เราจะก้าวข้ามตะกอนใจไปด้วยกัน


เราก็เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

ที่ใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นไปของโลก

ยังคงมีรัก โลภ โกรธ หลง

ความรัก โลภ โกรธ หลง นี่ถ้ามันพอดีพอดี มันก็ไม่ทำอะไรให้เราต้องเดือดเนื้อร้อนใจมากนัก

แต่หากมันเกินพอดีมันก็จะกลายเป็นทุกข์ ทุกข์ที่ส่งผลสะเทือนต่อชีวิต

จริงจริงแล้วความรัก โลภ โกรธ หลง มันก็นอนเนื่องอยู่ใต้ก้นบึ้งของจิตใจของมนุษย์เรา

เพียงแต่ว่าเราจะปลุกให้มันตื่นขึ้นมารับใช้อัตตาของเราเมื่อไหร่เท่านั้น

และเราจะหล่อเลี้ยงมันให้เติบโตขึ้นหรือจำกัดมันให้อยู่แค่นั้น

นี่คือความแตกต่างกันของมนุษย์แต่ละคน

........................................................

หากชีวิตเราเป็นอ่างน้ำใบหนึ่งที่มีตะกอนดินเล็กเล็ก นอนเนื่องอยู่ใต้ล่างของอ่างน้ำนั้น

ตะกอนดินมันก็นอนอยู่อย่างนั้น ในขณะที่น้ำข้างบนก็ยังคงใสสะอาดอยู่อย่างนั้น

แต่หากวันใดเราเผลอไปกวนน้ำ

ตะกอนดินที่นอนเนื่องอยู่ใต้อ่างก็จะลอยขึ้นมา

ทำให้น้ำใสใสกลายเป็นขุ่นข้น

ที่เขาเรียกกันว่า “กวนน้ำให้ขุ่น”

ในทางตรงกันข้ามหากเราเติมน้ำใสลงไปเรื่อยเรื่อยทุกวัน ทุกวัน

จนมีปริมาณน้ำใสมาก มาก มาก มากพอแล้ว

ต่อให้มีใครมากวนตะกอนดินนี้

ตะกอนดินอันน้อยนิดก็ไม่อาจทำให้น้ำใสที่มีปริมาณอยู่มากนี้ขุ่นข้นได้

อย่างมากก็แค่ลดความใสลงไปเล็กน้อยเท่านั้น และมันก็จะใช้เวลาไม่นานนักที่จะกลับมาใสแจ๋วดังเดิม

นี่คือธรรมชาติแท้

...............................................

ชีวิตเราก็เช่นกัน

เรามีความรัก โลภ โกรธ หลง ที่นอนเนื่องอยู่เฉกเช่นเดียวกับตะกอนดินน้อยน้อยนั้น

เรามีอดีตที่แสนรวดร้าวขมขื่นอยู่ไม่น้อย

สิ่งเหล่านี้คือตะกอนที่อยู่ในใจของเรา

แต่เราก็มีอดีตและปัจจุบันขณะที่เป็นสุขมากมาย

มีเรื่องราวดีดีหลากหลาย

ที่เป็นผลของการกระทำของเรา

อันเปรียบได้กับน้ำใสเย็นในอ่างน้ำนั้น

แต่เรามักมองมันข้ามไป

หลายคราเรากลับไปขุดขุ้ยเอาเรื่องราวที่ไม่ดี

ที่เป็นความโกรธ เกลียด แค้น ชิงชัง

กับเหตุการณ์เรื่องราวที่มันผ่านมาแล้ว

มากวนชีวิตปัจจุบันขณะของเราให้ขุ่นมัว

อดีตมันจบไปแล้ว

แต่เรามักเก็บเอาอดีตมันเจ็บปวดรวดร้าว

เก็บสะสมพอกพูนความเกลียดแค้นชิงชัง รัก โลภ โกรธ หลง

หล่อเลี้ยงมันไว้

เป็นอัตตาพอกพูนตนเอง

สะสมเป็นตะกอนดินก้อนใหญ่

เพียงมีเรื่องเล็กเล็กมากระทบเพียงนิดหน่อย

ตะกอนดินก้อนใหญ่นี้ก็พร้อมที่จะลอยตัวระเบิดความขุ่นมัวให้กับอ่างน้ำ

เอาเรื่องราวอดีตอันแสนขมขื่นมาทิ่มแทงตนเองและคนรอบข้าง

กระทบแล้วกระแทก

กระแทกแล้วกระเทือน

ซ้ำแล้วซ้ำอีก

ครั้งแล้วครั้งเล่า

ใครล่ะที่เจ็บปวด

ก็ตัวเรา คนที่เรารัก และคนรอบข้างเราเอง

..............................................................

เราจะก้าวข้ามอดีตที่ขมขื่น

ก้าวข้ามความเกลียด แค้น ชิงชัง

ก้าวข้ามความรัก โลภ โกรธ หลง

นี้ไปได้อย่างไร

เราในฐานะมนุษย์คนหนึ่งไม่อาจละทิ้งไปได้ทั้งหมด

แต่เราสามารถเติมน้ำใสเย็นลงไปอ่างน้ำของชีวิตได้ทุกทุกวัน

ปล่อยให้ตะกอนดินเล็กเล็กนอนแข็งตัวอยู่อย่างนั้น

แช่งแข็งมันไปเลย

ทำอย่างไรล่ะ

ก็แค่มองโลกในแง่ดี

เอาเรื่องดีดีมาคุยกัน

แล้วช่วยกันเติมพลังใจพลังความรักแก่กันและกัน

รักด้วยพรหมวิหารสี่

รักที่อยากเห็นคนที่เรารักเป็นสุข

รักที่อยากเห็นคนที่เรารักก้าวข้ามพ้นจากความทุกข์

รักที่เกิดจากความชื่นชมยินดีเบิกบานใจร่วมกัน

รักที่ปล่อยวาง ไม่ยึดมั่นถือมั่น ให้อภัยกัน ปล่อยวางอัตตา ความเป็นของฉัน ของเธอ

อดีตผ่านไปแล้ว เราไม่สามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงมันได้

แต่อดีตก็เป็นบทเรียนสำคัญให้เราก้าวเดินไปอย่างระมัดระวัง

ไม่ผิดพลาดซ้ำเดิมอีก

อนาคตจะดีได้อย่างไร หากไม่ทำปัจจุบันขณะนี้ให้ดี

คนที่สำคัญที่สุดคือคนที่เรากำลังอยู่ด้วย ณ ปัจจุบันขณะ

การกระทำที่สำคัญที่สุดคือการกระทำ ณ ปัจจุบันขณะ

และเวลาที่สำคัญคือเวลา ณ ปัจจุบันขณะ

นี่คือบทเรียนสำคัญของชีวิตที่เราจะต้องก้าวข้ามไปด้วยกัน

 

 

หมายเลขบันทึก: 496611เขียนเมื่อ 31 กรกฎาคม 2012 07:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม 2012 09:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณบทความดีๆ จรรโลงใจนะคะ "ฟอกจิตใจให้ผุดผ่องทุกวัน ด้วยรัก เมตตา และอภัยค่ะ"

ภาพสวยนะคะ โดยเฉพาะภาพแห่งความสดใสของวัยเยาว์ วัยที่ยังไม่มีตะกอนชีวิต

ภาพสวย เนื้อหาดีมากๆ ขอบคุณ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท