ด่าด้วยสายตา เอ่ยวาจาไม่คิด ใคร เอ่ย ?


เวลาที่เราไปโรงพยาบาลหลายๆแห่ง จะมีสักกี่โรงพยาบาลที่พยาบาลด่านแรก จะทำให้เรารู้สึกพึงพอใจสุดๆ ประเภท ป๊าดพยาบาลที่นี่มาพูดเพราะมารยาทดีแท้ หายากใช่มั๊ยท่าน (ยกเว้นชลัญธร อิ อิ )

           พักเรื่องซีรี่ หมออนามัยไว้แป๊บ ให้บางคนขำค้าง   จริงๆกะจะให้ผู้จัดละครมาอ่านนะ เอาไปสร้างละครน่าจะสนุก  ไม่คิดค่าเขียนด้วยเอ้า  มีนางเอกบุคลิกแบบนี้ โอ๊ย rating กระชูด  ดีกว่าไปสร้างแย่งผัวแย่งเมีย ตบตี อิจฉาริษยากัน ดูแล้วปัญญาลดลงอยู่ได้  ทุกท่านว่ามั๊ย

 

 

           ขึ้นหัวข้อแบบนี้ นี่ ไม่ได้คิดจะพาดพิงใคร นะค่ะ  แต่ คิดไว้เตือนใจตัวเองต่างหาก    หากพูดถึงเองนี้  ทุกคนต้องยกมือเห็นด้วยกับชลัญ 1000 เปอร์เซ็นต์แน่นอน 

 

            เวลาที่เราไปโรงพยาบาลหลายๆแห่ง  จะมีสักกี่โรงพยาบาลที่พยาบาลด่านแรก จะทำให้เรารู้สึกพึงพอใจสุดๆ ประเภท   ป๊าดพยาบาลที่นี่มาพูดเพราะมารยาทดีแท้  หายากใช่มั๊ยท่าน  (ยกเว้นชลัญธร  อิ อิ )

 

            ส่วนใหญ่ที่พบเจอก็ประมาณนี้แหล่ะ ด่าด้วยสายตา  เอ่ยวาจาไม่คิด แบบเชือดเฉือนทำให้คนไข้จิตตก ซะส่วนใหญ่   

 

            ซึ่งถามว่าชลัญเป็นมั๊ยก็เคยมีบ้างนะ เมื่อก่อนบ่อยมาก เดี๋ยวนี้มีหลุดบ้าง  เวลาไม่สบอารมณ์อย่างแรง  ซึ่งเป็นสิ่งที่ชลัญพยายามแก้ไข เพราะรู้ว่าเป็นข้อด้อยของตัวเอง   ที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี  กับการกระทำของเรา  คนเรานี่เวลาถูกว่า หรือด่านี่บางทีมันไม่ใช่ด้วยคำพูด  แต่สานชยตานี่เราอ่านได้ว่าเขากำลังด่าเรา  อีกอย่างคือคำพูดแบบไม่คิด  พูดๆๆๆๆๆๆไปจนคนตอบไม่มีโอกาสอธิบาย  พอเขาได้โอกาส อธิบายมา อ้าวข้าเองที่ผิด ไปว่าเขาน่ะ  แต่ก็ยังไม่รับผิด หาเหตุเข้าข้างตัวเองจนได้ 

 

            เรื่องการด่าด้วยสายตา กับการเอ่ยวาจาแบบไม่คิดนี่  ว่าจะทำให้เรารู้ตัวว่า เฮ้ย !.......นี่ฉันกำลังเป็นแบบนี้เลยนี่  ก็ทำให้หลายคนเจ็บใจ   เสียใจ  เสียความรู้สึก และเสียมิตรภาพมานักต่อนักแล้ว

 

            ชลัญจึงคิดเอาเรื่องเล่า ที่ชลัญประสบเองแล้วมันเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตว่า  ให้มองคนด้วยสายตาที่เป็นมิตร ไม่ด่าผ่านทางสายตา  หรือเวลาจะถามคนไข้ ให้คิดสักนิดก่อน แล้วค่อยเอ่ยวาจาออกไป  เรื่องนี้ฝังใจชลัญมาก  เล่าแบบสำนึกบาป

 

            เมื่อครั้งที่ชลัญทำงานรับผิดชอบในการตรวจ หญิงหลังคลอด ซึ่งที่ รพ.ชลัญนั้นมีคลินิกตรวจหลังคลอด 7 วันเพื่อดูแผลฝีเย็บ ตัดไหม แผล  และติตามเด็กตัวเหลือง  ซึ่งคลินิกจะเปิดครึ่งวัน  วันนั้นเป็นเวรชลัญ  มีน้องผู้ช่วยอยู่ด้วย 1 คน  คนไข้ไม่มากดีจัง  นั่งเล่นไปเรื่อยๆ (เสียค่าแรงหลวงจ้างจริง) ดูคนไข้เสร็จตั้งแต่ยังไม่ 10 โมง  โอ๊ยสบาย แต่ผิดคาด ตอน 11.45 น. มีคนไข้มาอีก 1 คน อุ้มลูกน้อยมาพร้อมญาติ 4-5 คน ปรี๊ดเลย ในสมอง บ่น มาทำไมว่ะตอนนี้ จะลงกินข้าวอยู่แล้ว  ตั้งกะเช้ามานี่ทำอะไรกันอยู่  ให้ตายเถอะหิวก็หิว  เมื่อความคิดที่เป็นอกุศลมาเกิดในสมอง   สายตาที่ไม่เป็นมิตรเริ่มเกิด สีหน้า ก็แสดงออก  มีกิริยาการไม่พอใจเกิดขึ้น  แล้วคำพูดแย่ๆก็หลุดอออกจากปาก พยาบาลชลัญธร  โอ๊ยมาอะไรกันป่านนี้ ไม่รู้หรือไงว่า นี่เขาเปิดกันครึ่งวัน  แล้วจะทำทันมั๊ยนี่ ฉอดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  คนไข้นั่งร้องไห้  ญาติๆ ยืนอยู่พยายามจะบอกอะไรชลัญสักอย่าง  แต่ชลัญไม่ฟัง บ่นโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ๆ พอชลัญหยุดพูดเท่านั้นเอง  มีญาติคนหนึ่งท่าทางนอบน้อม พูดขึ้นมา แล้วทำให้ชลัญอึ้งแบบ รู้สึกผิดอย่างแรง  ต้องปรับปรุงตัวแล้ว

            “คุณหมอค่ะ  พวกดิฉันขอโทษจริงๆค่ะ  คือว่าไม่ตั้งใจ ( พร้อมยกมือขึ้นไหว้ )  หลานฉันผัวมันเพิ่งตายตอนตี 4 แต่ไม่รู้หรอกว่าตายตอนไหน  ไหลตายน่ะหมอ  กว่าจะเสร็จเรื่องก็เลยทำให้มาสายค่ะ  พวกฉันขอโทษจริงๆ”

 

            มันแทงแปล๊บเข้าไปในความรู้สึก  ต๊ายนี่ชลัญกำลังบ้าอะไรอยู่นี่ คนเขาทุกข์มา ชลัญยังซ้ำเติมความทุกข์ให้เขาอีก  เวลามันไม่ได้จบ แค่ 12.00 น.สักหน่อย แล้วชลัญก็ไม่ได้เลิกเป็นพยาบาลตอน 12.00 น.ด้วย  แต่ยังเป็นไปจนกว่า ลาออกหรือเกษียณ หลวงก็ไม่ได้หักเงินเดือนตอน 12.00 น.ด้วย  แล้วถ้าเป็นตัวเอง ผัวตายทั้งคน  เราน่าจะชื่นชมสปิริต เขาด้วยซ้ำ  ถ้าเป็นฉันไม่มาหรอก  คนที่สมควรโดนด่าน่ะคือชลัญธรนี่เอง

 

            จากวันนั้นมา รู้สึกเจ็บและเข็ดอย่างมาก  กับการใช้สายตา และวาจา กับคนไข้  มันทำให้ได้คิด  ว่าทุกคนทำอะไรก็ตามล้วนมีเหตุผลในตัวเองก่อนจะคิดที่จะทำให้เราแสดงความรู้สึกผ่านสายตา  หรือ พูดอะไรที่ ทำให้คนอื่นรู้สึกแย่  ลองคุยและหาเหตุผลสักนิด  เราอาจช่วยเขาได้มากกว่านี้  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมา เป็น 10 ปี แล้ว  แต่เวลาที่ชลัญเห็นน้องพยาบาล หรือ พี่พยาบาลทำกิริยาที่เคยเกิดในความรู้สึกของชลัญนั้นมันทำให้นึกถึงเตือนสติเราตลอด 

 

            เตือนให้เรารู้ว่า อย่า ด่าคนด้วยสายตา และเอ่ยวาจาแบบไม่คิดอีกต่อไป

 

 

ด้วยความหวังดี

 

ชลัญธร   ตรียมณีรัตน์

 

ปล. เม้นท์ ใน GTK นี่ชลัญแซวเล่นนะ หากจะมีบางท่านที่ชลัญ กัดแรงไปหน่อย  เช่น อ.was  ก็แหมทำไงก็ไม่ยอมหันหน้า  แต่ยังไงก็รักดอกถึงหยอกเล่น  อิ อิ

 

 

หมายเลขบันทึก: 499840เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2012 05:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 สิงหาคม 2012 22:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

บางครั้ง น่าเห็นใจ..วัน ๆ พยาบาล..พบแต่คนป่วยหน้าตาบูดบึ้ง เหวอะหวะ ...แต่เห็นหล่อบ้าง สวยบ้าง ก็หมอ พยาบาล ด้วยกัน...ไม่เหมือน อาจารย์ ครู วัน ๆ เจอ..นักศึกษา สวย ๆ หล่อ ๆ...ดังนั้นพยาบาลอารมณ์บูดบ้าง ..ก็ไม่ถือ...สวัสดีครับ

อยากกดให้ดอกไม้สักร้อยดอกค่ะ น้องชลัญ

สวัสดีค่ะน้องชลัญ

 ขอบคุณสำหรับข้อคิด..คำเตือน..ที่สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งสองฝ่ายที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันค่ะ :-))

  • สงสารคนไข้
  • เคยโดนแบบนี้
  • แต่เป็นคุณตำรวจ
  • ผมไปพิมพ์รายนิ้วมือช้า ตอนรับราชการใหม่ๆ
  • ใกล้สี่โมงเย็น
  • เพราะเจ้าหน้าที่ที่ประชุมข้าราชการใหม่ปล่อยมาช้า
  • พี่จ่าแกบอกว่า
  • ทำไมเพิ่งโผล่...มา(ผมแต่ตัวไม่เรียบร้อยด้วยใส่รองเท้ายาง สะพายย่าม)
  • เลยตั้งใจว่า ถ้าเราเป็นข้าราชการ จะต้องพูดดีๆกับผู้มารับบริการครับ

สวัสดีครับ

มายกมือให้คำถามแรก อิๆๆ ไป รพ (รัฐบาล) ทีนึงต้องเตรียมใจมากๆ ครับ มีเพื่อนๆ และญาติๆ บางคน กลับก่อนได้ตรวจก็มี เพราะทน....ไม่ไหว

ขอบคุณ Blank ที่เข้าใจ พบ. ค่ะ

ขอบคุณ คุณเจ้Blank แหม! ซาบซึ้งใจ ให้ดอกไม้ตั้ง 100 ดอกน่ะ 

ขอบคุณค่ะ คุณพี่ Blankkwancha  ทุกวันนี้ชลัญยังหลอนอยู่เลย

 

ขอบคุณท่าน Blank ที่ มายกมือ หนับหนุน  คราวหน้ามา รพ.ชลัญนะ รับรองประทับใจแบบกลับไปแบบไม่อยากกลับมาอีกเลยน่ะ อิ อิ 

ขอบคุณค่ะ อ.ขจิต Blank ชลัญ น่ะ ญาติดีกับตำรวจ แต่ที่ อำเภอนี่ซิ เฮ้ย ...

บ่อยไปค่ะ.. ที่เราพูดกระแทก แดกดัน โดยลืมรับฟังเหตุผล..

แล้วต้องกลับมาเสียใจภายหลัง

ความรู้สึกที่เสียไปแล้ว.. ไม่ว่าจะทำดีตอบแทนอบ่างไร ไม่สามารถทำให้ความรู้สึกที่เสียไปแล้วนั้น กลัคืนมา

 

เรื่องราวเตือนสติได้ดีมากๆเลยค่ะ งานที่ต้องบริการผู้คนนี่ต้องใช้หัวใจมากๆทีเดียวนะคะ ทำไปตามหน้าที่เฉยๆไม่ได้ น้องโจ้เข้าใจยกตัวอย่างมากๆเลยค่ะ พี่โอ๋เชื่อว่าคนที่ทำกิริยาไม่ดี เมื่อเห็นตัวอย่างดีๆก็คงอยากทำตามในที่สุดแน่ๆ น้องโจ้คงได้เป็นต้นแบบดีๆให้คนอื่นได้อีกเยอะเลยค่ะ 

ข้อเขียนดีมากครับ เทคนิคนี้บางทีผมยังทำไม่ค่อยได้ดีนักเรยครับ อย่างเวลาผมไปออดิตแล้วเจอการปฏิบัติไม่เป็นไปตามคู่มือ แล้ว จนท ให้คำตอบในการไม่ทำสิ่งนั้น แบบไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ เราก็พยายามข่มใจ เตือนให้เค้าตระหนัก โดยทำหน้าที่กำกับดูแล ที่รักษาน้ำเสียงให้้ป็นปกติที่สุด แต่บางทีก็อดไม่ได้ เพราะความละเลยสิ่งนั้นบางสิ่งมันกระทบต่อประชาชนชาวบ้าน ในเรื่องความปลอดภัย รุนแรงระดับ 4 อารมณ์ของการที่จะต้อง ปกป้อง คุ้มครอง ชาวบ้าน ก็เป็นหน้าที่ ที่ต้องเคร่งครัดและรับผิดชอบสูง ทำให้น้ำเสียงเรา หน้าตาเรา อาจจะดุไป น้ำเสียงแข็งไป แต่ก็มีผลทำให้ผู้ได้ยินตระหนัก และใส่ใจเพิ่มขึ้นจากเดิม ผมยังต้องรักษาความสมดุลย์ของ กิริยามารยาทน้ำเสียงและบทบาท ให้พอดี และเหมาะสมยากมาก กับการตรวจสอบ แต่ก็จะพยายามครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท