ก่อนที่จะพูดถึงการศึกษาไทยในปี2020 ผู้เขียนขอย้อนจากอดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อจะแสดงความจริงที่เกิดขึ้นและเพื่อให้เกิดความแตกต่าง นำพาไปสู่คำถาม "ทำไมเราถึงต้องเปลี่ยนวิธีการเรียน?"
ขอเริ่มต้นดังนี้----จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า E=mc^2 มีที่มาจากไหนและมีความหมายลึกซึ้งเพียงใด
จะมีสักกี่คนที่สามารถนำทฤษฏีการคัดเลือกโดยธรรมชาติ มาอธิบายความเป็นมาของมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมได้ ใช่แล้วครับ เนื้อหาที่ว่าเราเข้าใจแล้ว เป็นเพียงแค่การท่องมา เราไม่ได้คิดตาม เราไม่คงลงลึกไปกว่าเนื้อหาในบทเรียน ตำราเรียนของเราไม่เคยเชิญชวนให้คิดต่อยอด มีเพียงข้อเท็จจริงที่สรุปเรื่องราวที่มีประวัติมายาวนานและละเอียดอ่อนมองได้หลายแง่มุมลงในกระดาษA4สั้นๆ ที่เราเรียนกันนั้น เป็นเพียงการท่องจำ เราเพียงแต่สัมผัส เราไม่สามารถนำความรู้(ที่ท่องมา)ไปใช้ได้ในชีวิตจริง เพราะเราขาดการคิดและความคิดสร้างสรรค์ เราแยกฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ออกจากกัน ทั้งๆที่ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงเพราะมาจากการศึกษาธรรมชาติเหมือนกัน เพียงแต่มองกันคนละมุม เราจึงสูญเสียภาพรวมของธรรมชาติอันน่าพิศวงไป
การศึกษาไทยจึงต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง ถ้าเย็นวันนี้ ผู้เขียนกลับบ้านไปขัดถ้วยชากาแฟ เกิดมีจินนี่ผู้วิเศษปรากฏณ์กายออกมา ให้พรเพียงข้อเดียว ผู้เขียนจะขอเลือกให้คนไทย "คิดเป็น"
สำคัญมากครับ "ความคิด" คนที่คิดเป็นก็จะพัฒนาตัวเองได้ในทุกส่วนที่ด้อย คนที่คิดเป็นอยู่ที่ไหนก็ได้เพราะปรับตัวและเอาตัวรอดได้เสมอ
ผู้เขียนเคยรับรู้มาว่า ประเทศอิสราเอลจะไม่มีการสอนเด็กๆในเชิงทฤษฏี
เขาจะให้เด็กๆลงไปเล่นกับดินกับทรายและของเล่นทั้งที่ชำรุดและไม่ชำรุด เด็กๆเหล่านี้จะเป็นคนคิดและกำหนดเองว่า ของเล่นเหล่านั้นจะสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง พวกเขาจะประกอบพวกมันเข้าด้วยกันใหม่ตามแต่จินตนาการของแต่ละคน จะเห็นได้ว่าพวกเขาไม่ได้เน้นสอนทฤษฏี แต่ทำไมบุคคลากรของประเทศนี้กลับเป็นที่ยอมรับในทุกๆด้าน ใช่แล้วครับ เพราะพวกเขาฝึกให้คิดตั้งแต่เด็ก ความสามารถด้านอื่นๆจึงถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การศึกษาไทยในอนาคต จะต้องให้ผู้เรียนคิดเป็นหลัก จะต้องไม่มีกรอบหรือถ้ามีก็มีให้น้อยที่สุด เราต้องผลักดันให้ผู้เรียนคิดทุกอย่างขึ้นมาเอง ครูผู้สอนทำหน้าที่เพียงแค่ ชักจูงให้ผู้เรียนคิดในเรื่องเขาเหล่านั้นสนใจ ดังคำของ Socrates ที่ว่า I cannot teach anybody anything, I can only make them think.
-----------------------------------------------------------------------
สิ่งที่เรียนรู้(What)
ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บางสิ่งอาจจะถูกต้องเพียงแค่ในชั่วระยะเวลาใดเวลาหนึ่งเท่านั้น เราต้องสังเกตและปรับไปที่ควรจะเป็น เหมือนเช่นกับการศึกษา เมื่อยุคใหม่มาถึง วิธีการเรียนรู้ที่คิดว่าดีแล้ว อาจจะต้องได้รับการแก้ไข
วิธีการเรียนรู้(How)
ความคิดส่วนใหญ่ของผม ได้รับอิทธิพลมาจาก นพ.ชัชพล กิตติธาดา และคุณวินทร์ เลียววาริณ เป็นส่วนใหญ่ จากหนังสือที่ทั้งสองท่านเขียน ทำให้ผมเริ่มตะหนักได้ว่า การเรียนไปตามแบบแผนของกระทรวง ไม่ได้พัฒนาความคิดของผมเลย จากนั้น ผมจึงหาหนังสือของเมืองนอกเล่มต่างๆโดยเริ่มจากเรื่องจักรวาลเพราะผมสนใจเป็นพิเศษ จากหนังสือวิทยาศาสตร์เพียวๆ ก็เริ่มสนใจด้านมนุษย์และประวัติศาสตร์ ซึ่งในหนังสือประวัติศาสตร์ก็มีบทเรียนสอนที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆช่วยสอนเรา เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำอย่างไม่ควรจะเป็น ดังคำที่ว่า "One who doesn't know history is condemned to repeat it." หนังสือและการฟังจากผู้รู้จากหลายๆสาขาช่วยเสริมแง่มุมใหม่ๆ เพื่อมาปรับใช้เข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี
ผลการเรียน(Outcome)
จากการได้รับแง่มุมและความคิดต่างๆมามาก ทำให้ผมสามารถแยกแยะสิ่งต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ผมตีความสิ่งต่างๆไม่ใช่แค่ดำกับขาว ทุกอย่างล้วนมีมิติและมีเหตุผลในตัวมันเอง และทำให้ผมรู้ว่า จะเป็นการดีกว่า ถ้าเราจะไม่ใส่ใจในบางสิ่ง บางสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ เราไม่จำเป็นที่จะต้องตัดสินทุกสิ่งว่าถูกหรือผิด ดีหรือชั่ว เพียงแค่วางเฉยและปล่อยมันไป
ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์(Reflection)
การจะได้เจอหนังสือดีๆในรูปแบบภาษาไทยนั้นหาได้ยากมาก หนังสือภาษาไทยมีความหลากหลายน้อยมาก ทำให้เรารู้ตัวว่า เมื่อมีความรู้ในระดับที่จะเขียนเผยแพร่ได้แล้ว ก็ตั้งใจว่าจะนำออกสู่ตลาด เพื่อให้เข้าถึงมือของนักเรียนได้ง่ายขึ้น
ความคิด คือ สิ่งที่ทำให้เกิดความรู้
เป็นอีกหนึ่งมุมมองดีๆในสังคมไทยปัจจุบัน
เป็นความคิดที่ถือว่าดี
เยี่ยมชมบันทึกและเป็นกำลังใจคะ
คนเราล้วนแล้วแต่คิดเป็นคะ
หากแต่ความคิดนั้น คิดดี คิดในแง่มุมไหน
และลงมือทำอย่างไรมากกว่าคะ
เน้นผู้เรียนเป็นหลัก ให้คิดให้ลงมือทำ
และใช้เทคโนโลยีที่มีอย่างเต็มประสิทธิภาพ
ในทางที่ถูกที่ควร และตั้งอยู่บนความมีสติในทุกการกระทำคะ
แนวคิดในการแก้ปัญหา และความตั้งใจเป็นสิ่งสำคัญมากในการจะประสบความสำเร็จ : ))
ดีๆๆ
จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า E=mc2 มีที่มาจากไหนและมีความหมายลึกซึ้งเพียงใด >>>>จนทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าต้องเรียนไปทำอะไร??
คนไม่เคยหยุดคิดเลย ทำให้เกิดความรู้ใหม่ๆ ดีดีดี