วันที่ใจเหนื่อยล้า...กับปัญหาที่แก้ไม่ได้ ....


สองวันมานี่ เป็นวันที่ชลัญทำงานจนไม่รู้ว่า  เอ้าถึงเวลาพักกลาวัน  หรือถึงเวลาเลิกงานแล้วหรือ  มันช่างยุ่งอะไรปานนี้ ก็ไม่รู้ 

    เคยรู้สึกว่าชอบจังวันที่งานยุ่งๆนี่มันสนุก  ได้ทำโน่นนี่นั่น  ทั้งวัน  แต่...2... วันนี่ชลัญชักเริ่มเปลี่ยนใจ  ....  อาการของ pks แย่กว่าเดิม  เพราะเป็นช่วงที่ peak  ของฮอร์โมนเพศที่ต่ำสุด  กำลังถอดรหัสโรคของตัวเองว่าเกี่ยวกันมั๊ย...ทุกวันนี้จด  จด  จด ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับอาการ ของ pks  คิดว่าสักปี คงได้ ข้อมูล คงจะได้วิจัย case  pks  ที่สวยเป็นเล่มแน่  เอามันจากตัวเองนี่แหล่ะ 

    แต่ในวันที่ร่างกายแย่ๆ นั้นมันดัน ยุ่งเหยิง  จนรู้สึกอยากจะกรี๊ด ๆๆๆ  แต่ทำไม่ได้  เพราะถ้าเรากรี๊ดเมื่อไร  หมายถึงว่าคนอื่นอาจแย่ไปด้วย  เมื่อวานนี้ ช่วยแพทย์ตรวจตั้งแต่เช้าถึงเย็น  กลับไปบ้านตอน  18.00 น.  สักทุ่มหนึ่งน้องที่อยู่เวร BD ( 16.00-20.00)  โทร.ไปหา ตอน 19.05 น.

      น้อง :  พี่โจ้  โบว์นะ  จะทำยังไง  คนไข้เหลือ  20 กว่าคน  แพทย์ ดูคนไข้ er เน่าหนอนมาก  มีคนไข้ต้องใส่ tube refer 2 case  กว่าจะได้มาตรวจของเรา 3 ทุ่มโบว์จะได้กลับบ้านมั๊ยพี่

    ชลัญ :  โทร.ตามหมออื่นหรือยัง

   น้อง : โทรแล้ว พี่  หมอ ward  กำลังใส่ tube 1 case  air hanger อีก  2 case   แพทย์อีกคน  ไปกินข้าว

    ชลัญคิด เอาล่ะว้า  ... ทำไงดี  ก็เลยโทร.หาหัวหน้า บอกสถานการณ์ หน.บอกก็ให้  ก็รอไป 2 ทุ่มตัดไป er กลับกันได้ ชลัญคิดในใจฝนกำลังจะตก  กว่าคนไข้จะได้กลับบ้าน 4-5 ทุ่ม  น่าสงสารจริง  แล้วน้องเราอีก  ตอนนี้คงเครียด  ตัดสินใจบอกคุณป๊า เอารถออก  คุณป๊าถามจะไปไหน  ไปช่วยน้องตรวจคนไข้   คุณป๊าไม่รอช้า  รีบเอารถออกพาชลัญมา รพ.  ระยะทางจากบ้านชลัญมา รพ.ห่าง 5 กม.  เมื่อมาถึง  มีผู้ป่วยนั่งรอ ประมาณ 20 คนได้  แพทย์ กำลังนั่งตรวจอยู่  แต่ก็วิ่งกลับไปมาที่ er  ชลัญก็ไปช่วยตรวจ ได้สักพักมีแพทย์อีกท่านมาสมทบช่วยตรวจไป คนไข้หมด 2 ทุ่มครึ่ง  น้องไหว้ขอบคุณ  รู้สึกใจชื้นที่พี่มาช่วย 

    ตื่นเช้ามาวันนี้ อีก  มาถึง รพ.ก็พบกับสภาพตลาดนัด รพ.  คนไข้เต็มไปหมด  ก็พยายามช่วยกันclear คนไข้  แต่ก็ดูจะไปได้อืดจริง   ก็มาพบกับผู้ป่วย   3 รายที่ทำให้ชลัญหดหู่สุดๆ 

        รายที่ 1  เป็นชาย อายุ 32 ปี  มาด้วยเรื่องแพทย์ นัดติดตามอาการ  หลังจากที่ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา  มาตรวจที่ รพ.ด้วยเรื่องหลอดลมอักเสบ  ชลัญสังเกตคนไข้หอบ นับหายใจได้  48 ครั้ง/นาที (ปกติ 16-20 ครั้ง/นาที )  ก็ให้น้องจับค่า Oxygen saturation  ได้ 97% Room air (ปกติน่าจะ 98-100% RA  )ก็ประสิทธิภาพลดลงเล็กน้อย  แต่หอบ  ชลัญจึงสั่งน้อง  ให้เอารถเข็ญนั่งไป พาผู้ป่วย x-ray ปอด  กลับมา พบ pleural effusion  (ภาวมีน้ำในปอด ) ข้างขวา  ไปครึ่งปอด จึงรีบส่งไปพบแพทย์ เฉพาะทาง  คือ นพ.อธิคม สงวนตระกูล  แพทย์ อธิก็น่ารักมากรีบดูให้  " พี่โจ้เอาไป er เดี๋ยวผมไปเจาะปอดให้ แล้วค่อย admit " ชลัญก็ถามหาญาติ  เอ้าไม่มีญาติมา  อยู่คนเดียว  เอ้าซวยล่ะ  มองหาน้องผุ้ช่วย น้องคนงานต่างยุ่งเหยิงไปหมดชลัญก็เลยตัดสินใจเข็ญคนไข้ไป ER เอง  เมื่อประสานงานเรียบร้อยก็กลับมาที่โต๊ะซักประวัติต่อ  นี่เป็นอีกบทบาทที่พยาบาล รพ.ชุมชน ต้องดู ต้องตัดสินใจ    คือการตัดสินใจ ส่งตรวจเพิ่มเติมเช่น ส่งตรวจเลือด  EKG  CXR  เอง ก่อนเข้าพบแพทย์  เพราะถ้ารอแพทย์สั่งตายแน่  แต่การส่งนั้นจะมั่วไม่ได้  เพราะหากส่งมั่วๆ  แพทย์ ก็คงไม่พอใจอย่างแรง  เราต้องรู้เกณฑ์ การส่งรู้ว่าส่งแล้ว จะแปลผลอย่างไร  ซึ่งประเด็นนี้มีนักศึกษาที่มาฝึกงานจาก วพบ.กาชาด อึ้งมากว่า รพ.ชุมชนนั้น พบเก่งจัง  ไม่ได้เก่งหรอกจำเป็นต้องทำ  แล้วก็ต้องทำเป็นด้วย

     รายที่สอง เป็นผู้เฒ่า ท่านหนึ่งป่วยนอนอยู่บนรถนอน น่าจะอัมพาต เป็นผู้ชาย  ผู้เฒ่าที่เฝ้าอีกคนเป็นหญิง  ชลัญได้ยินเสียงเอะอะจากห้องแพทย์จึงรีบเข้าไปดูพบว่าผู่ป่วยมาตรวจด้วยเรื่องซึมนอนตลอด  แต่พอตรวจร่างกาย  พบว่า  แขนข้างหนึ่งร่องแร่ง  จากไหล่หลุด หมอถามป้าว่า เป็นมานานแล้ว แต่ไม่มีคนมารักษา  หมอหัวเสียมากจึงดุป้าแบบไม่ตั้งใจ  พอเข้าไปจัดการปัญหาเสร็จส่งพบ แพทย์ กระดูก เรียบร้อย ก็มาดูประวัติ  พบว่าสิทธิ์ข้าราชการ สอบถามป้าลูกเป็นคุณครู  กับตำรวจ  เขาไม่ค่อยมีเวลา  ชลัญรู้สึกจุกที่ลำคอ  เพราะ ไม่อยากเจอแบบนี้เลย ข้าราชการเรา ห่วงอะไร  ห่วงงาน  ห่วงคนอื่นมากไป จนลืมครอบครัวไปมั๊ย  ห่วงเจ้านายว่า กลัวคนอื่นตำหนิ  แต่เราลืมมองคนใกล้ตัวหรือเปล่า  .... ใจชลัญเริ่มล้าแล้ว 

    รายที่ สาม     เป็นผู้ป่วยรถนอนอัมพาต  เจาะคอเพื่อช่วยหายใจ  มีสายใส่จมูกเพื่อรับอาหาร  มีท่อสวนปัสสาวะ  ไว้ เพื่อระบายปัสสาวะที่ควบคุมไม่ได้  มีแผลกดทับที่ก้นดำ  นอนน้ำตาไหลอยู่บนเตียง รถเข็ญของ รพ.  น่าสงสารจัง  ชลัญคิดในใจ  พอมาสัมภาษณ์ญาติ ชลัญเริ่มอึ้ง  ญาติบอกเขาเป็นสามีญาติมีความจำเป็นต้องไปต่างจังหวัด เนื่องจากพ่อเสียชีวิต ไม่มีคนเฝ้าแฟนที่ป่วยจะเอามาฝากที่ รพ.สัก 3 วัน ลูกๆก็ไม่มีใครกลับมาอยู่ไกลกันหมด  ชลัญเริ่มรู้สึกสับสนในอารมณ์ความรู้สึกผู้ป่วยนอนน้ำตาไหลอย่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  ญาติก็ตาแดงเพราะอยากไปเผาศพพ่อ  แต่ก็ห่วงสามี  แล้วชลัญจะบอกอย่างไรให้ หมอเอาคนไข้ นอน รพ.ให้หน่อย  แล้ว ward จะด่าหัวชลัญมั๊ยนี่  คิดวนไปมาจนสับสนไปหมด  ก็เลยลงมือตัวร่างกายผู้ป่วย พบว่า มีไข้  แผลกดทับแย่ทีเดียว  อืมมม์  .... มีเหตุผลพอที่จะบอกหมอให้  รับผู้ป่วยไว้นอน รพ.  ...  ครั้งนี้ทำได้ แล้วต่อไปล่ะ  ถ้ามีเหตุจำเป็นอีกชลัยจะให้เหตุผลอะไรช่วยคนไข้  .....

       เหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ มันบั่นทอนความรู้สึกในการทำงาน เพื่อคนไข้ ของชลัญ แบบมืดมน  ไม่ได้ท้อนะ แต่ จะทำอย่างไร ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจ มองภาพใหญ่ไปหรือเปล่า  ชลัญมองดูแล้วว่าปัญหาสาธารณสุขที่มันกำลังถดถอยน่ะมาจากนโยบายรัฐ ที่ไม่บรรจุมดงานอย่างชลัญนี่แหล่ะ มันไม่มีคนทำงานในพื้นที่  ที่จะเป็นฐานที่แข็งแรงในด้านสุขภาพ  น้องๆจบมาไม่มีใครอยากลำบาก  ทุกคนล้วนคิดถึงตัวเองก่อน  ชลัยยังเคยคิดว่า  ถ้าย้อนไปได้  ชลัญอยากเกิดเป็นเด็กรุ่นนี้ จังมีสิทธิ์เลือก เลือกได้  เพราะชลัญจะได้ไม่ต้องมารับรุ้ความทุกข์ร้อนของใครให้เหนื่อยใจ  ทำงานเก็บเงิน  ซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อทอง เที่ยว หาความสุขให้ชีวิตเราเท่านั้นก็พอล่ะมั๊ง  แต่พอมาเห็นมารับรู้มากๆ มันทิ้งไม่ลง มันสงสาร แต่ชลัญเป็นมดงานแค่นี้  ชลัญจะช่วยอะไรได้ดีกว่านี้อีก ............    

      

ชลัญธร  ตรียมณีรัตน์

คำสำคัญ (Tags): #การดูแลผู้ป่วย
หมายเลขบันทึก: 492529เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2012 17:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน 2012 15:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

 

ถ้าย้อนไปได้  ชลัญอยากเกิดเป็นเด็กรุ่นนี้ จังมีสิทธิ์ เลือก เลือกได้  เพราะชลัญจะได้ไม่ต้องมารับรุ้ความทุกข์ร้อนของใครให้เหนื่อยใจ  ทำงานเก็บเงิน  ซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อทอง เที่ยว หาความสุขให้ชีวิตเราเท่านั้นก็พอล่ะมั๊ง  แต่พอมาเห็นมารับรู้มากๆ มันทิ้งไม่ลง มันสงสาร แต่ชลัญเป็นมดลานแค่นี้  ชลัญจะช่วยอะไรได้ดีกว่านี้อีก ............

 อนุโมทนา บุญครับ ...

 

 ถ่ายเมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๕  Indiana Dune

 

เห็นใจจริงๆเลย.. น้องชลัญวุ่นวายอยู่กับงานที่ล้นมือ

ช่วงนี้มันช่วงอะไรไม่รู้เนาะ ที่สูงเนินก็เต็มทุกตึก-ทุกวัน มาร่วมสองสัปดาห์แล้ว (ไม่แพ้กันเลย)

ส่วนคุณพี่ตอนนี้สุขภาพย่ำแย่พอกัน.. น้ำตาไหลตลอด ต้อลมทำพิษ.. ปวดไหล่และบ่า ต้องทำกายภาพ ultrasound.. เมื่อคืนถูกตามดมยา C/S เสร็จเกือบตีหนึ่ง ขึ้นหอพักดันสะดุดบันไดล้มเข่ากระแทกพื้นโนเท่าผลส้ม กลายเป็นผู้พิการไปซะแล่ว เฮ้ออออ

 

ส่งกำลังใจไปให้นะคะ นางฟ้าที่รัก;)

  • อ่านแล้วเหนื่อยแทน..แต่ยังขยันเขียนบันทึกยาวๆในกทน.ทุกวัน..รวมทั้งทำงานฝีมือสวยๆอีก..

  • พักผ่อนบ้างนะคะ..คิดถึงสุขภาพก่อน..

เหมือนกันเลย แต่จะพยายามแก้ไขปัญหาให้ได้ครับ

เพราะมีผลกระทบกับลูกศิษย์โดยตรง

สวัสดีค่ะ สายอาชีพเดียวกัน เป็นหมออนามัยค่ะ ตนเจ็บป่วยกันมาก และปัญหาคล้ายๆกัน บางครั้งคนไข้ใกล้สิ้นใจญาติก็ตามให้ไปบอกทางคนไข้ให้ด้วย เหนื่อยแต่ก็แอบแฝงความสุขใจนะคะ เป็นกำลังให้ค่ะ

...แต่ จะทำอย่างไร ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจ มองภาพใหญ่ไปหรือเปล่า ชลัญมองดูแล้วว่าปัญหาสาธารณสุขที่มันกำลังถดถอยน่ะมาจากนโยบายรัฐ ที่ไม่บรรจุมดงานอย่างชลัญนี่แหล่ะ มันไม่มีคนทำงานในพื้นที่ ที่จะเป็นฐานที่แข็งแรงในด้านสุขภาพ...

Yes, it is disheartening, many of our people are sick, many of our hospitals are sick, our government is sick, ...

We are walking with you. ;D

   สวัสดีค่ะคุณหมอชลัญธร...ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ  ขอผลบุญความดีที่ทำรักษาเยียวยาสุขภาพคุณหมอให้แข็งแรงๆๆนะคะ.

สะเทือนทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะเรื่องที่ต้องทำงาน โดยไม่มีอิสรภาพทางเวลา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท