เล่าไป 5 ตอนแล้ว จนถูก ท่านวิชญธรรม แซวว่า ไม่รู้จะจบตอนไหน ผู้เขียนเองยังไม่รู้เลย นึกอะไรได้ ก็เขียนๆไปก่อน เดียวอีกหน่อยเป็นอัลไซเมอร์ เพิ่มจากพาร์กินสันจะลำบาก อิ อิ
ในตอนนี้อยากจะเล่าถึงความเสี่ยงประสบการณ์เฉียดที่เกิดขึ้นกับหมออนามัย ที่น่ากลัวที่สุด มักเกิดกับหมออนามัยหญิง นั่นคือการถูกข่มขืน ซึ่งเพื่อนของเพื่อนชลัญอีกทีประสบมา น่าเศร่้ามากมีอมนุษย์อย่างนี้อยู่บนโลกด้วย มันแกล้งป่วยมาหาหมอ แล้วพอลงไปให้บริการ มันกลับมาทำร้ายด้วยการลากหมออนามัยไปข่มขืนแบบเวียนเทียน ซะงั้น เลว สุดๆ
เล่าถึงตรงนี้คงมีหลายคนกำลังคิดว่า อย่างชลัญนี่นะใครจะมีอารมณ์ แหม!กระโดดฟาดตระกร้อ ป๊าบ ป๊าบ ซะขนาดนั้น อ่ะ....อย่าดูถูก หญิงก็มีความงามเหมือนกัน แหม! หรือไม่ก็อาจเป็นพวกนิยมของแปลกน่ะ แต่ไม่ได้แอ้มชลัญหรอก ขอโทษ
การที่ต้องอยู่ที่สถานีอนามัยคนเดียวนั้น เป็นที่น่ากลัวอยู่แล้ว ชลัญนี่โชคดีมีคุณยายใกล้ๆ อนามัยท่านเอ็นดู มานอนเป็นเพื่อนตอนนี้ท่านเสียชีวิตแล้วเพราะโรคชรา แต่บางคืนที่ท่านไปจำศิลที่วัดชลัญก็มักต้องนอนอยู่คนเดียว
กลางคืนก็มีคนไข้มาหาเรียกว่าแทบทุกคืน เพราะ 11 หมู่บ้านที่รับผิดชอบนั้น มันต้องมีสักคนที่ป่วยกลางคืนเราก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องลงมาดู มีครั้งที่น่ากลัวมากคือ มีกลุ่มวันรุ่น ตีกัน แล้วมาเย็บแผลที่อนามัย เป็นชายล้วน ไม่ทราบจำนวน มาเคาะบ้านชลัญแทบพัง ขู่แกมบังคับบอกให้ลงมาเย็บแผล ชลัญนอนฟังสักพัก เขาคงรู้ว่าชลัญกลัว ตะโกนบอก ให้ไม่ต้องกลัว ด้วยสัจจะของนักเลงไม่ทำอะไรแน่ เจ้าหัวหน้ากลุ่มเป็นคนตะโกนขึ้นมา แต่ถ้าไม่ลงมีพังบ้าน ชลัญต้องตัดสินใจบนความน่ากลัวนี้ื ลงมา ให้บริการ อ้าววัดดวงว่ะ เป็นไงเป็นกัน ให้มันรู้กันไปว่าดวงชลัญจะซวยปานนั้น พอลงไปด้วยสัจจะของนักเลงจริงๆ เจ้าหัวหน้าสั่งให้ลูกน้องทั้งหมดอยู่ข้างล่างมีหัวหน้ากับคนเจ็บขึ้นไปกับชลัญเท่านั้นเพราะเขารู้ว่าหมอกลัว เมื่อชลัญเย็บแผลอยู่นั้นเจ้าหัวหน้าบอก หมอเย็บเร็วๆ จะไปเอาคืน ชลัญปรี๊ดแตก นี่มันตีสองแล้วนะ ยังจะไปเอาคืนเรียกให้มาเย็บใหม่ โอ๊ยไม่ไหวหรอก ก็เลยบอก เอางี้ ระหว่างที่เย็บนี่สั่งให้ลูกน้องไปเอาคืนได้เลย เพราะถ้าเย็บเสร็จขึ้นบ้านแล้วมีคนแตกอีกไม่ลงมาเด็ดขาด เท่านั้นแหล่ะหัวหน้ามันสั่งการลูกน้องเรียบ ประมาณ 15 นาทีีกลับมา ชลัญเย็บแผลเสร็จพอดี รอดไปไม่มีแผลเพราะกลุ่มคู่อริไม่อยู่แล้ว แต่ชลัญก็ได้ใจนักเลงกลุ่มนี้เรียกใช้งานได้หมดเลยตอนหลัง
แต่ที่น่ากลัวนี่ซิไม่ใช่คนไข้แต่กลับเป็นเพื่อร่วมงานที่ชลัญ จำมาตลอดชีวิต พี่อีกคนที่ทำงานกับชลัญนั้น ต้องย้ายไปเป็นหัวหน้าอีกที่ อำเภอจึงส่ง จนท.ใหม่ ย้ายมาจากต่างจังหวัด มีลูกเมียอยู่อีกอนามัยอีกแห่ง ท่าทางหมอนี่ไม่น่าไว้วางใจ ชอบพูดจาแทะเล็ม แต่ชลัญไม่สนใจมันมาก มีครั้งหนึ่งมีงานผ้าป่าในหมู่บ้านที่ห่างจากอนามัย 4 กม. พี่หัวหน้า พาชลัญ ไปเป็นหมอมวย พอดี มีวิทยุจากอำเภอมาหาหัวหน้า ว่าลูกอุบัติเหตุอยู่ รพ. มวยยังไม่เลิก หัวหน้า ก็เลยฝากชลัญกลับกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ ต้องนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์กลับ ชลัญใจไม่ดีเลย ระยะทางตั้ง 4 กม. ที่ต้องกลับกับหมอนี่ แต่โชคดีชลัญมีปืนที่เจ้าป้อมตำรวจเพื่อนสนิทที่เล่าในตอนแรกว่า มาสอนยิงปืน มันเอามาไว้ให้ เผื่อกลางคืนมีปัญหา ซึ่งตอนแรกชลัญปฏิเสธ แต่ชลัญก็ได้ใช้มันจริงๆ เวลาประมาณ เกือน 3 ทุ่มมวยเลิกแล้ว เพื่อร่วมงานคนนี้มารับชลัญจริง ชลัญนั้งซ้อนท้ายอย่างเตรียมพร้อม มือกระชับปืนที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อแจ๊กเก็ต แน่น นั่งซ้อนท้ายไปได้สัก 3 กม. มันบอก ขอจอดเยี่ยว ชลัญดึงปืนออกมาจากกระเป๋าเสื้อจ่อไปที่เอว
"บอกไม่ต้องจอดขับไป ไม่งั้นไม่ไว้หน้า "
มันหัวเราะกลบเกลื่อนบอก กลัวจะทำอะไรหรือ ไง ไม่ทำหรอก แต่ชลัญไม่เชื่อใจ บังคับให้ไปต่อจนถึงอนามัย รอดไปได้ ต้องขอบคุณเจ้าป้อม ตอนแรกกะจะฟ้องหัวหน้า แต่ไม่มีหลักฐานอะไร ก็เลย เล่าให้แต่เจ้าป้อมฟัง ป้อมก็เลยให้เก็บปืนกระบอกนั้นไว้จนกระทั่งชลัญย้าย
ส่วนเจ้าเพื่อนร่วมอนามัยคนนี้รู้ตัวดี อยู่ครบ 6 เดือน ขอย้ายอนามัยทันที แล้วก็ไปมีปัญหาเรื่องชู้สาวกับลูกสาวชาวบ้าน วุ่นวายบายตะไท มาจนถึงทุกวันนี้ เท่าที่ได้ข่าว ภรรยาก็ขอหย่าเมื่อสัก 4 ปีก่อนนี่เอง
นี่แหล่ะคนเราถึงจะการศึกษาดี มีการงานที่ดี แต่ ไม่ได้บอกว่าจะนิสัยดี สู้นักเลงบ้านนอก การศึกษาต่ำ แต่พูดคำไหนคำนั้น ที่ชลัญเคยพบมาไม่ได้
ประสบการณ์ครั้งนั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เฉียดสุด ที่ต้องทำใจดีสู้เสือ ไม่งั้นไม่รู้ชีวิตจะเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ไปประชุมเจอกันบ้าง ยังไม้กล้าเข้าหน้าชลัญเลย
ตอนนี้อาจจะดูเครียดไปนิ๊ด แต่ก็อยากเล่ามุมที่น่ากลัวของการเป็นหมออนามัยหญิงให้ฟังว่า การที่เราจะดำรงชีวิตอยู่ให้ได้นั้น ใจที่เข้มแข็งจะเป็นเครื่องนำทางอีกอย่างที่จะทำให้เราฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคไปได้ ประกอบกับการมีมิตรแท้ที่ดี เช่น ตำรวจป้อม ที่มีความห่วงใยเพื่อนคืดถึงภัยไว้ให้เราถึงแม้เพื่อนจะมองชลัญว่าไม่ใช่หญิงนักก็ตาม เรียกว่าได้ใจกันทีเดียว ทุกวันนี้ยังติดต่อ กันอยู่ ซึ่งสุดท้ายเจ้าป้อมก็มาแต่งงานกับเพื่อนชลัญด้วยฝีมือการเป็นแม่สื่อของชลัญนั่นเอง
จบตอน
ชลัญธร ตรียมณีรัตน์
แอบเข้ามาเยี่ยมก่อนด้วยความสวัสดี ;)...
อ่ะ อ.was มาสวัสดีเร็วมาก ยังเจ็บอยู่มั๊ยนี่ เป็นห่วงนะ อุตส่าห์ส่งใจไกลเชียวนา จาก โคราชถึงเชียงใหม่ ไปไกลเกิน ใจหาบแว๊บๆเลย อิ อิ
ประสบการณ์หลายด้านเจงเจง น้องชลัญ
ข้อเขียนของน้องชลัญ เกิดประโยชน์เตือนรุ่นน้องหลัง ๆ ได้ พี่ขอแนะนำให้น้องโพสต์ในเวบ หมออนามัยด้วยสิคะ
ต้องห่างบ้าน ห่างไกล ห่างความปลอดภัย แต่ใกล้ความดี สู้ๆนะครับ
สวัสดีครับ
เพิ่งอ่านเรื่องเฉียด ของอาจารย์ W มาตะกี้ ;)
มาเจอเรื่องใจหายใจคว่ำอีก อิๆๆ
ยกนิ้วให้กับความเก่งและกล้าครับ ...
ปล: ลืมบอกไปว่า ผมไปเฉลย อนุทิน "ฝันว่าจะขึ้น chart top ten" แล้วนะครับ จะได้รับมุขกันถูก..... และ จะคอยติดตามว่า คราวหน้า k ชลัญ จากหมอมวย แล้วจะเป็นหมออะไรต่อ???
ครบทุกรสของชีวิตจริงๆ..
รู้สึกใจหายค่ะ ทำงานด้วยความทุ่มเทอย่างนี้ยังต้องเสี่ยงอันตรายอีก
น่าจะมีระบบคุ้มครองความปลอดภัยที่ดีกว่านี้นะคะ มิอย่างนั้นจะไม่มีใครกล้าเสียสละ หากว่าไม่แข็งแกร่งพอค่ะ
บู๊แล้วยังเป็นแม่สื่ออีกด้วย เจ๋งค่ะ
เห็นภาพเลยครับ...