วิพากษ์ พระกำแพงซุ้มกอ จากมิติของ พระผงสุพรรณ
หลังจากที่ผมได้พระผงสุพรรณเนื้อดำ จากสุพรรณบุรี ผมก็เริ่มมีแรงบันดาลใจที่จะมาศึกษาวิธีการสร้างพระกำแพงซุ้มกอ
โดยอาศัยชุดความรู้และความเข้าใจจาก การศึกษาวิธีการสร้างพระผงสุพรรณ
ที่มีการ
- วางแผนแจ่มชัด
- คัด กลั่นกรองดิน
- เสาะหาว่าน และแร่
- แปรเป็นมวลสาร
- ผ่านพิธีพุทธมนต์
- คิดค้นทำแม่พิมพ์ต่างๆ
- จัดวางแผนงาน
- ผสมมวลสารให้เข้ากันดี
- ทีมปั้นและกดพิมพ์ที่มีความพร้อม
ด้วยแผนการทำงานสร้างพระผงสุพรรณ ที่มีความรู้ความเข้าใจที่ชัดเจน เรื่องมวลสารที่ใช้ และการแปรรูปที่พึงประสงค์ จนทำให้ได้พระผงสุพรรณดินดิบที่ทนทาน ดังเนื้อทองคำ
ดังนั้นการดูผิวพระผงสุพรรณ ก็สามารถเทียบเคียงกับดูผิวทองคำได้เลย
แต่สำหรับ พระกำแพงซุ้มกอนั้น แม้จะมีวิธีการสร้างที่น่าจะคล้ายกัน แต่ก็แตกต่างในบางขั้นตอน
โดยเฉพาะ
- ขั้นตอนการคัดกรองดินเหนียว
- การใช้ว่าน มวลสารแห่งความแกร่ง และ
- ระดับการเตรียมการสร้าง
ที่ใกล้เคียงกับพระผงสุพรรณ
กล่าวคือ สิ่งที่ปรากฏในพระกำแพงซุ้มกอนั้น มีหลากหลายเนื้อมาก ตั้งแต่
- ดินเหนียวละเอียด เนื้อแน่น ออกแกร่งมันขลับ
- ดินเหนียวร่วนปนทรายแป้ง
- จนถึงดินเหนียวปนทราย
ที่น่าจะมาจากการสร้างหลากหลายครั้ง หลายวัด และหลากความรู้ ความเข้าใจ
จาก 3 เงื่อนไขที่แตกต่าง ทำให้ความแกร่งแน่นของเนื้อพระกำแพงซุ้มกอไม่ค่อยแข็ง มีความกร่อนยุ่ยมาก แม้จะมีอายุน้อยกว่าหลายร้อยปี ก็ยังกร่อนมากกว่า
เท่าที่พบ จึงสามารถจัดลำดับความแกร่งของพระกำแพงซุ้มกอออกได้ 6 ระดับ ดังนี้
- พระกำแพงซุ้มกอดำ เนื้อจะแกร่งที่สุด แบบเดียวกับพระผงสุพรรณ
- พระกำแพงซุ้มกอแดง
- พระกำแพงซุ้มกอดินเหนียวละเอียดออกมัน ผิวยุ่ย มีแร่ดอกมะขามหนาแน่น
- พระกำแพงซุ้มกอเนื้อแดงอ่อน ถึงส้มแดง มีแร่ดอกมะขามมาก
- พระกำแพงซุ้มกอเนื้อเหลืองพิกุล มีแร่ดอกมะขามพอสมควร
- พระกำแพงซุ้มกอเนื้อขาวนวล จะแกร่งน้อยที่สุด มีแร่ดอกมะขามน้อย ร่วนและกร่อนได้ง่าย
ดังนั้น ทั้งสามปัจจัย คือ ชนิดดินเหนียว ชนิดและจำนวนแร่ดอกมะขามในเนื้อ และระดับน้ำว่านที่องค์พระได้รับ จึงน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พระกำแพงซุ้มกอมีลักษณะและความทนทานแตกต่างกันครับ
ความเห็น (1)
อย่าจะหัวเราะ พระเก้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบนี้เยอะที่กำแพงเป็นเข่ง