จากเรื่องราวที่อาจารย์ประมวลเล่าว่า กลับไปเยี่ยมหาพักเก่า แต่ครั้งแรกยังเข้าไปไม่ได้ อยู่ดี ๆ ก็มาเจออาจารย์ท่านหนึ่ง ที่เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์เดียวกัน คุยกันถูกคอ ถามกันไปมาทราบว่า
“เป็นอาจารย์ที่ดูแลหอพักที่อาจารย์ประมวลเคยพัก”
โห โลกกลมจังเลย เรื่องบังเอิญไม่มีซินะ เพราะความมุ่งมั่นตั้งใจ ทำให้ท่านได้มีโอกาส
ระหว่างที่ท่านกำลังจะไปนั้น อาจารย์ที่ดูและพักก็ชวนให้ไปพักทานอะไรที่บ้านท่านก่อน ทำให้ได้รู้จักและเจอภรรยาของอาจารย์ที่ดูแลหอพัก
จังหวะที่ท่านอาจารย์เล่าว่า มีคนหนึ่งเดินถือกุญแจมา ซึ่งน่าจะเป็นภารโรง ท่านรู้สึกขอบคุณ เพราะชายคนนี้เป็นผู้ที่จะนำท่านไปสู่หอพักที่ท่านเคยอยู่
ทำให้หนูเกิดคำถามกับตนเอง
หนูเคยไหม เคยสักครั้งไหม ที่รู้สึกขอบพระคุณสิ่งต่างๆ
หรือ ผู้คนที่เข้ามามีส่วนในการเอื้อเฟื้อ เกื้อกูลให้หนู
สามารถบรรลุเป้าหมาย
สารภาพเลยค่ะ น้อยครั้งมาก ๆ แทบจะไม่มี
สำคัญในความขอบพระคุณ
เห็นจิตใจ ที่อ่อนโยนและงดงามของท่านอาจารย์ประมวลแล้ว
ย้อนเข้ามาสำรวจตนเอง
“ติ๋วเอ้ย ยังต้องฝึกฝนอีกมาก”
“อดทนนะ ก็ยอมรับแล้วว่า ติ๋วหน่ะมามืด เริ่มต้นที่ต้นทุนติดลบ ก็พยายามเอา กว่าจะแก้ไขนิสัย ขัดเกลากิเลสออกได้แต่ละอย่าง ก็เห็น ๆ อยู่ ว่า ไม่ง่าย แต่ก็ทำได้ใช่ไหม”
แม้จะยังไม่รู้ว่าจะต้องฝึกฝนกับตนเองไปอีกเท่าไหร่
แต่ก็รู้อยู่ในตนเองว่า เป้าหมายคือ จิตใจที่อ่อนโยน ไม่หยาบกระด้าง
ต้นแบบงาม ๆ ก็มีให้เห็น เพราะครูท่านเป็นเป้าหมายที่หนูสามารถยืนยันกับตนเองว่า “ทำได้”
เพราะครูทำมาแล้ว “ได้ผล” สู้ ๆ
ไม่มีความเห็น