วิทยไสยศาสตร์..จิต พลังงาน มวล


 จิต พลังงาน มวล...วิทยไสยศาสตร์

 

ในยุควิทยาศาสตร์นี้ได้มีการค้นพบการถ่ายโอนกันระหว่างมวล (mass) และ พลังงาน (energy) โดยอิงหลักการทฤษฎีสัมพัทธ์ของไอน์ไสตน์   ก่อให้เกิดพลังงานปรมณูเพื่อประหารและเพื่อสันติ

 

วันนี้ผมขอมาเสริมเรื่องจิต (mind)  ที่ผมได้คิด (และเขียนไว้เป็นบทความภาษาประกิด) แต่เมื่อประมาณพศ. ๒๕๓๕  ซึ่งผมว่าถ้ามีสามเส้า คือ มวล พลังงาน และ จิต มันก็จะครบวงจรที่สมบูรณ์ 

 

เคยมีการโต้กันเรื่องนี้แบบเล่นลิ้นเป็นภาษาประกิดในช่วงหลังสงครามโลกว่า

 

-What’s mind?

*It doesn’t matter.

-What’s matter?

*Never Mind.

 

คงเข้าใจกันยากสักหน่อย (และไม่ขำ)  หากไม่แข็งแรงด้านประกิดและวัฒนธรรมของเขา  

 

 

ฝรั่งมักบอกว่าการใช้จิตให้ทำโน่นทำนี่ เป็นเรื่อง เหนือธรรมชาติ (super-natural) แต่ความจริงแล้วผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ธรรมดานี่เอง

 

ก่อนอื่นคุณต้องมี “ความเชื่อ”  ซึ่งฝรั่ง(และคนไทยที่เดินตามก้นฝรั่ง) ยอมรับไม่ได้ หาว่างมงาย   อีกทั้งหลักกาลมสูตร ของพุทธเราเองก็ห้ามเชื่อเสียอีก

 

ความเชื่อนี่แหละคือ พลังจิต  ถ้ามีความเชื่อแรงพลังจิตก็จะแรง  แรงจนสามารถโฟกัสพลังจิตให้เป็นจุดที่เข้มข้นแล้วเอาไปทำอะไรได้  กล่าวคือ เอาไปโอนถ่ายให้เป็นมวล และหรือ พลังงาน นั่นเอง

 

 

ดังนั้นการเหาะเหิน เดินอากาศ  หายตัวได้  ย่นระยะทาง ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์อีกต่อไป  แต่เป็น “วิทยาศาสตร์” พื้นๆ นี่เอง 

 

เพียงแต่ว่า “ต้องพิสูจน์” ให้เห็นจริงตาม “หลักวิทยาศาสตร์”  ซึ่ง “ความจริง” ตามหลักวิทยาศาสตร์นั้นแท้จริงแล้ว มันโหลยโท่ยมาก ๆ  แต่เราก็เดินตามฝรั่งเสมอมา ไปบูชาการพิสูจน์ได้ตามวิทยาศาสตร์ฝรั่ง โดยเฉพาะพวกนักวิชาการมหาประลัยไทยที่จบนอก ดีกรียาว 

 

“ความจริง”ตามหลักวิทยาศาสตร์ของฝรั่งนั้นมันเป็นแต่เพียงการรับรู้ตามที่อายตนะหกจะพาไปเท่านั้นเอง  (กล่าวคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)    ซึ่งเราชาวพุทธก็รู้กันอยู่ว่าการรับรู้ทางอายตนะเหล่านี้มันเป็นปัจจัยห่วงโซ่แห่งความหลอกลวง ที่นำทุกข์มาให้เสมอ ทั้งนี้ตามทฤษฎีวงจรปะติดจับสมุดขาดๆ  ที่ผมได้เขียนไว้แล้ว  (ปฏิจจสมุปบาท)

 

ถ้าฝรั่งฉลาดกว่านี้ ฝรั่งจะเข้าใจว่า ไสยศาสตร์นั้นก็ไม่ต่างอะไรจากวิทยาศาสตร์หรอก ต่างก็พิสูจน์ได้ เหมือนกัน  เพียงแต่ว่าคุณจะเอาอายตนะใดมารับรู้การพิสูจน์เท่านั้นเอง

 

 

และเพียงแต่ว่าคุณจะยอมเสียเวลาชีวิตอันมีค่ายิ่งของคุณ ไปเรียนรู้ศาสตร์เหล่านั้นเพื่อทำการพิสูจน์ให้เห็นจริงไหม  ...มันมีเท่านั้นเอง   

 

เวลาชีวิตในโลกนี้สั้นนัก..เอาไปเรียนพุทธศาสตร์น่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนเวลาแห่งชีวิต มากกว่าการไปเรียนวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์นะ..ผมว่า 

 

...คนถางทาง (๑๙ กันยายน ๒๕๕๕)

 

 

หมายเลขบันทึก: 502823เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2012 20:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กันยายน 2012 08:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • เห็นจริงตามนั้นค่ะ 
  • เรื่องบางเรื่องอาจไม่ต้องพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
  • เพียงรับรู้ว่ามี 
  • วิทยาศาสตร์ พิสูจน์ทุกเรื่องไม่ได้ 
  • เช่นความรัก วิทยาศาสตร์พิสูจน์ ไม่ได้ว่าแบบไหนรักมากกว่ากัน
  • รู้แค่ว่ามีความรัก ก็ไม่ต้องเสียเวลาพิสูจน์ 
  • เอาเวลาไปเรียนพุทธศาสตร์น่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนเวลาแห่งชีวิต
  • เป๊ะมาก

เวลาชีวิตในโลกนี้สั้นนัก..เอาไปเรียนพุทธศาสตร์น่าจะคุ้มค่าต่อการลงทุนเวลาแห่งชีวิต ---- ชอบวลีนี้ของอาจารย์มาก ขอยืมไปใช้บ้างนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท