เมื่อเด็กไทย "อยู่เหนือน้ำ" อีกหนึ่งกิจกรรมปลุกพลังจิตอาสาในเยาวชน


เด็กมีพลังมีไฟ ถ้ามีโอกาส ก็จะแสดงพลังออกมาได้ กิจกรรมต่างๆ สร้างให้เด็กรู้ว่าตัวเองมีคุณค่า ความเป็นจิตอาสานี้จะติดตัวไปจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่

หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี 2554 ทุกหน่วยงานต่างออกมารวมพลังกันฟื้นฟูช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ ในกลุ่มนี้มีจิ๊กซอล์เล็กๆ จาก 14 โรงเรียนที่ออกมารวมพลังฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยใน 30 แห่ง ภายใต้โครงการฟื้นฟูสุขภาวะและทักษะชีวิตเด็กและเยาวชนหลังน้ำท่วมของ กลุ่มเสริมสร้างทักษะชีวิตและจิตอาสาของคนรุ่นใหม่ ที่ดำเนินงานโดยสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจำนวน  4 ล้านบาทของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

เมื่อวันที่ 2-4 สิงหาคม 2555 ที่ห้องประชุมอาคาร 14 ชั้น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เยาวชนที่ร่วมงานนี้กว่า 100 คน มารวมกันในงานสัมมนา เรื่อง "คนรุ่นใหม่...ใส่ใจประเทศไทย" แน่นอนว่าเมื่อกลุ่มเด็กคนทำงานจิตอาสา มารวมตัวสิ่งที่เห็นเชิงประจักษ์คือ "พลัง" ที่แสดงออกกันอย่างล้นเหลือจริงๆ การนำเสนอของน้องๆ ก็ไม่ธรรมดา ทำเป็นคลิปวีดีโอมาพรีเซนเตชั่นกันแบบไฮเทค แม้จะยังเข้าข่ายมืออาชีพแต่ต้องยอมรับในฝีมือและความตั้งใจ

 

พี่โต้ง น.ส. ดารณี เวณุจันทร์ ประธานโครงการฟื้นฟูสุขภาวะและทักษะชีวิตเด็กและเยาวชนหลังน้ำท่วม ได้กล่าวถึงการดำเนินงานในชื่อกลุ่มเสริมสร้างทักษะเชีวิตและจิตอาสาของคนรุ่นใหม่ ไว้ว่า

"เด็กๆ ทุกคนจะมีพลังที่อยากแสดงออก แม้ว่ากิจกรรมของฟื้นฟูอุทกภัยที่เด็กๆ ทำจะเป็นกิจกรรมเล็กๆ อย่างงานทาสี ซ่อมแซมห้องสมุด อาคารเรียน สนามหญ้า แต่ก็เป็นงานที่เด็กได้คิดออกมาเองว่าอยากจะทำตามพลังที่ตนมีอยู่ ด้วยวัยในระดับมัธยมก็นับได้ว่าสามารถทำงานได้ดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว 

ทุกวันนี้สังคมยังหยิบยื่นโอกาสให้เด็กไม่เพียงพอ เมื่อเด็กเหล่านี้ได้ทำงาน ได้เหนื่อย เค้าก็จะรู้สึกสนุกที่ได้ใช้ศักยภาพที่ตัวเองมีอยู่แสดงออกมา กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้างเด็กให้มีจิตอาสา รู้จักให้มากขึ้น นอกเหนือไปจากได้ประสบการณ์็ในการคิด วางแผน เตรียมการ จัดกิจกรรมให้ประสบความสำเร็จ เพราะในงานนี้แตกต่างจากกิจกรรมทั่วไป คือจะเห็นผลออกมาเป็นรูปธรรม เป็นโรงอาหารหรือห้องสมุดใหม่สีสันสวยงามซ่อมแซมได้น่าใช้งาน เมื่อเกิดผลงานก็นำมาซึ่งความภาคภูมิใจ เด็กก็จะรู้สึกว่าตัวเองมีค่า มีพลังอยากเรียนรู้และก้าวหน้าต่อไป"

 

     การนำเสนอของน้องๆ โรงเรียนวัฒนวิทยาลัย ได้พูดถึงตัวเองว่า คนจะมองว่าพวกหนูเป็นเด็กในเมือง ถูกสปอย เป็นคุณหนู ทำอะไรไม่ได้ แต่เค้าเหล่านี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถเข้าไปลุยปรับปรุงพื้นที่ถูกน้ำท่วมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวม 3 แห่ง ได้แก่โรงรียนวัดแก้ว วัดสุนทราราม และวัดพระนครศรีอยุธยา จนสำเร็จสวยงาม เริ่มต้นจากได้สำรวจพื้นที่ แล้วมาปรึกษาหารือกัน ว่าจะเข้าช่วยโรงเรียนประสบอุทกภัยโดยปรับเปลี่ยนกิจกรรมจากที่จะจัดค่ายผู้นำของโรงเรียนเองที่ทำทุกปี เอางบค่ายมาเสริมกับงบ สสส. ทำงานโครงการ เด็กๆ ได้ขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครองที่ขายสีเพื่อซื้อสีราคาถูกมาทาสีโรงเรียน จัดสถานที่ใหม่ เล่านิทานให้น้องอนุบาลฟัง ซึื้ออุปกรณ์การเรียนให้น้องๆ นอกจากนี้ยังได้ให้ความรู้กับน้องเรื่องประหยัดพลังงานจากหน่วยงานห้องเรียนสีเขียว สอนน้องทำน้ำหมักชีวภาพ ไปซ่อมห้องเรียน จัดห้องพยาบาลใหม่เพิ่มสิงความสะดวกในการปฐมพยาบาล ซ่อมห้องน้ำ ทาสีอาคาร

     โครงการ ทญ. ร่วมใจต้านภัยน้ำท่วม ที่ดำเนินงานโดยนักเรียนในโรงเรียนท่านครญาณวโรภาสอุทิศ กล่าวถึงกิจกรรมที่ทำมี 3 เรื่องหลักๆ คือ

1. ได้ร่วมกันปรับปรุงโรงเรียนน้องที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งก็คือ โรงเรียนท่านครประถม ทำกิจกรรมทาสี ล้างขัดอาคารเรียน เอี่ยมอ่องซะเหมือนกับทำใหม่เลยทีเดียว (เสียดายไม่ได้ขอรูป before/after มาให้ดูกัน) 

2. ปรับปรุงและฟื้นฟูศูนย์เรียนรู้ผลิตภัณฑ์จากต้นจากของป้าวิมล เนติชัย อันเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน น้องได้ช่วยกันปรับปรุงทำหลังคาใหม่กับชาวบ้านปากนคร ซึ่งน้องเล่าแบบไม่โอเวอร์เคลมว่าทำเฉพาะส่วนที่สามารถ อันยากๆ ชาวบ้านเป็นคนทำ

3. ปรับปรุงทางเดินไปโรงอาหารของโรงเรียนท่านครฯ ของน้องๆ เพราะที่โรงอาหารถูกใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้ผู้ประสบอุทกภัย ความภูมิใจก็คือได้ทำงานยากอย่างเชื่อมหลังคา และปูกระเบื้อง 

     ส่วนผลงานของน้องๆ โรงเรียนบางมูลนาก จ.พิจิตร มีจุดน่าสนใจคือโรงเรียนของน้องๆ ก็โดนน้ำท่วมด้วยเช่นกัน นอกจากปรับปรุงพื้นที่ในโรงเรียนตัวเองแล้ว น้องๆ ยังไปทำกิจกรรมที่โรงเรียนไผ่ท่าโพใต้มากมายอาทิ พัฒนาสิ่งแวดล้อม ปลูกต้นไม้ ซ่อมแซมรั้ว เครื่องเล่นต่างๆ  และทำกิจกรรมเล่นเกมกับเด็กๆ 

   ฯลฯ

   ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการนำเสนอจาก 14 โรงเรียน ซึ่งหลังจากกิจกรรมนำเสนอแล้ว เด็กๆ จะต้องแบ่งกลุ่มแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้เพื่อนๆฟัง แล้วยังได้รับโอกาสฟังประสบการณ์จากพี่ๆ กลุ่ม GEN-V ที่เป็นกลุ่มจิตอาสาดำเนินงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่สวนโมกข์กรุงเทพ 

     ช่วงบ่ายของวันสุดท้าย เป็นกิจกรรมทัศนศึกษา ที่พี่โต้ง พาน้องๆ ไปทัศนศึกษารอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่พี่โต้งตั้งใจจะให้น้องๆ ได้เรียนรู้วิธีที่จะ "อยู่เหนือน้ำ" ของบรรพบุรุษไทย ด้วยเหตุผลว่า เมื่อเมืองไทยมีภูมิประเทศและภูมิอากาศเช่นนี้ก็ต้องอยู่กับน้ำ หนีไม่ได้ ต้องอาวิธีที่จะอยู่เหนือน้ำ ตามวิถีชีวิตที่คนไทยเคยเป็นอยู่มาแต่ดั้งเดิม ซึ่งส่วนหนึ่งที่จะเห็นได้ชัด ก็คือการวางผังเมืองกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรคือ คุณกุณฑล วัฒนวีร์ 

 

บทสรุปแห่งกิจกรรมที่มีเกียรติ

     น้องๆ เยาวชนที่มาร่วมงาน ได้รับคำชมจากท่านประธานผู้ใหญ่ใจดีจากสมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์ อาสาสมัครต้นแบบ รศ.แจ่มจันทร์  ทองเสริม อดีตรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา สถาบันราชภัฎสวนสุนันทา ได้ให้โอวาทกับเด็กๆ ในพิธีเปิดว่า "กิจกรรมนี้เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้เด็กแสดงความสามารถ ส่วนเด็กก็มีประสบการณ์ มีทักษะเพื่อนำไปใช้ประกอบการดำเนินชีวิตต่อในภายหน้าได้ ที่ทุกคนมารวมตัวกันได้ก็เพราะจิตอาสาและเพื่อหาความรู้และทักษะ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมไปช่วยเหลือคนอื่น"  

     "เพราะว่าความสำเร็จในวันนี้เกิดได้จากการรวมกลุ่มของคนหลายคน จึงเกิดความรู้ทักษะที่งอกเงยขึ้น เป็นการรวมพลังกัน สิ่งที่ตามมาก็คือต้องพบปะสร้างสรรค์ ศึกษาและรับฟังความคิดของคนอื่น นำมาแก้ไขปรับความคิดของเรา ที่สำคัญคือต้องลงมือทำ แล้วสุดท้ายก็จะเกิดความสำเร็จตามประสงค์"

     "เยาวชนเป็นเสาเข็มของประเทศชาติ ถ้าแข็งแรงประเทศก็จะเข้มแข็ง"

     

หมายเลขบันทึก: 497389เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2012 16:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 ธันวาคม 2012 23:11 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ปลูกจิตอาสา....เป็นการปลูก...ที่ยิ่งใหญ่...ปลูกที่ใจนะคะ

ขอบคุณบทความดีดีนี้นะคะ

ได้ปรับปรุงเพิ่มเติมข้อมูลจากวันแรกค่ะ ต้องขออภัยท่านที่อ่านตอนเขียนเนื้อหาไม่เสร็จสมบูรณ์ พอดีว่าจะเขียนแล้วซ่อนไว้ก่อนแล้วค่อยมาเติม ปรากฏว่าลืมติ๊กน่ะค่ะ แต่ก็ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ

  • ตามมาอ่านครับ
  • ได้ข้อมูลครบเลย
  • ขอบคุณมากๆครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท