ประโยชน์ของการล้างสารพิษออกจากร่างกาย


แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป ลดการสะสมสารพิษเหล่านี้

ประโยชน์ของการล้างสารพิษออกจากร่างกาย

1. การล้างสารพิษช่วยทำความสะอาดลำไส้ อุจจาระ แบคทีเรียที่เป็นโทษต่อร่างกาย และสารพิษต่างๆจะถูกชะล้างออกไป ลดการสะสมสารพิษเหล่านี้ เมื่อสารพิษเหล่านี้ถูกกำจัดออกไปลำไส้จะ สามารถทำงานได้ตามปกติ

2. การล้างสารพิษเป็นการบริหารกล้ามเนื้อลำไส้ ของเสียที่ตกค้างมีผลทำให้ลำไส้อ่อน แอลงและทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ การล้างลำไส้จึงเป็นการช่วยส่งเสริม กล้ามเนื้อลำไส้ให้ทำงานได้มากขึ้น โดยปกติลำไส้มีหน้าที่กำจัดของเสียก็อาจเป็นไปโดยไม่สมบูรณ์ กล้ามเนื้อลำไส้ที่แข็งแรงและทำงานได้ อย่างเป็นจังหวะจะช่วยทำให้การผลักดันของเสีย เช่น กากอาหารและ อุจจาระออกจากลำไส้ได้เร็วขึ้น และไม่เกิดสารตกค้างจนกลายเป็นพิษ

3. การล้างสารพิษทำให้ลำไส้มีขนาดเป็นปกติ เมื่อลำไส้ทำงานอย่างผิดปกติ จะส่งผลให้โครงสร้างและขนาดลำไส้เปลี่ยนไป ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา การสวนล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนตัว ช่วยลด อาการบวมหรือโป่งพองของลำไส้ อันเนื่องมาจากการที่มีของเสียอุดตัน บริเวณนั้น ทำให้ลำไส้มีรูปร่างปกติตามธรรมชาติ ซึ่งการรักษาทางยา ทานอาหารบางอย่างเฉพาะ บางรายท้องเดินระยะหนึ่งแล้วจะมีอาการท้องผูก อุจจาระแข็ง หรือการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อาจทำให้ลำไส้กลับคืนสู่รูปทรงปกติได้เพียง ระยะสั้นเท่านั้น

4. การล้างสารพิษกระตุ้นจุดตอบสนองของระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งอวัยวะทุก ส่วนจะมีการทำงานเชื่อมต่อกับลำไส้ โดยจุดตอบสนอง การล้างลำไส้เป็นการช่วยกระตุ้นจุดที่ว่านี้ซึ่งจะส่งผลดีต่อร่างกาย โดยรวม เช่น ตับ ถุงน้ำดี ตับอ่อน ไต ต่อมน้ำเหลืองและการหมุนเวียน ของเลือด เป็นต้น

5. การล้างสารพิษทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำ 60-70% การสวนล้างลำไส้ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือแร่ ร่างกายโดยรวมจะ สามารถดูดซึมน้ำเหล่านั้นไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เพื่อให้เซลล์เหล่านั้น ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับละลายและเจือจาง เมือกที่สะสมอยู่ในผนังลำไส้ให้ขับออกได้สะดวกขึ้น

 วิธีล้างสารพิษในตับ
อย่างที่เพื่อนๆ ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ตับเป็นที่กรองสารพิษของร่างกาย ลองคิดดูซิว่า ตับทำงานมานานเป็นเวลาเท่าไรแล้ว บ้างก็ 20 ปี บ้างก็ 30 ปี ถ้านานหน่อยก็ 70 ถึง 80 ปี วันนี้เราลองมาช่วยลดภาระของตับกันดีมั๊ยครับ

1. งดใช้เครื่องสำอางค์ที่มีสารเคมีกับใบหน้า งดใช้แชมพูที่มีสารเคมีกับหนังศีรษะ เพราะสารเคมีเหล่านี้จะเข้าไปถึงตับโดยตรง
2. งดทานผงชูรส หรือ โมโนโซเดียมกลูตาเมท ซึ่งจะตกค้างในตับ ทำร้ายตับโดยตรง และทำให้เลือดหนืด
3. ไม่ทานอาหารระหว่างเวลา ตี1 ถึง ตี3 เพราะเป็นเวลาที่ตับต้องขับสารพิษ ถ้ากินอาหารเวลานี้ ตับจะไม่ได้ทำหน้าที่หลัก คือ การขับสารพิษออกจากร่างกาย
4. ทานขมิ้นชันแคปซูลก่อนนอน (ไม่จำกัดจำนวน)
5. ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร ต่อ วัน

 20 อาหารล้างสารพิษ
              คนโบราณและนักโภชนาการมักกล่าวว่า อาหารเป็นยาที่วิเศษที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่ใช่ว่าต้องเป็น อาหารที่มีราคาแพงอย่างเป๋าฮื้อ หูฉลาม รังนก หรือของหายากอย่างดีหมีเท่านั้น ถึงจะให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายได้ เพราะจากการศึกษาแล้วพบว่าอาหารที่เราหาได้ตามท้องตลาดในชีวิตประจำวันก็มีประโยชน์ในตัวไม่ใช่น้อย ที่สำคัญอาหารเหล่านี้ยังช่วยล้างพิษให้แก่อวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น ตับ ลำไส้ ไต ผิวหนัง ช่วยป้องกันการจับตัวของสารพิษ รวมถึงช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งสารพิษต่างๆที่สะสมอยู่ในร่างกายอาจมาจากควันพิษในอากาศ สารเจือปนในอาหาร เช่น สีผสมอาหาร สารกันเสีย ยาฆ่าแมลง ปรุงรส เป็นต้น

 "ผลไม้ที่สามารถล้างสารพิษ"การรับประทานอาหารบางครั้งก็มีทั้งประโยชน์และโทษ แล้วถ้าเกิดร่างกายได้รับสารพิษ ควรจะทำอย่างไร วันนี้เกร็ดความรู้มีผลไม้ที่สามารถล้างสารพิษออกจากร่างกายมาฝากกัน... ครับ

แอปเปิ้ล : เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย สารเปกตินในแอปเปิ้ลจะช่วยนำสารพิษไปกำจัดทิ้ง ทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แถมยังมีเส้นใยมากที่จะทำหน้าที่ทำความสะอาดลำไส้ช่วยให้ตับและระบบย่อย อาหารทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิตามินและเกลือแร่ และยังเหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วย

องุ่น : เป็นสารฟอกล้างสำหรับผิวหนัง, ตับ, ลำไส้และไตโดยเฉพาะ เนื่องจากองุ่นมีคุณสมบัติรักษาน้ำมูกที่จะออกมาจากเยื่อเมือกต่างๆ ในร่างกาย องุ่นยังให้พลังงานสูงและนำไปใช้ได้ง่าย เกลือแร่อุดม ดังนั้นจึงช่วยบำรุงเลือดและซ่อมสร้างเซลล์ในร่างกาย
สับปะรด : มีเอนไซม์โปรเมลินสูง เอนไซม์ตัวนี้จะช่วยการทำงานของกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะ และช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้น แถมยังช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร ช่วยในการซ่อมแซมส่วนต่างๆ ที่สึกหรอ ช่วยการทำงานของต่อมไร้ท่อและช่วยกำจัดน้ำมูก

มะละกอ มะม่วง : มีลักษณะที่คล้ายกันแต่มะม่วงจะมีสารสำคัญน้อยกว่ามะละกอเล็กน้อย ผลไม้ทั้งสองชนิดมีเอนไซม์ชื่อปาเปน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ที่จะช่วยทำให้ของเสียที่เป็นโปรตีนแตกตัวได้เร็วเช่นเดียวกับโปรเมลิน ทั้งมะละกอและมะม่วงดีสำหรับทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร
แตงโม : จะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยฟอกล้างร่างกายได้เป็นอย่างดี ใช้รักษาแผลในกระเพาะ ลดความดันเลือดสูง ทำให้สบายท้อง น้ำคั้นจากเปลือกของแตงโมและเมล็ด หากดื่มก่อนกินเนื้อแตงโมในมื้ออาหารสักครึ่งชั่วโมง จะทำให้ได้ประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเปลือกของแตงโมอุดมด้วยคลอโรฟิลล์และเมล็ดอุดมด้วยวิตามิน

 ผลไม้ล้างสารพิษ
         การรับประทานอาหารบางครั้งก็มีทั้งประโยชน์และโทษแล้วถ้าเกิดร่างกายได้รับสารพิษ ควรจะทำอย่างไรวันนี้เกร็ดความรู้มีผลไม้ที่สามารถล้างสารพิษออกจากร่างกายมาฝากกัน...

แอปเปิ้ล : เป็นผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย สารเปกตินในแอปเปิ้ลจะช่วยนำสารพิษไปกำจัดทิ้งทั้งยังป้องกันไม่ให้โปรตีนในลำไส้เกิดการบูดเน่า แถมยังมีเส้นใยมากที่จะทำหน้าที่ทำความสะอาดลำไส้ช่วยให้ตับและระบบย่อย อาหารทำงานได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีวิตามินและเกลือแร่ และยังเหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนักอีกด้วย

 ล้างสารพิษใน 1 วัน
        หัวใจสำคัญของการล้างสารพิษใน 1 วันทำได้โดย คุณๆ ทั้งหลายจะต้องกินให้ได้ แคลอรี่แค่ 800 กิโลแคลอรี่เท่านั้น เพื่อให้ระบบย่อยและตับได้พัก ต่อจากนั้นตับจะได้ขับสารพิษออกมาได้ และอาหารที่จะรับประทานในวันนั้นจะต้องไม่มีเนื้อสัตว์เข้ามาปะปนอย่างเด็ด ขาด เมื่อเข้าใจกันดีแล้ว ต่อไปเรามาเข้าสู่กระบวนการล้างสารพิษกันเลย
1. เลือกผลไม้ที่คุณชอบมา 1 อย่าง เช่น มะละกอ ฝรั่ง แคนตาลูป แอปเปิ้ล ฯลฯ ยกเว้นอยู่ 2 อย่าง คือ ทุเรียนกับสับปะรด เพราะทุเรียนมีแคลอรี่สูงเกินไปทำให้ย่อยยาก เมื่อรับประทานแล้วจะเป็นภาระกับระบบย่อยอาหาร ส่วนสับปะรดก็มีกรดสูงมาก ถ้ากินบ่อยๆ ก็จะทำให้ท้องอืดได้

2. ให้รับประทานแต่ผลไม้ชนิดเดียวตลอดทั้งวัน โดยอาจจะปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น ถ้าเลือกมะละกอก็อาจจะทานเป็นเนื้อมะละกอสุก หรือส้มตำที่ใส่เฉพาะมะละกอกับน้ำปลามะนาวเท่านั้น ไม่ใส่เครื่องประกอบอื่นอย่างเด็ดขาด

3. พอถึงมื้อกลางวันก็ให้รับประทานมะละกออีก แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นน้ำมะละกอปั่นใส่น้ำตาลน้อยที่สุดหรือน้ำมะละกอคั้นสดก็ได้

4. มื้อเย็นก็ยังต้องรับประทานมะละกออีกครั้งเป็นมื้อสุดท้ายของวัน โดยอาจจะบีบมะนาวลงไปด้วยนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป

5. วันรุ่งขึ้นก่อนที่จะเริ่มมื้อเช้า ก็ให้ดื่มน้ำมะนาวผสมน้ำอุ่นประมาณ 2 ขวด เพราะเมื่อเราล้างสารพิษ ตับจะขับสารพิษให้มารวมกันอยู่ที่ลำไส้เล็กส่วนต้น จึงต้องดื่มน้ำอุ่นผสมน้ำมะนาวเข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว เพื่อให้สารพิษถูกดันออกมากับอุจจาระ หลังจากที่ดื่มน้ำอุ่นแล้วคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทันที แต่ถ้าไม่มีการดื่มน้ำกระตุ้นและไปรับประทานอาหารเช้าเลย สารพิษก็จะถูกดูดกลับเข้าไปในกระแสเลือดเหมือนเดิม ทำให้การอดอาหารล้างพิษของเราเป็นอันต้องเสียเปล่าไป

                       เห็นหรือยังครับท่านว่าร่างกายของคนเราจำเป็นที่จะต้องหมั่นดูแล และรับประทานอาหารให้ครบหมู่ พร้อมกับการดื่มน้ำให้มาก ๆ และออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็จะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงขึ้น หรือถ้าเราต้องการสารอาหารมาบำรุงร่างกายผมขอแนะนำให้ใช้ ผลิตภัณฑ์ bios life ซึ่งคุณภาพเห็นผลได้ภายใน 30 วัน  ไม่มีสารเจือปน และไม่มีเคมีปนเปื้อน ผลิตจากสมุนไพรล้วน ๆ ครับ หรือสนใจติดต่อที่ผม อ.สุพจน์ กล้าหาญ         โทร. 087-9349690

หมายเลขบันทึก: 495747เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2012 16:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท