ข้าพเจ้าได้อ่านบันทึก เรื่อง Positive Thinking ของคุณโสภณ ดำรงสุกิจ แล้วจะเขียนบันทึกในมุมมองของเรื่องการฝึกคิดเชิงบวกได้ดีทีเดียว ซึ่งการคิดเชิงบวกนั้นจะก่อให้เกิดพลังแห่งความคิดและจิตใจขึ้น โดยที่ทุกๆคนก็พอจะรู้กันว่าเป็นพลังอันมหัศจรรย์ที่ทำให้เราทำในสิ่งที่เราไม่คิดว่าจะทำได้ หรือสิ่งที่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้นั้นให้เป็นไปได้
การฝึกคิดเชิงบวกนี้ก็เป็นวิธีการพัฒนาตนเองอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เรามีความสามารถควบคุมความคิดและจิตใจของเราให้คิดเชิงบวกได้มากขึ้น คนที่สามารถควบคุมความคิดและจิตใจของตนเองได้นั้น ก็จะเป็นคนที่ทำอะไรก็จะสำเร็จ แต่คนส่วนมากไม่สามารถควบคุมได้เพราะว่ายังมีความทุกข์จากความคิด ที่ทุกข์ก็เพราะพยายามจะห้ามไม่ให้คิดบ้าง วิ่งหนีความคิดบ้าง โดยไม่เข้าใจว่าความคิดนั้นใครก็ห้ามไม่ได้ โดยความรู้สึกนึกคิดทั้งหลายที่เรารู้สึกนั้น เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ เกลียด อยากได้ และอยากเป็น ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราคิดและปรุงแต่งขึ้นมาเอง มันเริ่มต้นจากความคิดของเรา จากจิตใจของเราที่เราปล่อยให้มันควบคุมเรา แทนที่เราจะควบคุมมัน
ดังนั้นเราไม่ควรปล่อยให้ความคิดมาควบคุมเรา เราควรจะแค่รู้ ( ไม่เอาทั้งรู้และไม่รู้...นั่นแหล่ะ “แค่รู้”) กับความคิดนั้น เพราะคนที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ก็ต้องควบคุมความคิดของตนเองให้ได้ก่อนเสมอ
ฝากไว้ให้คิด
คิดหลัง คิดหน้า คิดดี คิดบ้า
คิดเสีย ให้พอ ตกลง ปลงใจ
คิดไม่ ย่อท้อ คิดเพียร ทำต่อ
พอรู้...หยุดคิด
พระมหาวิเชียร ชินวํโส
http://www.chinawangso.net/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=3
คิดบวก ==> ดีเสมอ ต่อตนเอง ต่อคนรอบข้าง ได้พลังมากมหาสาร : ฝนตก รถติด ==>ดี เพาระทำให้อากาศเย็นสบาย ได้บรรยากาศอีกแบบ ติดอยู่ในรถ ดีกว่า เดินตากฝน คิดเชิงบวก ==>มีคนเขียนหนังสือไว้มากมาย ==>อยู่ที่คน นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันนะคะ
ขอบคุณ บทความดีดีนี้นะคะ
ขอบคุณคุณ Somsri มากนะค่ะที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกนี้ และได้ยกตัวอย่าง "คิดบวก" ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามาก ถ้าทุกคนคิดได้อย่างนี้โลกของเราก็คงจะน่าอยู่มากขึ้นว่าไหมค่ะ
ขอบคุณ อ.นุ มากเลยนะค่ะที่ได้เข้ามามอบดอกไม้ให้กำลังใจ