..๑ กรกฏาคม ๒๕๕๕..
...pax vobiscum...
(๑๕)
ผมชอบบันทึกนี้มากๆ เลยครับ ในขณะที่ข่าวจากสามจังหวัดออกทีวีเขย่าขวัญคนไทยทั้งประเทศอยู่บ่อยๆ เช่นนี้ บันทึกนี้จะช่วยให้คนไทยเข้าใจและรู้จักท้องถิ่นที่เขาได้ยินในข่าวมากขึ้นครับ อยากให้มีคนมาอ่านเยอะๆ ครับ
ขอบคุณคะ อ.ธวัชชัย..หากมีโอกาส คงได้เข้าไปเยี่ยมเยือนพื้นที่ส่วนนี้บ้าง...จะเห็นได้ว่าที่นี่..วิถีต่างๆยังคงมีให้เห็นได้สัมผัสได้เช่นกับชนบทที่อื่นๆในเมืองไทย :-))
น้องแอ๊ดค่ะ ..เ้ส้นทางหน่ะดูแล้วไม่ไกลมากค่ะ โดยทั่วไปถ้าขับตามแผนที่ก็ไม่น่าจะหายากนะค่ะ เพียงแต่ใช้แผนที่ ที่ทำขึ้นเอง เพื่องานแต่งโดยเฉพาะ เราก็เลยเป็นผู้ลองขับตามแผนที่ ผลที่ไ้ด้เลยเป็นอย่างที่เล่ามา แต่ก็ได้เตรี่ยมตัวไ้ว้ตั้งแต่ต้นแล้วหล่ะค่ะ คิดกันไว้ว่าไปเที่ยวกัน เจออะไรก็สนุกกับสิ่งที่เห็นและเป็นค่ะ .. น้องแอ๊ด..หากจัดสรรเวลาได้ หาโอกาสมาเที่ยวพื้นที่แถบนี้บ้างนะค่ะ ...
สวัสดีค่ะ ถ้าไม่ได้อ่านบันทึกนี้ ก็คงนึกภาพภาคใต้ชายแดนของเราไม่ออก เพราะคิดแต่ว่าคงกรุ่นไปด้วยความน่ากลัว ขอบคุณมากค่ะคุณครู
คุณตันติราพันธ์ค่ะ..ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายค่ะ ... ภาพเหตุการณ์ชายแดนใ้ต้ที่รับรู้ได้ อาจจะต่างกันไป ข่าวสารที่สื่อออกไปนั้นก็เป็นประสบการณ์ของคนทำข่าว ผู้บริโภคข่าวก็รับทราบตามที่สื่อ ความรู้สึกเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ด้วยสิค่ะ ผู้คนจึงมีหลากหลายความรู้สึกต่อเรื่องเดียวกัน เลยได้ใช้โอกาสนี้เล่าสู่กันให้รับทราบสิ่งที่ประสบหน่ะค่ะ จะได้มีิมิติของความน่ารักของผู้คน น้ำใจที่น่าชื่นชม ท่ามกลางความคุกรุ่นของอะไร??? ไม่ทราบได้ ...ที่บ่งชี้ความรุนแรงในพื้นที่ :-((
ชอบวาทกรรมนี้มากครับ
น้ำใจผู้คน...บนถนนสายเปลี่ยว...
เพราะมันช่วยตอกย้ำให้รู้ว่า..
โลกใบนี้ ไม่แล้งไร้ซึ่งมิตรภาพ นั่นเอง
คุณแผ่นดินค่ะ..ขอบคุณที่แวะมาแลกเปลี่ยน .. "น้ำใจผู้คน บนถนนสายเปลี่ยว"..... "การกระทำ VS วาทะกรรม" ..ค่ะ มิตรภาพจากใจจริง ยังคงมีอยู่ให้จรรโลงใจ ในโลกใบนี้ ... น่าอภิรมย์ไ่ม่น้อยนะค่ะ..:-))
อาจารย์วิค่ะ..ขอบคุณค่ะ..:-)) เชื่อมั่นว่าความปรารถนาดี อย่างจริงใจ มีในตัวอาจารย์ทุกท่านค่ะ รวมถึง อาจารย์วิ ด้วยที่มีอยู่เต็มเปี่ยม จากแนวปฏิบัติที่สมาชิกใน GotoKnow ทราบและชื่นชมค่ะ อืมม์...ศิษย์ทุกคนต่างมีความเป็นตัวเอง ครูที่ใกล้ชิดก็จะเห็นและแยกแยะได้ โดยส่วนตัวครั้งนี้ที่ไปเยี่ยมบ้าน/ครอบครัว ศิษย์ แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสพิเศษ ก็เพราะผูกพัน รัก สอน/ชี้แนะได้ใกล้ชิด.. เริ่มจากศิษย์เข้ามาทำงาน project วิจัย ป.ตรี ภายใต้ความดูแล สอนทักษะชีวิตและความรู้ในการทำแล็บที่ต้องฝึกฝน เข้มข้น และถือโอกาสในวันพิเศษของศิษย์ ขับรถไป รู้จักบ้าน รู้จักพื้นที่ ที่มีความหลากหลายพืชพันธู์ สัตว์ (นก) และ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ แม้กระทั่งพ่อแม่ของศิษย์ ก็พูดได้แต่ภาษามลายู...ซึ่งก็ดีใจที่เราไปเยี่ยมค่ะ.:-))
ย้อนกลับไป... นึ่กถึงเช้าวันหนึ่งเข้ามาทำงาน ขณะที่ศิษย์ทำแล็บในห้อง ซึ่งอยู่ติดกับห้องพักของอาจารย์..เช้านั้นได้รับเมล์จากเพื่อน ส่งเมล์มาให้ มีความหมายดีๆ "Tale from a cracking pot" อ่านแล้วรู้สึกดีมาก เลยเรียกศิษย์เข้ามานั่งหน้าคอมพ์ และแปลให้ฟัง ใส่สีสันไปเล็กน้อยให้เข้ากับบรรยากาศ ยามเช้าที่ไม่เคร่งเครียด.. main idea ก็เป็นเรื่องการให้กำลังใจ empowerment คล้ายๆกับสุดท้ายจะบอกว่า "nobody perfect"..การมองเห็นคุณค่าของคนทุกคน.. หลังจากฟังเสร็จแล้ว ศิษย์ก็เข้ามากอด น้ำตาชุ่มฉ่ำนองหน้า พร้อมบอกว่า "หนูรักอาจารย์ ค่ะ " .โดยมิได้เตรียมตัวมาก่อน ก็ได้เพียงแต่ ตอบว่า "ขอบคุณ..เช่นกันค่ะ" .... ณ. เวลานั้น เข้าใจว่า ศิษย์คงผสม ปนเปกันหลายๆอย่าง ทั้งความเหนื่อยยากในการทำแล็บ ท้อ ว้าวุ่นหลายเรื่อง ทั้งเรียนและอื่นๆ แถมทับถมตัวเองว่าไม่มีอะไรดีสักอย่าง !! พอมีใครปลอบ /เข้าใจ..ก็เลยเป็นอย่างที่เล่าค่ะ ..อาจารย์ .วิ.. . ก่อนจบรุ่นนั้น นักศึกษาโปรเจคมีกันหลายคน ก็เชิญมาทานข้าวที่บ้าน อืมม์...ด้วยเพราะมีศิษย์ที่เป็นมุสลิมคนเดียวท่ามกลางเพื่อนๆทีี่มาทานข้าว ภาชนะต่างๆที่ใช้เตรียมอาหารก็ต้องระวัง ไม่มีการปนเปื้อนสิ่งต้องห้ามที่ศิษย์ศรัทธาในศาสนา เลยต้องใช้ ชาม/ ถ้วยแก้วก้นลึก (pyrex ) ทนไฟ (ปกติใช้ทำเค๊ก และไม่เคยใช้ปรุงอาหารอย่างอืน) วันนั้นใช้ นึ่งปลา และ ผัดผักในภาชนะนั้น อืมม์...ทุกคนทานอาหารมื้อนั้นร่วมกันอย่างมีความสุข เราต่างเคารพซึ่งกันและกัน..ในศรัทธาความเชื่อที่แตกต่าง หากแต่ความรักผูกพันในความเป็นศิษย์-อาจารย์ ทำให้อะไรๆ ก็ดูราวจะไม่เป็นอุปสรรคเลยค่ะ ...เล่าให้ อ. วิ ฟังเสียยืดยาวเลย เป็นบรรยากาศ การเรียนรู้ในสังคม พหุวัฒนธรรมชายแดนใต้ ที่ในฐานะครู-ศิษย์ ที่ ต้องปรับตัว เรียนรู้ สร้างทางเลือก ตลอดเวลาค่ะ .. ท่ามกลางข่าวสารมากมาย ในพื้นที่ส่วนนี้ หวังไว้ว่าคงจะดีขึ้น..สักวัน..:-))
อาจารย์วิค่ะ..ขอบคุณค่ะ..เขินจังค่ะ ถูกชมอย่างงี้....อืมม์..ปกติที่สอนก็จะใช้คาถา " รักและเมตตา" ค่ะ อ. วิ ซึ่งเชื่อว่ามีอยู่ในอาจารย์ทุกท่านนะค่ะ และด้วยเพราะเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่นี่ ในการเจอกันกับศิษย์ในชั่วโมงแรกของการเข้าสอน ก็จะพูดคุย เล่าเรื่อง เน้นเกี่ยวกับ motivation, inspiration, appreciation & imagination จากนั้นการปฏิสัมพันธ์ ตลอดเทอม จะสังเกตว่า ใครขาดในส่วนไหนก็ชี้ชวน เติมเต็ม..ใช้ทั้ง..empathy & empowerment ...เหล่านี้เป็น keywords ที่ใช้กันบ่อย โดยเฉพาะนักศึกษาโปรเจคค่ะ :-))