วิชญธรรม
ผศ. ดร. สิริวิชญ์ เตชะเจษฎารังษี

แผ่เมตตา


การแผ่เมตตาให้กับใคร ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นใครก็ตาม ผลบุญที่เราส่งไปให้นั้นถึงเขาแน่นอน

 

แผ่เมตตาวันละหลายๆ รอบ นั้นเป็นอุบายอย่างหนึ่งที่ช่วยลดความพยาบาทที่มีอยู่ในตนลง เวลาเราคิดโกรธแค้นใครๆ แผ่เมตตาให้เขาแทนเถอะครับ ผลของจิตใจที่เราแผ่เมตตาไปให้เขามันจะถึงเขาในที่สุด แล้วความรู้สึกร้อนในใจจะค่อยๆบรรเทาลง

ผมได้มีโอกาสพบกับอาจารย์หมอ อมรา มลิลา (ทุกครั้งอาจารย์จะไม่ลืมที่จะหันมาถามผมว่า “วันนี้มีอะไรจะคุย หรือถามมั้ยคะ ?” อาจารย์ท่านรู้ว่าผมเป็นคนที่มีคำถามเยอะมากในใจ แต่ผมไม่ค่อยจะได้นั่งถามปัญหามากนักเพราะเราก็เกรงใจท่านที่ต้องมานั่งตอบคำถามผม แทนที่ผมจะหาคำตอบนั้นด้วยตัวเองก่อน

ในบทสนทนาครั้งหนึ่ง (จำไม่ได้แล้วว่าครั้งไหน  หุ หุ โรคเก่าผม :))  เป็นอีกมุมมองหนึ่งขอการแผ่เมตตา

ผมบ่นไปว่า          “ช่วงนี้ผม แผ่เมตตาเพื่อระงับความคิดที่จะไปจองเวร จองกรรม กับคนคนหนึ่ง มากเลยครับ วันหนึ่งไม่รู้กี่ครั้ง พอความคิดชั่วร้ายเราแล่นเข้ามา.....ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้? ทำไมเขาเป็นคนอย่างงี้? ในใจเริ่มต่อว่าเขาไปต่างๆนานา.......หยุด!!!!!!!  (หยุดให้ทันความคิดไม่ดีนี้ให้ทัน บางครั้ง (รู้สึกว่าช่วงนี้จะบ่อยครั้ง) ผมก็หลุดเหมือนกัน) แล้วแผ่เมตตาให้เขาแทน......”

คุณแม่ผม (ไม่รู้ว่ามาจากไหน) ก็ถามขึ้นมาว่า                  “ แล้วผลบุญที่เราแผ่เมตตาเราจะไปถึงเขาหรือ?”

อาจารย์ก็ตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ (ตามแบบฉบับของอาจารย์นั่นแหละ)        “ ถึงสิคะ จิตของคนเรามัน เร็วมากเลยนะคะ เพียงแค่นึกจิตของเราก็ไปถึง เขาคนนั้นที่อยู่ต่างจังหวัด หรือไกลถึงต่างประเทศได้แล้ว ”....

” .....การแผ่เมตตาให้กับใคร ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นใครก็ตาม ผลบุญที่เราส่งไปให้นั้นถึงเขาแน่นอน ส่งไปมากก็ถึงมาก มองที่ตัวเรา จิตใจเราก็เป็นสุขที่ได้ทำบุญ ละความพยาบาทลง  หรือถ้ามองที่ตัวเขา เขาจะรับรู้ถึงผลการแผ่เมตตาของเรานั่น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เปรียบเสมือนกับเราส่งบุญ ส่งกุศลให้เขาแล้ว ให้เต็มโอ่งน้ำรออยู่ปากถ้ำ ถ้าวันหนึ่งเขาออกมาจากถ้ำ เขาก็จะได้รับผลบุญที่รออยู่อย่างแน่นอน ผลบุญที่เราให้ไปไม่หายไปไหน .......” 

“ สะสมเป็นโอ่งๆรออยู่หน้าปากถ้ำ  ” ประโยคนี้ผมคิดเองในใจ ฮิๆ

“ ....ที่สำคัญเราได้รักษาใจเราให้ดีขึ้น เมื่อไหร่ก็ตามที่จิตของเรามีพลังขึ้น หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่เขารับรู้ถึงผลบุญที่เราส่งไปได้ จิตใจของเขาก็จะเป็นสุข เขาก็จะเข้าใจว่าเราให้อะไรไป เขาก็จะเข้าใจว่าจิตใจเราเป็นอย่างไร .........”  อาจารย์ทิ้งท้าย (จำคำอาจารย์พูดจริงๆ มาถ่ายทอดได้ไม่หมดนะครับ ต้องขออภัยครับ)

ผมชอบพูดกับตัวเอง (ตามคำสอนของครูบาอาจารย์ ) ว่า ทุกเรื่องมันเป็น “ อนิจจัง “ มัน “ไม่เทียง” สิ่งที่เราสรุปว่าวันนี้ คนคนนี้เป็นอย่างงี้ นั้นมันต้องพูดต่อว่า มัน “ไม่เทียง”  มัน “ไม่แน่” พรุ่งนี้เขาอาจอยากออกมาจากถ้ำ แล้วเห็นสัจธรรมก็เป็นได้

แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องของ  “กรรม”  เราทุกคนมี “กรรม”  ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทแผ่เมตตาว่า

“ สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย “  ทุกคำเมื่อศึกษาดูดีๆแล้วมีความหมายลึกซึ้งมากๆครับ

ประกอบแต่ ”กรรมดี” ในตอนนี้ เมื่อทำ “เหตุ” ในปัจจุบันให้ดี “ผล” ในอนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่สำคัญ ไม่ต้องไปคิดถึง (คำสอน พระอาจารย์ คเวสโก)    

ปล. ตอนแรกผมคิดว่าผมจะประชดสังคมคนไทย ในความเห็นสุดท้ายของผม ว่า อาจจะไม่มาเขียนบันทึกใดๆอีก ขออยู่ในกลุ่ม 40 เปอร์เซ็นต์ จะดีกว่า แต่พอมาอ่านบันทึกคุณชลัญทำให้ต้อง มาแสดงความคิดเห็นในฐานะ  พ่อ   ที่พยายามทำหน้าที่ที่ยังเหลือในชีวิตนี้ให้ดีที่สุด  ผมคงต้องตอบแทน คุณพ่อในหลายๆมุมมอง

 อ้างถึง:

เลขที่บันทึก: 494101

เลขที่บันทึก: 492938

หมายเลขบันทึก: 494176เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2012 16:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 ตุลาคม 2013 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ในฐานะที่ถูกพาดพิง ขอบอกว่ามาเขียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้มันทำให้เราต่อยอดความคิด ในบางครั้งที่ชลัญตัดสินใจอะไรไม่ได้ นั้น ความเห็นของเพื่อนๆใน GTK ช่วยได้มากค่ะ ถือว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน ขอบคุณนะค่ะสำหรับความเห็นดีๆที่ให้ตลอด

ผมเป็นคนที่มีกัลยาณมิตรไม่เยอะ (แต่ที่มีผมว่ามีคุณภาพ) คนไหนพอพาดพิงได้ก็ขอพาดพิงไปก่อนนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

แผ่เมตตา ==> นำมาซึ่ง "ความสุขใจ" นะคะ

ขอบคุณ สำหรับบทความดีดีนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะ

แผ่เมตตาออกไป คนแรกที่ได้คือเราคนแผ่เมตตาค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท