ถอดกันให้เนียนจากทีมเจ้าหน้าที่กลุ่ม A ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผู้เขียน ภก.เอนก และหมอจิ้ม เป็นผู้ชวนคุย
มาเริ่มกันที่ คุณมงคล โชตแสง
นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแร่ จังหวัดสกลนคร คุณมงเล่าเรื่องราวด้วยเสียงเรียบ เบา น้ำเสียงย้ำหนัก เป็นบางครั้ง ดวงตามุ่งมั่น
เรื่องเล่ากิจกรรมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่นำมาใช้และปลูกฝังลงไปในวิถีชิวิตของตำบลบ้านแร่ มีแรงบันดาลใจในการทำงานมาจาก ความรับผิดชอบในงานที่ทำอยู่ มีความต้องการจะลดจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ มีนโยบายสนับสนุนและผู้ใหญ่ในจังหวัดเป็นต้นแบบ ในจังหวัดสกลนครมีกิจกรรมวิ่งเพื่อสุขภาพมาเป็นเวลานาน คุณมงมีแนวคิดส่งเสริมกลุ่มเสี่ยงที่จะให้ออกกำลังกายทุกวันจะต้องทำอย่างไร และตัวคุณมงเองก็ได้เข้าค่ายเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วทำให้คุณมงเป็นบุคคลต้นแบบสุขภาพจนถึงปัจจุบัน จัดกิจกรรมค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยใช้งบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมออกกำลังกาย 5 วัน 4 คืน จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพ ผ่าน การจัดสรรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
คุณมงเล่าว่า ผู้ใหญ่ในจังหวัดสกลนคร คือ รศ.(พิเศษ) ทพ.ดร.สุขสมัย สมพงษ์ เป็นบุคคลต้นแบบการสร้างสุขภาพ นำการวิ่งเพื่อสุขภาพใช้ในจังหวัดสกลนครมานานแล้ว
รศ.(พิเศษ)ทพ.ดร.สุขสมัย สมพงษ์
แต่สำหรับคุณมง ทำงานมา 18 ปี และได้มารับผิดชอบงานสร้างเสริมสุขภาพและดูแลกลุ่มเสี่ยงประมาณ 4-5 ปี มีเป้าหมายเพื่อให้คนมีสุขภาพดี โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มไม่ป่วยและกลุ่มเสี่ยงซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องสมัครใจ แต่สำหรับกลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่งต้องเข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายปรับเปลี่ยนทุกคนเพื่อเป็นบุคคลต้นแบบ ได้แก่ กลุ่มเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ผู้นำชุมชน อาสาสมัครหมู่บ้าน
คุณมง หล่อเรียมในเสื้อกึ่งสูท กับ ภก.เอนก (เสื้อฟ้า) ขณะกำลังทำกลุ่ม โปรดสังเกต อ.อารยา กำลังแอบดู พวกเราอยู่..
กิจกรรมในค่าย
1) ต้องมี การออกกำลังกาย ต่อเนื่องทุกวัน มีฝึกวิ่งเป็นกลุ่ม มีการจัด Zone เดิน ,และ Zone วิ่งให้วิ่งวันละ 1 ชม และพื้นที่ Zone เดินจะลดลงเรื่อยๆจนวันสุดท้ายไม่มีพื้นที่สำหรับเดินเลย
2) ให้ปฏิบัติสุขบัญญัติ 10 ประการ มีการตรวจเรื่องล้างมือกับแปรงฟังหลังอาหาร ไม่มีการดื่มสุราและบุหรี่ในค่ายปรับพฤติกรรมมีระบบพี่เลี้ยงช่วยเหลือประคับประคองจิตใจ นวดผ่อนคลายหา น้ำมะนาวมาช่วยลดอาการเปรี้ยวปากอยากบุหรี่ เป็นต้น มีคำพูดให้ความหวัง กำลังใจ ท้าทาย ในค่ายปรับพฤติกรรม เช่น "ผู้กล้าเลิกบุหรี่/สุรา"
"ทุกวันยากเหมือนปีนเขา สุดท้ายจะได้ยืนยอดเขา"
3) กิจกรรมกายบริหารเพื่อลดปวดหลังปวดเอว* อันนี้คุณมงบอกว่าเป็นกิจกรรมที่ต้องมีเนื่องจากคนที่บ้านแร่มีโรคนี้กันมากเพราะอาชีพ
4) การประเมินทุกเช้า น้ำหนักแสดงให้ทราบว่า น้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพิ่มขึ้น ลดลง เท่าเดิม อาหารที่ทำให้รับประทานเป็นไปตามสูตรหนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็นในตอนเย็นอาหารจะมีแต่ผักปลา และอีกอย่างที่คุณ มงเน้นคือ เครื่องวัดน้ำหนักใช้เครื่องเดียวเท่านั้นต้องแสดงเป็นตัวเลข(digital)ด้วย ก่อนหน้านี้เคยใช้ค่าวัดรอบเอว ดัชนีมวลกายแต่พบว่าไม่เห็นชัดเจนและมีความคลาดเคลื่อนขึ้นกับคนวัดและผู้ถูกวัดต่อมาจึงใช้การวัดน้ำหนักอย่างเดียว
5) เตรียมความพร้อมสู่ชุมชน เช่น ตกลงเวลาที่สามารถออกกำลังกายได้จริงสะดวก เหมาะสม เมื่อต้องกลับไปอยู่บ้าน ใครจะไปออกกำลังกายพร้อมกันบ้าง
สำหรับคำถามผลลัพท์ ทำมาเท่าไรแล้วได้ผลประมาณใด
ทำมาแล้ว 14 หมู่ 5 รุ่น มีการประเมินติดตามที่ 1 เดือน,3 เดือนและ 1 ปี ติดตามโดยพี่เลี้ยง จะต้องติดตามเมื่ออยู่ในชุมชน อย่างเข้มข้น 1 เดือน พี่เลี้ยงจะไปร่วมวิ่งด้วย (ผู้เขียนแอบคิด อา!หลังจากปรับนิสัยแล้ว ต้องประคองนิสัยกันอีก1 เดือน )
เอ! แล้วเขาทำต่อได้โดยยั่งยืนและอยู่กับพฤติกรรมใหม่ได้นานเพราอะไร คุณมงบอกว่าเขาจะกลายเป็น ตัวอย่างที่ดีและจะได้รับการเชิดชูในเวทีต่างๆ ได้รับรางวัล เช่น นักวิ่งกรีฑา 50 ปี ได้รางวัลจ้าวสนาม ที่สกลนครเขามีจัดการวิ่ง กิจกรรมจ้าวสนามกันทั้งปีทีเดียว อ่า....แอบไปเปิดดูจังหวัดสกลนคร เขาดูวิ่งกันคึกคัก จริงจัง www.forrunnersmag.com/events/eventinfo.php?eventid=1766
มีการจัดกิจกรรม
-จัดวิ่งจ้าวสนามเดือนละ1 ครั้ง
-บุคลากรผู้นำทุกคนจะต้องเข้าค่าย แผนก.ก. ทำแล้ว เป็นพี่เลี้ยงแผน ข
-และตอนนี้กำลังขยายกลุ่มอายุที่เยาว์ลง:อายุ 5-6 ปีหลังคาเรือนละหนึ่งคน
การทำประชาคมในหมู่บ้าน ชาวบ้านคิดกันเองว่า ชุมชนเขาตนเองจะทำอาไรกัน
--แผน ปลอดเหล้าในงานศพ
--แผน กินผัก
--แผน ความสะอาดในครัวเรือน สอดคล้องสุขภาพดีวิถีไทย
--แผน ออกกำลังกาย เน้นวิ่ง 1 ชม =/250 cal (หรือaerobicในดอกแปลว่าaerobic โดยไม่มีเพลง)
เรื่องของ รพ.สต.บ้านแร่ ยังไม่จบนะคะ..