา...การเมือง...และชาติ ไปทำไม ?

…เราจำเป็นต้องกราบและเคารพพ่อแม่..ผู้มีพระคุณหรือเปล่า ?

 

 

###ความดี###

สิ่งที่ผมเห็นว่า จะขัดเกลาและสั่งสอนลูกชายได้ง่ายที่สุดกว่า “ความเก่ง” และ “ความสุข” คือ

“ความดี”

เพราะเมื่อเราคิด..กระทำ...และให้ต่อคนอื่นและแผ่นดิน

นั่นคือ “ความดี”

 

 

ความดีเป็นเรื่องที่ทำง่าย...เราอย่าคิดว่า “การทำความดีของเรา ต้องเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบ”

ความดีทำได้ง่ายๆ และเป็น..จิ๊กชอว์...ที่จะเติมเต็ม “ความสุข” ให้ตนเอง เช่น

....การเก็บตะปูออกจากถนน เพราะเราไม่อยากเห็นคนอื่นทุกข์จากยางรถแบน

...การเก็บเศษแก้วบนพื้นทราย...เพราะเรารู้ว่า เมื่อมีคนเหยียบเข้า จะเล่นน้ำทะเลไม่สนุก โดยเฉพาะคนอีสานเช่นเรา ที่เดินทางไกลแสนไกลมาเที่ยวทะเล

...การไม่เบียดเบียนคนอื่น ด้วยการแซงคิวผู้อื่น และทำท่าทางเมินเฉยราวกับเป็นเรื่องปกติที่ควรกระทำ

...การปลูกต้นไม้สักต้น...เพื่อต้นไม้ได้ให้ร่มไม้ชายคาร่มเย็นต่อสรรพชีวิต...ให้ต้นไม้ทำความดีแทนผู้ปลูก

 

 

###หมายเหตุของบันทึก###

ผมนั่งเขียนบันทึกที่กุดน้ำใส...ภายในตัวอำเภอชุมแพ...เป็นหนองน้ำขนาดพอประมาณ...น้ำใสสีเขียว...ร่มรื่นด้วยตนเอง...ผู้คนมานั่งพักผ่อนมากมาย...เพราะเป็นสวนสุขภาพ...และใกล้ตลาดสด

 

ปกติเมื่อมาส่งทิมดาบเรียนเปียโน...ผมชอบมานั่งที่นี้...ทุกครั้งจะหยิบหนังสือมาอ่าน...และนั่งมองความเคลื่อนไหวของทุกคน...และเสียงของน้ำ และต้นไม้....แต่วันนี้หยิบปากกา และเศษกระดาษในรถมานั่งเขียน...จิบกาแฟร้อนรถเข็น ถ้วยละ 15 บาท ผลไม้ 2 อย่าง 20 บาท แต่คุ้มค่ามากครับ...เมื่อเขียนบันทึกนี้เสร็จ..ผมเงยหน้ามองสายน้ำ...และต้นไม้

ทำให้ได้ทบทวนชีวิตตนเอง และลูกชาย...

 

 

...ต้นไม้มีบุญคุณกับสรรพชีวิตเหลือเกิน

...ถ้าต้นไม้เป็นมนุษย์...แต่ก็ไม่ใช่...ผมว่าต้นไม้เป็นสิ่งที่มีชีวิตที่มีความเก่ง-ความดี-ความสุข ...พิเศษสุด

...ใบไม้ของต้นไม้....ใบไม้ที่มีสีสวย...และเปลี่ยนสีสันได้มากมาย...ต้องเข้มแข็งแกร่งกล้า และมีศรัทธามากมาย เช่น ใบไม้ในประเทศญี่ปุ่น เกาหลี...หรืออเมริกา...จะเปลี่ยนสีสันงดงาม...เพราะต้องเผชิญกับฤดูกาลและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง...ทนแสงแดด...ทนกับหิมะ

 

 

คนเราเช่นเดียวกัน...เราจะผ่านอุปสรรคได้...เพราะ “ศรัทธา” 

 

 

(ตอนแรกผมจะนำเพลงเปียโน Right here waiting แต่ทิมดาบนั่งอ่านบันทึกด้วย ขอเป็นเพลงนี้แทนครับ) 

หมายเลขบันทึก: 503215เขียนเมื่อ 23 กันยายน 2012 15:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 กันยายน 2012 15:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะคุณหมอ

ป้าปริม ขอเป็นกำลังใจให้น้องทิมดาบเล่นเปียโนไปเรื่อยๆ นะคะ

ธรรมชาติ หนังสือ ดนตรี คือความสุขของปริมด้วยค่ะ การไปนั่งดูโลกหมุนผ่านไปรอบๆ ตัวเราก็ช่วยให้ผ่อนคลายไม่น้อย

สุขสันต์บ่ายวันอาทิตย์กับครอบครัวค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ :)

ดนตรี ช่วยให้จิตใจอ่อนโยน น้องทิมดาบคงได้รับความสุขกับสิ่งที่เลือก จึงต้องการที่จะเรียนเปียโนต่อ.. วันหน้าป้าๆคงมีโอกาสได้ฟังเสียเปียโนฝีมือหลาน

 

หลานทิมดาบโชคดีที่มีลมใต้ปีกดีๆเช่นนี้..

อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป...

 

ยังมองไม่เห็นโทษของดนตรีเลยค่ะ

 

การเรียนดนตรี ไม่ว่าเป็นดนตรีประเภทอะไร มีความสุข เกิดสมาธิ ฝึกความเพียร..

เรียนต่อนะคะ หนูน้อยทิมดาบ

...เด็กเล็กๆชนชาติ..จีน..ชื่อลังก์ๆ...เดี๋ยวนี้..เขาเป็นคนหนุ่ม..นักเปียโนมือดัง..คนหนึ่ง..หากินได้ทั่วโลก..อยู่ในยุโรป..เมื่อเด็กๆเขาถูกมองดูหมิ่นจากครูว่า..เป็นเด็กที่ไม่มี..พรสวรรค์เอาเสีย..เลย..อ้ะะๆ...แล้วเดี๋ยวนี้เป็นไง..อ้ะะๆๆ...เอาใจช่วยเจ้าค่ะ..คุณทิมดาบ..ถ้ายังจ่ายไหวอยู่...."ความสุข..คือความพอ..และ..เข้าใจ..ความอยาก..ของตนเอง"..อิอิ....คงเหมือนต้นไม้..คงอยากจะพูด..แต่พูดไม่ได้..ได้แต่..กระดิกใบเมื่อต้องลม..อิอิ...ขอบพระคุณที่ถามถึงความสบายของยายธี...สวัสดีและขอให้มีความสุขความเจริญ..เจ้าค่ะ...ยายธี

อดิเรก.... ทำดีแล้วนะคะ .... ต้องถามใจของลูก .... ว่าเขาชอบหรือไม่?  ....  อย่าเอา ... ความชอบของเรา (พ่อ & แม่ & ญาติ) ไป .... "ยัดเยียดใส่ ... ในใจของลูกนะคะ" .... ถ้าเขาชอบ.... เขาจะมี... "ความสุขมากๆๆ นะคะ .... ความสุข.... ต้องเกิดจากในใจ ...จึงจะเป็นความสุขที่  "แท้จริง" ขอบคุณความดีที่น้องได้ทำลงไปนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

..ขอแถมหน่อย..เจ้าค่ะ..ลังก์ๆๆ..จัดงานวันเกิด..เมื่อเร็วนี้..เขา..ให้รายได้ในการจัดคอนเสริทของเขาเป็นทุนและรางวัลกับเด็กๆเรียนเปียโน..ที่จะรุ่งเรืองได้อย่างเขา..โดยฝีมือ..และให้เป็นทุนการเรียนดนตรี..ชนิดนี้..ด้วย..เจ้าค่ะ..ลองหาข้อมูลดูใน..กูเกิ้ล..ให้หลานทิมดาบ..ดูนะเจ้าคะ..โชคดี..อาจจะได้ลดรายจ่าย..แถมเพิ่มพลัง..แก่ลูกหลาน..อ้ะ...ยายธี

เพลงประกอบบันทึกนี้ เป็นเพลงประจำรุ่น ตอนพี่แก้วเรียนระบาดวิทยา ชอบมาก ฟังทีไรก็มีกำลังใจทุกครั้งค่ะ

ตอนลูกพี่ยังเด็ก ลูกขอเรียนเปียโน

พี่ก็หาซื้อเปียโนให้ และไปส่งเรียนทุกสัปดาห์

ลูกมีสมาธิดีขึ้น ทำให้เรียนได้ดี

แต่เล่นเปียโน ไม่เก่ง พอเล่นได้

ลูกโตแล้ว เปียโนส่งต่อให้หลานซึ่งเป้นลูกน้องสาวใช้เรียนต่อ หลานเล่นได้ดี

ขอให้กำลังใจทิมดาบ และขอให้ด้เป็นนักเปียโนที่มีความสุขในอนาคตนะคะ

สวัสดีครับ

ผมคลุกคลีกับนักเรียนดนตรีมาพอสมควร

เคยเห็นบางคนที่ไม่ค่อยสนใจดนตรี แต่พ่อแม่อยากให้เรียน สุดท้ายก็เลิก

คนที่เรียนได้และเรียนต่อ คือคนที่สนใจจริงๆ บางคนไม่ได้สนใจมาก แต่ก็เล่นได้ดี ไม่เลิกง่ายๆ

ถ้าเด็กเรียนได้เรื่อยๆ ก็หมายความว่าเขาชอบแน่ๆ ครับ

 

 

 

เปียโนสำหรับผมนี่ ช่างเป็นเครื่องดนตรีที่แสนจะมหัศจรรย์มากครับ ฟังก็แสนจะไพเราะ เพียงแค่โน๊ตตัวเดียวและเคาะทีเดียวก็ยังเพราะ ระหว่างฟังก็ให้นึกเชิดชูคนที่ประดิษฐ์คิดค้นเครื่องดนตรีชนิดนี้ขึ้นมาจริงๆ มันเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถเล่นเป็นวงอย่างอลังการด้วยคนๆเดียว การเดินดนตรีจะผสมผสานกันอย่างน้อย ๕ ทางเดินที่จะต้องทำไปพร้อมกัน คือ การคลุมเสียงคอร์ต การเคาะเสียงเบส การตบหน่วยเสียงคุมจังหวะ การพรมนิ้วให้เสียงเมโลดี้และท่วงทำนองหลัก กับการใช้เท้ากำกับเสียงสั้นยาว หากไกด์เด็กๆ ให้ฝึกมีสมาธิไปกับการแยกร่างทำงานกับทักษะอันซับซ้อน เหมือนกับทำหน้าที่ของคน ๕ คนอย่างผสมกลมกลืน ขณะเดียวกัน ก็ได้กล่อมเกลาตนเองไปกับดนตรี ก็น่าจะเป็นโอกาสในการพัฒนาเด็กอย่างรอบด้านมากเลยนะครับ

ในวัยเด็กเล็ก เมื่อได้เล่นดนตรีอย่างนี้ หากเคี่ยวเข็ญให้มุ่งไปที่การต้องเล่นดนตรี เหมือนกับจะมุ่งเอาดีทางนี้ เมื่อถึงช่วงที่เขาสามารถเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องมีครูและพ่อแม่เคี่ยวเข็ญอีก เด็กๆก็อาจจะเบื่อและเกลียดดนตรีที่ละเอียดประนีตไปเลยก็ได้ครับ แต่หากให้เล่นเปียนโน โดยไม่ได้เน้นทักษะดนตรีจากเปียนโน แต่ปล่อยให้ได้อยู่กับดนตรี ได้เรียนรู้ตัวเองจากดนตรี และใช้ดนตรีอย่างนี้พัฒนาทั้งพื้นฐานของสมอง จิตใจ และทักษะการใช้ศักยภาพอันซับซ้อน ก็เชื่อว่าเด็กๆจะได้ครูที่ดีที่สุดอีกคนหนึ่งสำหรับเขาและจะเป็นที่ปรึกษาให้กับเขาได้อย่างมั่นคงยั่งยืนที่สุดตลอดชีวิต ซึ่งซ่อนอยู่ในตัวเขานั่นเอง 

ได้อ่านแล้วก็มีความสุขไปด้วย มากเลยครับ 

  • ความพยายามอยู่ที่ไหน...ความสำเร็จอยู่ที่นั่นจ้ะ

ชอบมากค่ะ เสียงของเปียโน คลาสสิคค่ะ ขอให้ทิมดาบ เรียนเก่งๆ นะคะ cheer!!

อ่านบันทึกนี้แล้วคิดถึงบ้าน ชุมแพ เสียแล้ว ไม่ได้กลับไปเกือบสามปีแล้วครับ...

ลูกสาวผมคนหนึ่งที่เล่นดนตรีไทย เล่นซอด้วงตั้งแต่ก่อนอนุบาล ปัจจุบันเป็นมือหนึ่งราชวินิตบางแก้ว เรียนสายวิทยาศาสตร์ ปีนี้เรียนหนักเพราะต้องแข่งขันกันสูงตามธรรมดาเด็กสายวิทย์ ผมเคยถามลูกสาวว่าเล่นดนตรีมีความสุขไหม เธอตอบว่ามี แต่เล่นมาตั้งแต่หัดเขียนหนังสือเลยรู้สึกเฉยๆ ถ้าสอบเข้าสายวิทย์ไม่ได้จะเรียนด้านศิลปะทางดนตรีได้ไหม เธอเงียบ และตอบว่า เรียนสายวิทย์ก็เล่นดนตรีได้เหมือนกันนี่พ่อ ผมเงียบและอึ้ง... ขอให้ลูกประสบความสำเร็จตามตั้งใจเถิด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท