ผมนึกไม่ถึงว่าต้นกระทิงจะสูงใหญ่ และแตกกิ่งทรงพุ่มเก้งก้างอย่างนี้ มาประจักษ์เอาตอนเช้าวันที่ ๑๖ ส.ค. ๕๕ ที่ลานจอดรถของอาคารหอประชุม จุฬาฯ ซึ่งผมผ่านอาจจะหลายสิบหรือเป็นร้อยครั้ง แต่ไม่สังเกต มาวันนี้อากาศเย็นสบาย ผมจึงไปนั่งอ่านหนังสือที่ม้านั่งหินขัดใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระน้ำและริมลานจอดรถ จึงได้เห็นต้นไม้สูงใหญ่รูปทรงแปลกตา มีกระรอกอยู่หลายตัว
น่าชื่นชมทางจุฬาฯ ที่ปักป้ายบอกชื่อและรายละเอียดของต้นไม้ไว้อย่างดีมาก ผมจึงรู้ว่าเป็นต้นกระทิง และได้รู้ว่าต้นกระทิงรูปทรงธรรมชาติสูงใหญ่เก้งก้างอย่างนี้ ผิวพรรณที่ต้นแตกลายอย่างนี้ ที่สำคัญลูกดกมาก และกระรอกชอบ ผมกำลังรอให้ต้นที่ปลูกที่บ้าน(ซึ่งมีอยู่ต้นเดียวโต) ตอนนี้ยังสูงไม่ถึงเมตร เอาพันธุ์มาจากมหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา แต่ที่นั่นยังปลูกไม่นาน ต้นยังไม่สูงใหญ่อย่างนี้ แต่มันก็ออกดอกดก กลิ่นหอมสดชื่น ป้ายที่จุฬาฯ บอกว่า ต้นกระทิงออกดอกตลอดปี แต่ต้นที่จุฬาฯ ตรงนี้ ซึ่งปลูกเป็นแถว คงจะราว ๕ ต้น ตอนนี้มีดอกน้อยมาก แต่ผลดกมาก
ผมสังเกตว่า การปลูกต้นไม้ใหญ่ที่จุฬาฯ ทำอย่างมีความรู้ เขาปลูกกระทิงระยะห่างระหว่างต้นราวๆ ๑๕ - ๒๐ เมตร เพราะพุ่มของเขาใหญ่มาก ระหว่างต้นปลูกสารภีแซม เพราะสารภีต้นเล็ก พุ่มเตี้ย ทั้งสองชนิดเป็นไม้ไทยดอกหอม
ผมไปถึงใหม่ๆ กระรอกมาทักเกรียวกราว แล้วเขาก็ขึ้นไปกินลูกกระทิง แทะเปลือกกินทิ้งส่วนที่เหลือลงมาทักทายผมต่อ ที่ใต้ต้นกระทิงมีลูกตกลงมาเกลื่อนกลาด
พอใกล้ ๘ น. ผมก็เข้าใจว่าทำไมเมื่อผมมาถึงกระรอกจึงมาทักเกรียวกราว เขาคิดว่าผมเอาอาหารมาเลี้ยงเขาครับ ตอนนี้มีคนผู้ชายเอาอาหารมาวางที่คบไม้ให้เขา เขาจึงผลัดกันมากิน ผมจึงได้โอกาสถ่ายรูปในหลายอิริยาบทของเขา ผมสังเกตว่าเขามีสีหางต่างกันแบบที่บ้านผม คือตัวหนึ่งหางแดง อีกตัวหนึ่งหางเหลือง เวลากินเขาต่างตัวต่างกิน ไม่เอื้อเฟื้อป้อนกันแบบนกบางชนิด
วิจารณ์ พานิช
๑๖ ส.ค. ๕๕
ต้นกระทิง
ลำต้นแตกกิ่งแบบนี้
ป้ายบอกชื่อและรายละเอียด
ลักษณะใบและผล
ถ่ายระยะไกลจากอีกฟากหนึ่งของสระน้ำ ให้เห็นกระทิง ๓ ต้นเรียงกัน
โคนต้นกระทิง ๒ ต้นเรียงกัน
กระรอกหางแดง
กระรอกหางเหลือง
มีกิ่งเล็กๆ งอกจากลำต้น