ในโอกาสวันแม่ปีนี้ อยากแบ่งปันประสบการณ์หนึ่งที่ผมทำ (ในฐานะพ่อที่พยายามเปลี่ยนแปลงตนเอง) แล้วช่วยสร้างบรรยากาศความรักความเมตตาต่อกันในครอบครัว นั่นคือ ไม่ว่าลูกจะแสดงพฤติกรรมที่แสดงว่าเขากำลังทุกข์ต่อหน้าอย่างไร ผมยิ้มรับได้เสมอ
ตัวอย่างเช่น เวลาที่เขาโกรธ (จะโกรธผมหรือโกรธใครก็ตาม) ผมก็แสดงความเห็นใจ ด้วยความเข้าใจว่าเขากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่ก่อกวนจิตใจเขาจนไม่อาจทนทานได้ ด้วยยิ้มอย่างเมตตาและแสดงออกซึ่งความเข้าใจและเห็นใจเขา และโอบกอดเขาด้วยความรัก มักช่วยให้เขาสงบลงได้
อีกตัวอย่างลูกหลานบางคนที่เราพบว่ามักพูดเท็จ หากแสดงให้เขาเห็นว่า เรารักเขา เข้าใจความทุกข์ในใจเขา ที่เป็นเหตุให้เขาไม่พูดความจริง (ส่วนใหญ่มักมีเหตุมาจาก "ความกลัว" อะไรบางอย่าง หรือไม่อาจทนทานต่อความจริงบางอย่างก็ตาม) และสอนเขาอย่างอ่อนโยน (ด้วยความอดทนของเรา) ถึงโทษของการมุสา และคุณประโยชน์ของการพูดความจริง ก็ช่วยให้เขากล้าหาญขึ้นในการพูดความจริง (อย่างน้อยก็กับบางคนที่เขาวางใจว่ารักเขา) กรณีหลังนี้ การด่าว่า ประณาม ไม่ช่วยให้เขาได้ปลดปล่อยศักยภาพที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่แล้ว เช่น สัจจะ ขันติ และความงามอื่นๆ ของชีวิต ออกมาได้
มีเรื่องประทับใจในครอบครัว ที่ผมมักเล่าอยู่เสมอ คือเรื่องลูกขับรถแล้วเกิดไปชนกับรถคันอื่น เสียหายพอสมควร พอกลับถึงบ้าน ทั้งผมและภรรยาร่วมกันกอดเธอเงียบๆ อยู่นาน ก่อนที่จะพูดจากัน (อย่างอ่อนโยน) ผมรู้สึกว่าการทำเช่นนี้ทำให้ "บ้านของเรา" เป็นพื้นที่ปลอดภัยและอบอุ่นสำหรับสมาชิกทุกคน
ตัวอย่างเช่น เวลาที่เขาโกรธ (จะโกรธผมหรือโกรธใครก็ตาม) ผมก็แสดงความเห็นใจ ด้วยความเข้าใจว่าเขากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่ก่อกวนจิตใจเขาจนไม่อาจทนทานได้ ด้วยยิ้มอย่างเมตตาและแสดงออกซึ่งความเข้าใจและเห็นใจเขา และโอบกอดเขาด้วยความรัก มักช่วยให้เขาสงบลงได้
อีกตัวอย่างลูกหลานบางคนที่เราพบว่ามักพูดเท็จ หากแสดงให้เขาเห็นว่า เรารักเขา เข้าใจความทุกข์ในใจเขา ที่เป็นเหตุให้เขาไม่พูดความจริง (ส่วนใหญ่มักมีเหตุมาจาก "ความกลัว" อะไรบางอย่าง หรือไม่อาจทนทานต่อความจริงบางอย่างก็ตาม) และสอนเขาอย่างอ่อนโยน (ด้วยความอดทนของเรา) ถึงโทษของการมุสา และคุณประโยชน์ของการพูดความจริง ก็ช่วยให้เขากล้าหาญขึ้นในการพูดความจริง (อย่างน้อยก็กับบางคนที่เขาวางใจว่ารักเขา) กรณีหลังนี้ การด่าว่า ประณาม ไม่ช่วยให้เขาได้ปลดปล่อยศักยภาพที่มนุษย์ทุกคนมีอยู่แล้ว เช่น สัจจะ ขันติ และความงามอื่นๆ ของชีวิต ออกมาได้
มีเรื่องประทับใจในครอบครัว ที่ผมมักเล่าอยู่เสมอ คือเรื่องลูกขับรถแล้วเกิดไปชนกับรถคันอื่น เสียหายพอสมควร พอกลับถึงบ้าน ทั้งผมและภรรยาร่วมกันกอดเธอเงียบๆ อยู่นาน ก่อนที่จะพูดจากัน (อย่างอ่อนโยน) ผมรู้สึกว่าการทำเช่นนี้ทำให้ "บ้านของเรา" เป็นพื้นที่ปลอดภัยและอบอุ่นสำหรับสมาชิกทุกคน
สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
๑๒ ส.ค.๒๕๕๕
๑๒ ส.ค.๒๕๕๕