การปลูกข้าวไร่เป็นอาชีพหลักของเกษตรกรที่นี่ ในแต่ละปีหน้าที่หลักส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่อยู่ในไร่ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีการทำสวนบ้าง รับจ้างข้างนอกบ้าง แต่เมื่อถึงฤดูทำไร่สมาชิกในครัวเรือนทุกคนจะกลับมารวมตัวกันเพื่อมาช่วยกันทำไร่ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเดินทางไปยังที่ ๆ ไปรับจ้างต่อ ทิ้งไว้เพียงพ่อแม่ที่แก่แล้ว แม่บ้านที่มีหน้าที่ดูแลเลี้ยงลูกหลาน และเด็กเยาวชนที่อยู่ในวัยเรียน
การทำไร่ไม่ได้ทำแค่เดือนสองเดือนหรือเป็นฤดูกาลคล้ายกับการทำนา แต่มันใช้เวลาทั้งปี โดยชาวบ้านจะเริ่มถางไร่ในเดือนธันวาคม เดือนมกราคมปล่อยทิ้งไว้ให้ไม้ที่ถางแห้ง ก่อนที่จะเริ่มทยอยเผาไร่ในเดือนกุมภาพันธ์ สามารถปลูกข้าวไร่ในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน ส่วนเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนจะอยู่ในชวงดูแล ถางหญ้า (ระหว่างนี้เก็บผลผลิตที่เป็นพืชผักต่าง ๆ ได้ เพราะปลูกพร้อมกับตอนปลูกข้าวไร่ มีพืชหลายชนิดมาก แต่ละชนิดจะเก็บเกี่ยวไม่พร้อมกันด้วย) ในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวและเก็บข้าวในยุ้งฉาง
เกือบทุกขั้นตอนจะมีพิธีกรรมเลี้ยงเจ้าป่า เจ้าเขา ไร่ ดิน ไฟ แล้วแต่กิจกรรมที่จะทำด้วย แต่สำหรับวันนี้ในเดือนเมษายนได้ไปเห็นการปลูกข้าวไร่ของชาวบ้าน โดยมีน้อง ๆ (อีกแล้ว) เป็นผู้พาไป เหนื่อยอีกตามเคยค่ะ ทางชันมาก แต่เห็นน้อง ๆ มีความสุขกันมาก ๆ เช่นกัน
การปลูกข้าวไร่ จะมีคนขุดหลุม และคนหยอดเมล็ด โดยปกติจะจับคู่กัน ในแต่ภาพ น้อง ๆ ต้องช่วยกันหยอดเมล็ดข้าว เพราะคนขุด จะขุดไวมาก ๆ
มือดำกันเลยค่ะ จากการจับไม้ขุดหลุมบ้าง ตอไม้ในไร่บ้าง หรือดินขี้เถ้าบ้าง
ไม่ใช่แค่มือนะค่ะ หน้าหนูก็ดำค่ะ
ต้องห่อข้าวไปด้วยค่ะ ไม่อย่างนั้นไม่มีแรงเดินกลับบ้านแล้ว หมดแรง
รางน้ำดื่ม น้ำผุดขึ้นมา ชาวบ้านเลยเอาไม้ไผ่ไปทำเป็นน้ำไหล ทำให้สะดวกแก่การนำมาดื่มด้วย
หลังจากปลูกข้าวไร่เสร็จแล้ว ก็แวะพักดื่มน้ำเติมพลังก่อนค่ะ
รอบนี้ พี่ ๆ เป็นภาระให้น้อง ๆ อีกเช่นเคย แวะพักไม่รู้กี่รอบ ทางชันสุด ๆ ค่ะ
อายุปูนนี้แล้วอ่ะเนาะ ;)...
ดีจังเลยค่ะที่ได้กินข้าวในห่อใบตองกับดื่มน้ำจากปล้องไม้ไผ่
แหมอาจารย์ค่ะ ยังไงก็ไล่ตามอาจารย์ไม่ทันค่ะ กิกิ ขอบคุณค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn
ขอบคุณค่ะคุณจันทวรรณ
ขอบคุณค่ะอาจารย์ขจิต ฝอยทอง เหมือนจะทำไม่ยากค่ะ แต่ต้องใช้พลังเยอะมากเลยสำหรับหนู แต่ชาวบ้านเขาคุ้นเคยทำจนชำนาญค่ะ
น้ำผุดที่อมก๋อยยังพอจะเจอได้อยู่บ่อย ๆ ค่ะ เวลาพวกเราเข้าสำรวจพื้นที่ป่าค่ะ
การลงแขกเป็นกิจกรรมที่น่ารักมากค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณครูNopparat Pongsuk รอติดตามอ่านต่อไปนะค่ะ จะเก็บมาเล่าให้อ่านค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณkunrapee
ขอบคุณค่ะอาจารย์Sila Phu-Chaya กินข้าวในห่อใบตอง ต้องใช้มือเปิบด้วยนะค่ะ น้ำพริก ผักลวก อร่อยมากค่ะ
ได้เรียนรู้ไปกับเด็กๆด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะอาจารย์นงนาท สนธิสุวรรณ
การลงแขก...ปัจจุบันนี้เริ่มพบเห็นยากขึ้นนะครับ ดีใจจัง ที่ยังมีภาพแบบนี้ให้เห็นอยู่ที่อมก๋อยด้วย
ขอบคุณค่ะคุณอักขณิช เวลานี้การลงแขกยังมีอีกมากมายค่ะที่อมก๋อย แต่อีกไม่นานคงลดลงเช่นกันค่ะ
แบบนี้เคยทำแล้วค่ะ
ตอนเด็กๆสนุกนะค่ะ
แต่ถ้าเป็นตอนนี้คงไม่ไหวแล้วค่ะ
วิถีชุมชนดั้งเดิมนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นการทำทั้งกายและใจ เต็มไปด้วยความนอบน้อม รู้คุณแม่ธรรมชาติ หวังว่าชุมชนที่น้องเข้าไปทำงานด้วยจะสามารถอยู่ตามวิถีของเขาอย่างมีความสุขไปได้นานๆนะคะ
ขอบคุณค่ะคุณพี่ยุวนุช น้องก็หวังว่าชุมชนจะไม่ถูกดูดกลืนไปกับเทคโนโลยี สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วค่ะ