ถอดบทเรียน ..” วัฒนธรรมการจัดสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย”
โดย เกศนี บุณยวัฒนางกุล ฝ่ายการพยาบาล รพ ศรีนครินทร์
เริ่ม 9.15 น.
รศ. พญ. เนสินี ไชยเอีย เรื่อง ' วัฒนธรรมความปลอดภัย'
พิธีกรแนะนำวิทยากร
ท่านวิทยากร เริ่มนำเข้าสู่เนื้อหา โดยจะเน้นผู้ปฏิบัติ แต่สุดท้ายเพื่อ Patient safety.
การประเมินที่เข้มข้น และเน้นสิ่งแวดล้อมความปลอดภัยด้วย
วัฒนธรรม ค่านิยมองค์กร เช่น การพร้อมรับการประเมิน
บูรณาการและผสมผสานให้อยู่ในองค์กร
องค์ประกอบของ safety culture เช่น วัฒนธรรมOne line -Q วัฒนธรรมการขับรถ
การเป็นตัวอย่างต้องเริ่มที่เรา
มีการรายงาน มีการสอบสวนอุบัติเหตุ
กลุ่มผู้นำความปลอดภัย เป็นของทุกคน ตั้งแต่ ผู้อำนวยการถึงผู้ปฏิบัติ
ทำให้เกิด Learning organization
5 ส Good house keeping ยังใช้ได้ บางครั้งเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ
จุดอ่อนของคนไทยคือการไม่ document
ของอเมริกา ทุกอย่างต้อง document(มี Protocol)
เกิด incident ไม่ตำหนิกัน นำมาพูดคุย ยอมรับการเปลี่ยนแปลง
ความปลอดภัยต้องอยู่ในเนื้องานทุกวัน
นี่เป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
เรื่องอาชีวอนามัย หัวหน้าคือ KSF (Key success factor)
ค่านิยมองค์กร Health and Safety
สร้างจิตสำนึกให้เกิดความปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่นเสมอ
สร้างให้เกิดเป็นวัฒนธรรมตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งดี
พื้นลื่นรีบเช็ด เลือดกระเด็นทำอย่างไร
หรือของเล่นเด็กทำความสะอาดด้วยอะไร หัวหน้าต้อง actual ลงไปดูว่าเขาปฏิบัติหน้างานอย่างไร
หรือทำไมเข็มตำบ่อยๆ เกิดจากอะไร ทำไมเกิดการติดเชื้อซ้ำ เป็นต้น
จริงๆ actual ทำอย่างไร
จะเกิดวัฒนธรรมได้
ทพ. นฤชิต ทองรุ่งเรืองชัย
ทำไมผมได้มาทำงานในส่วนนี้
ทำงานใหม่ๆ มาอยู่โนนสังข์
มาเดือนแรกเป็นกรรมการ เดือนที่ 2 ได้เป็นประธาน
ผมเริ่มจาก 5ส ทำได้ง่าย เห็นได้ชัด
โนนสังข์ตัดกับอุบลรัตน์
45 ไร่ 341 ตารางวา บุคลากร 153 คน แพทย์ 4 คนน จุดเด่นขององค์กร เราต้องมองรอบด้าน
งานเด่นลงชุมชน primary care
ส่งเสริมสุขภาพ เยียวยา สอดคล้องกับ HA
นโยบายของเราปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง การทำงานต้องเชื่อมโยงจุดเน้นให้เกิดความปลอดภัย
ความปลอดภัย ผู้ป่วยจะได้อะไรต่อที่เหนือจากนี้
การรับความเสี่ยงต่างๆ เชิงรุก หลายช่องทาง พยายามผลักดันให้มาจากหน่วยงานต่างๆ
ทำอย่างไรต่อไปให้เป็น งานประจำที่เป็นวัฒนธรรม
เริ่มต้น 5สอย่างจริงจังทั้งเครือข่าย รพสต จัดบอร์ด ประกวด มอบรางวัล
Big cleaning day 1 ครั้งต่อปี
ผ่าน 5ส ทั้งเครือข่ายใช้เวลา 1 ปี
ทำอย่างไรเราจะจัดการความเสี่ยง รายงานความเสี่ยง ได้สัมมนา ได้ดูงาน รพ ต่างๆ เห็นข้อดี และต้องทำเป็นทีม จึงจะเป็น KSF
มีภาพบรรยากาศของการเดินราวน์
ช่วงแรกๆ จะเป็น 5 ส และมีการสรุปความเสี่ยงตามระบบ
ทำให้ปัญหาลดน้อยลงเยอะ
แต่พบว่ายังไม่บูรณาการทั้ง รพ.
Classify ความเสี่ยงใน รพ. ด้วยมาตรฐานเดียวกัน
ศูนย์คุณภาพจะมาประเมินและจัดอันดับความเสี่ยงอีกที
เช่น 80 เรื่อง ได้รับการแก้ไข 60 เรื่อง
เพราะเราเป็น รพ. ยากจนอันไหนจัดการได้ก่อนเราทำ เช่น ฝ้าหล่นใส่ผู้ป่วยจากปลวก
สอดแทรกสื่อสารไปในกิจกรรมที่สนุกสนานเพื่อให้เกิดจิตสำนึกที่ดีและรับผิดชอบ
เรามีแหล่งปลูกสมุนไพรเอง ต้องดูดีไว้ก่อนทั้งภายในและภายนอก
และสอดแทรกให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้วย ลานจอดรถ อโรมา ปรับปรุงสถานที่ ระบบปรับอากาศ ห้องพิเศษ ฯลฯ
ปรับปรุงห้อง Lab, ห้องน้ำผู้พิการ
One stop service บริการเบ็ดเสร็จในจุดเดียว
เรามีการ CQI เพื่อพัฒนาระบบงาน ระบบการบริการคล่องตัวมีคุณภาพมากขึ้น
ด้านหน้า รพ. ทำให้ดูดีเข้าไว้เพื่อความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ
เราให้ความสำคัญกับงานอาชีวอนามัย
ครวจสุขภาพกลุ่มเสี่ยง ตรวจสอบสุขภาพบุคลากรปีละ 1 ครั้ง
ผ้าป่าจัดหาเครื่องฟอกไต 2 เครื่อง
พัฒนาให้ยั่งยืน ระบบตัวชี้วัดต่างๆ
เราได้รางวัลระดับประเทศหลายรางวัล เช่น เรื่องความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมดีเด่น 2 ปีซ้อน
จบการบรรยาย 10.45 น.
Kesanee, updated July 27,2012..1:45pm
ไม่มีความเห็น