การคิดเชิงเปรียบเทียบ
การคิดเชิงเปรียบเทียบเป็นกระบวนการคิดอีกแบบหนึ่งที่มีประโยชน์และคนในสังคมไทยควรได้รับการฝึก หากเราสามารถพัฒนาระบบการคิดเชิงเปรียบเทียบได้เป็นอย่างดีแล้วเราก็จะเป็นคนที่คิดอย่างรอบคอบไม่ด่วนตัดสินและเป็นการคิดหาทางเลือกที่ดีที่สุด
ความหมายของการเปรียบเทียบ
การเปรียบเทียบนั้นสามารถสื่อได้ 2 ความหมายคือ การเปรียบเทีบในลักษณะเทียบเคียงและลักษณะการเปรียบเปรย ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับลักษณะเทียบเคียงกันเลย
การเปรียบเทียบในลักษณะเทียบเคียง หมายถึง การพิจารณาเทียบเคียงสิ่งต่างๆ ตั้งแต่สององค์ประกอบขึ้นไป เพื่อให้เห็นลักษณะที่เหมือนกันและแตกต่างกันระหว่างสิ่งเหล่านั้น
เช่น การนำรถสองคันมาเปรียบเทียบกัน เป็นต้น
การเปรียบเทียบในลักษณะเปรียบเปรย หมายถึง การเปรียบเปรย สิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เฉพาะส่วนที่มีความคล้ายคลึงกันในบางด้าน มักจะใช้เพื่อช่วยในการอธิบายสิ่งที่ผู้ฟังไม่รู้ โดยนำเอาสิ่งที่ผู้ฟังมาเปรียบเทียบให้เห็น เพื่อให้ผู้ฟังเกิดภาพในความคิดช่วยให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
การเปรียบเทียบในลักษณะเปรียบเปรยนี้ มีจุดมุ่งหมายดังนี้ เพื่ออธิบายสิ่งที่ต้องการสื่อสารได้ง่ายขึ้น เช่น สมองสามารถบัณทึกความจำได้เท่ากับสารนุกรม 100 เล่ม เป็นต้น เพื่อสร้างความรู้สึกให้ผู้รับ เช่น เธอเปรียบเหมือนเสียงเทียนที่คอยส่องทางให้ฉัน และสุดท้ายคือ เพื่อจุดประกายการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เป็นต้น
ความหมายของการคิดเชิงเปรียบเทียบ
การคิดเชิงเปรียบเทียบ หมายถึง ความสามารถในการพิจารณาเทียบเคียงความเหมือน และความแตกต่างระหว่างสิ่งหนึ่งกับสิ่งอื่นๆ รวมทั้งความสามารถในการเปรียบเปรยสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ตอบสนองเป้าหมายที่ต้องการ
การคิดเชิงเปรียบเทียบแบ่งออกเป็นสองลักษณะคือ การคิดเชิงเปรียบเทียบในลักษณะการวิเคราะห์ คือ การแจกแจงความเหมือนหรือความแตกต่างระหว่าง สิ่งของ แนวคิด หรือ คน ตั้งแต่ 2 อย่างเป็นต้นไป การคิดเชิงเปรียบเทียบในลักษณะสร้างสรรค์ การคิดในลักษณะอุปมา เป็นการกระตุ้นให้เกิดจิตนาการ เช่น เธองามเปรียบเหมือนนางฟ้า เป็นต้น
เหตุใดเราต้องคิดเชิงเปรียบเทียบ
หากถามว่าเหตุใดจึงต้องมีการคิดเชิงเปรียบเทียบ พบว่ามีมากมาย เช่น
1.เพื่อช่วยให้เห็นความต่างในความคล้าย หากเราพิจารณาให้ดีแล้วเราสามารถเห็นของสองสิ่งที่แตกต่างกัน
2.เพื่อลดความผิดพลาด ในการอ้างเหตุผลเปรียบเทียบ เช่น นาย ก ติดเชื่อ HIV มีอาการลักษณะผอม มีไข้ ผิวหนังพุพอง และนาย ข ผอม เป็นไข้ ผิวหนังพุพอง เราก็คาดว่าติดเชื้อ HIV ดังนั้นหากเราใช้กระบวนกาคิดเชิงเปรียบเทียบ เขาอาจะไม่ได้ติดเชื้อ HIV ก็ได้ ดังนั้นกระบวนการคิดเชิงเปรียบเทียบลดความผิดพลาดได้
3. ช่วยให้เราค้นพบข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ การเปรียบทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งเล็กน้อยๆ หรือรายละเอียด จนทำให้เราสามารถค้นพบข้อเท็จจริงได้
4. เพื่อทำให้เข้าใจเรื่องยากและซับซ้อนได้ง่ายขึ้น การคิดเชิงเปรียบเทียบสามารถทำให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น
5. เพื่อทำให้เข้าใจตรงกันในมาตรฐานที่แตกต่าง เช่น มีไขมันสามารถมาทำสบู่ได้ 7 ก้อน ซึ่งการพูดเช่นนี้ทำให้เราเข้าใจได้ชัดเจนมากขึ้น
6. เพื่อช่วยลดเวลาในการอธิบาย การอธิบายบางครั้งทำให้ผู้รับสารไม่สามารถเข้าใจได้ ต้องเปรียบเปรย เช่น การกระทำของเธอเปรียบเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ เป็นต้น
7. เพื่อจูงใจให้เกิดการคล้อยตาม การคิดเชิงเปรียบเทียบทำให้ผู้ฟังสามารถคล้อยตามได้ เช่น ถ้าเราหว่าสิ่งที่ดี ผลออกมาย่อมดี เป็นต้น
8.เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เช่น การที่คนเราอยากบินได้เหมือนนก จนนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตเป็นเครื่องบิน
หลักนักคิด ของนักคิดเชิงเปรียบเทียบ
หากเราต้องการเป็นนักคิดเชิงเปรียบเทียบที่ดี เราต้องยึดหลักการคิดเชิงเปรียบเทียบดังนี้
1. หลักเทียบเคียงและสังเกต เป็นลักษณะของการนำสองสิ่ง หรือมากว่านั้นมาเทียบเคียงกันเพื่อให้เห็นสิ่งที่เหมือนหรือแตกต่างกัน
2. หลักแจกแจงตามเกณฑ์ หลักการนี้คือ ก่อนอื่นเราต้องตั้งเป้าหมายก่อนจากนั้นกำหนดหลักเกณฑ์ในการเปรียบเทียบขึ้นมา เพื่อนำมาเปรียบเทียบและสามารถให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
3. หลักยืดหยุ่นความคิด ผู้เป็นนักคิดเชิงเปรียบเทียบนั้นต้องเป็นผู้มีความยืดหยุ่นกับความคิด โดยไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยถือปฏิบัติมา
4. หลักตรวจสอบก่อนตัดสินใจ หลักการนี้ก่อนตัดสินใจควรใช้กระบวนการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนการตัดสินใจ
หลักคิดทั้ง 4 หลักดังกล่าวนับเป็นพื้นฐานของนักคิดเชิงเปรียบเทียบหากหากฝึกให้ดีแล้วสามารถแยกแยะความเหมือนในความแตกต่างได้
กระบวนการค้นหาความเหมือนกับความแตกต่าง
การคิดเชิงเปรียบเทียบว่าสิ่งใดเหมือนกันหรือแตกต่างกันนั้นมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ควรใช้หลักเหล่านี้มาช่วย
-
การเปรียบเทียบในลักษณะขั้นกว่า เช่น หนังสือสองเล่มนี้เล่มไหนอ่านสนุกกว่ากัน
-
เปรียบเทียบแนวคิด หลักเกณฑ์และกฏเกณฑ์ เปรียบเทียบการทำงานของ นาย ก และ นาย ข ในตำแหน่งผู้ว่าราชการเหมือนกัน
-
เปรียบเทียบให้เห็นข้อเท็จจริง เปรียบเทียบในมุมมองต่างๆ เช่น เปรียบเทียบระหว่างลูกคนโต คนกลาง และคนเล็ก
-
เปรียบในลักตัวแบบหรือต้นแบบ เช่น นาย ก อาจใช้ ข เป็นต้นแบบในการทำงาน
การบวนการหาทางเลือกที่ดีกว่า
กระบวนการคิดเชิงเปรียบเทียบนั้นทำให้เราสามารถวิเคราะห์ทางเลือกที่ดีกว่า โดยใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ คือ
- เทียบตามเกณฑ์มาตรฐาน โดยการกำหนดเกณฑ์มาตรขึ้น จากนั้นก็วิเคราะห์ตามเกณฑ์ที่ตั้งขึ่น ประเมินทางเลือก และสรุปผล
ฝึกใช้สมองเปรียบเทียบแบบเปรียบเปรย
การคิดเชิงเปรียบเทียบมีลักษณะการคิดแบบเปรียบเปรย จนเราสามารถนำมาเชื่อมโยงกัน จนสามารถนำมาแก้ไปปัญหาได้ การฝึกการคิดเชิงเปรียบเทียบสามารถใช้กระบวนการเหล่านี้ คือ
- ฝึกแจกแจงแล้วดึงความเหมือน เช่น เต่า กับ รถถัง หากเราดึงลักษณะเด่นออกมาแล้วเราจะพบว่า มีสิ่งที่เหมือนกัน คือ มีเกราะป้องกันตัวเอง
- ฝึกดึงลักษณะเด่นแล้วเปรียบเทียบ เช่น ดวงอาทิตย์เป็นตัวแทน จากนั้นดึงลักษณะเด่นของดวงอาทิตย์ คือ ความร้อน และความร้อนเปรียบเหมือนความโกรธ
เปรียบเปรยเพื่อสื่อสารและสร้างสรรค์
การคิดเชิงเปรียบเทียบเป็นกระบวนการคิดแบบเปรียบเปรย การสื่อสารที่มีความเข้าใจยากหากใช้กระบวนการคิดแบบเปรียบเปรยจะทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้น และสามารถนำกระบวนการคิดไปใช้ในการแก้ขปัญหาได้
อ้างอิง : การคิดเชิงเปรียบเทียบ ศาสตราจารย์ ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์