เราทำฟัน
กิจกรรมนี้เราถือปฏิบัติทุกวัน จนชินชา
จนบางทีเราก็ลืมว่า ผู้มาให้เราทำฟัน ที่เราเรียกว่า "คนไข้" นั้น
ไม่ได้ชินชาไปกับเราด้วย
เขามาพร้อมกับความกลัว พร้อมกับความไม่มั่นใจ ไม่ไว้ใจ พร้อมกับความลังเลสงสัย
หลายคนทนควาามเจ็บปวดไว้นานเป็นวันๆ เป็นสัปดาห์ ก่อนจะมาพบเรา
สำหรับคนส่วนใหญ่ การทำฟัน ไม่ใช่กิจกรรมที่น่าพิศมัยเอาเสียเลย
ดังนั้นเวลาที่เขาบอกว่า รู้สึกเจ็บ เสียว หรือปวด
มันแปลว่าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
แม้ว่าบางทีหมออาจจะเห็นว่า "นิดเดียวเอง" หรือ "คนอื่นเขาไม่เห็นเป็นแบบนี้"หรือกระทั่ง "อย่ามาสำออย"
อย่าลืมว่า ความเจ็บ ความเสียว มันมีหลายมิติมาก ทั้งมิติทางกายภาพ มิติทางจิตใจ สังคม ฯลฯ
การที่คนไข้แสดงออกว่าเจ็บ ไม่ไหวแล้ว นั่นคือผลรวมของมิติทั้งหมด
หลายคนอาจจะเจออะไรแย่ๆ มาตลอดวันตั้งแต่ยื่นบัตร
มันไม่ใช่แค่กระแสประสาทบริเวณ pulp tissue ล้วนๆ หรอกครับ
คุณหมอโปรดรับฟัง และตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจเถิด
คำพูดประเภท "ทนอีกนิดเดียว" หรือ "ไม่เจ็บสักหน่อย"
อาจจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้นครับ
ช่วยซักถามถึงมิติอื่นๆ นอกจาก pain threshold ด้วยเถิด
หยุดพัก พูดคุย ใส่ยาชา ฯลฯ
หลายๆ โอกาส แค่ความเห็นใจ หรือการสร้างความมั่นใจก็ช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้ครับ
กลัวที่สุดตอนฉีดยาชาเพื่อถอนฟันนี่แหละค่ะ.. มันเจ็บนี่คะ
คุณหมอฟันต้องใช้แรงมหาศาล ในการดึงฟันจนหัวเราคลอนไปคลอนมา เฮ้อออ
โดนใจสุด ๆ ครับ ขอเขียนที่เข้าใจ คนไข้ปวดฟัน ...ถ้าใครไม่ได้พบกับตัวเอง ...จะไม่รู้รสชาติของการปวดฟัน...จริง ครับตอนปวดอยากจะถอนให้หมดปาก แต่เวลาไม่ปวด ยอมรับครับ..กลัวที่กลัวหมอ...จะฟัน(ล้อเล่น) กลัวหมอฟันครับ..เพราะเรารู้รสชาติ ยิ่งคนอื่นมาทำอะไรกับฟันเรา มันจะ ปวดแค่ไหน...แต่ที่จริงแล้วเมื่อได้รักษากับหมอฟัน..ไม่น่ากลัวเหมือนที่คิด...แต่ที่คนไขปวด กลัว..ไม่ใช่สำออย..ปวดจริง และกลัวจริงๆ สาบานได้... สวัสดีครับ
เคยหาหมอ ใช้ประกันสังคมถอน กลัวมากเพราะนมันแตกตอนถอน เลือดออกเยอะ ทุกวันนี้เลาไปชูดหินปูนจึงกลัวครับ
มาเรียนรู้มิติทางทันตกรรม นำไปบอกต่อชุมชน