ช่วยคนที่เรารัก ตอนหก


โดย Samy from board palungjit

คืนวันจันทร์


พ่อเข้าห้องผ่าตัดแล้ว เราทุกคนนั่งรอพ่ออยู่หน้าห้องผ่าตัด เวลาเกือบ  ชั่วโมง ในห้องผ่าตัด มันเป็นเวลาที่บีบหัวใจเรามาก พอเวลาใกล้ค่ำ เกือบๆทุ่ม บุรุษพยาบาลเข็นเตียงพ่อออกมาจาห้องผ่าตัด สถาพนอนหลับปกติ ผู้ช่วยหมอเดินบีบลูกโปร่งตามมาด้วย พอคืนตึกได้
 
บุรุษพยาบาลก็โยนร่างพ่อลงเตียงใหญ่ จริงครับอย่าเรียกว่ายกเลย โยนดีกว่า โครม นึกในใจคราวพ่อมึงนะ กูจะมาเป็นอาสาสมัครให้ เอาให้โครมใหญ่กว่าพ่อกูอีก
 
พยาบาลเห็นเราหน้าเสียหันมายิ้ม แล้วบอกว่า คนไข้จะฟื้นตัวเร็วค่ะ เฮ้ย..ตีแกล้มพ่อกูก็ตื่นแล้วมั่ง พักเดียว ๑๕ นาทีได้ พ่อลืมตาขึ้นมาเลย เฮ้ย..เอ็งพูดถูกว่ะ
 
มาถึงตอนนี้คิดว่าพ่อไม่อยากเสียเวลาที่จะได้คุยกับเรานะ พอเดินไปที่เตียงก็เห็นรอยผ่าตัดที่ใหญ่มาก เรียกว่าชำแหละดีกว่า
 
ใบมีดกรีดลงตั้งแต่ลิ้นปี่ ลากยาวลงมาที่สะดือผ่านกลางสะดือลงไปจบสุดท้องน้อย เป็นฟุตครับ และมีแผลขนาดกำปั้นด้านข้างสอดลำไส้ใหญ่ออกมา ขับถ่ายของเสียแทนช่องทางปกติ แกอายครับ พี่สาวยั่วพ่อว่าอายตูดหรือพ่อ ก้นใหม่เป็นไง แกก็พยักหน้า อยากจะขำอยู่ถึงตรงนี้ดูแล้วไม่น่าตายนะ
 
หมอแกเก่งสมราคาคุยแหละ เราทุกคนเฝ้าไข้แทบจะอาบ เจลฆ่าเชื้อกันเลย กลัวพ่อติดเชื้อ นึกได้เมื่อไหร่กดเจล ทำความสะอาดมือแขนทั้นที ถ้านึกถึงความตายได้อย่างนี้ น่าจะเป็นโสดาบันไปแล้ว
 
ไม่ให้พ่อติดเชื้อหมูๆ ทำได้ ที่สายน้ำเกลือ ก็มียาฆ่าเชื้อเข้ากะแสเลือดอยู่แล้ว ใบหน้ายิ้มแย้ม หน้าพ่อเหลืองใสดั่งทอง ออร่ามันฟ้อง พ่อน่าได้กลับบ้านนะ
 
ทุกวันตั่งแต่สึกจากความเป็นพระ ผมจะสวดมนต์เป็นประจำอยู่แล้ว ถวายพรพระ อย่างเดียวเลย ในบทถวายพรพระ เริ่มต้น ที่ นโม สามจบ พุทธัง สะระนังคัจฉามิ ถึง ตะติยัมปิ....สังฆัง สะระนังคัจฉามิ อิติปิโส พาหุง มหากาล ชะยันโต ถึง พะวัณตุสัป บทเมตตา ที่สวดว่า เมตตา ญาภิขเว เจโตวิมุทติยา อาเสฯ.....เตภิขขุ พัคคะวะโต ภาสิตังอะภินันทุนติ ยันทุนนิมิตังจบ เพราะผมเกิดวันจันทร์ ต้องสวดยันทุน เป็นพระปริต แล้วจึงนั่งสมาธิ แล้วแผ่เมตตา
 
บ้างวันกันแผ่เลย ไม่นั่ง ยิ่งช่วงพ่อป่วยแถม โพชังคะปริตตังให้อีก ชุดใหญ่ เท่าที่จำได้ พยายามสวดไม่ให้ลืม ปัจจุบันผมยังไม่มีลูก ถ้าถึงคราวผมบ้างใครจะสวดให้ ต้อง เช็งตัวอ่วย ต้องช่วยตัวเองให้พ้นอบาย เช็คดวงจิตให้พร้อมรบ
 
พ่อถามกี่โมงแล้วหนู "ต้องไปพ่อพูดมาลอยๆว่าต้องไป ต้องไป ไปไหนพ่อ ผมถาม พ่อไม่บอกเงียบไป ผมบอกว่าหลับตานะ พักผ่อนนะพ่อ
 
พี่คนกลางว่าจะกลับอุทัยธานีก่อน คืนแรกผมเฝ้าพ่อ นั่งจับมือพ่อไว้อย่างนั้น ปีบมือซ้ายให้เลือดไหลเวียนดี พ่อเริ่มมีไข้ขึ้นสูงเวลา สี่ทุ่มของคืนวันจันทร์ หลังออกจากห้องผ่าตัดได้  ชมพ่อบอกหิวน้ำ ผมบอกว่าเราตกลงกันแล้วไง หลังผ่าตัดห้ามกินน้ำ พ่อบอกเองนะว่ากินน้ำแล้วไปเลยนะ แกพยักหน้า ท้องพ่อยุบลงเยอะเลย หมอบอกว่า ตัดลำไส้ใหญ่พ่อทิ้งไป  ฟุต
 
แกบอกว่าเซลล์มะเร็งอยู่ทุกส่วนชองช่องท้อง แม้พนังหน้าท้องก็มี ผมเห็นที่แผลมีจุดดำ เป็นกลุ่มๆหลายแห่ง คล้ายๆขนมปังขึ้นรา แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือป่าว หมอบอกว่าน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน หรือถ้าพ้น  วัน ไปได้ก็ต้องดูว่า พ่อจะทนคีโมได้ไหม
 
สรูปว่าอีกไม่นาน แต่ผมคิดว่าน่าจะได้ออกโรงพยาบาลนะ แล้วก็อีกเดือน  เดือนค่อยไปอระไรแบบนี้มากกว่า เข้า  ทุ่มพ่อพูดขึ้นมาอีกว่า ไป ไป ต้องไป พูดอยู่คนเดียว เพ้อคนเดียว ว่า"นี้เขาไปไหนกัน โหใหญ่จังเลย รถไฟใหญ่จังเลย รถไฟขบวนนี้ใหญ่จังเลย"
 
รถไฟอะไรพ่อ พ่อพูดไปยิ้มไปเห็นอะไร เราไม่เห็น แต่ภาพในหัวมันใหญ่เท่าตึกนั้นหละ รถไฟขบวนนี้ ใหญ่มาก ผมไม่ให้พ่อเพ้อต่อ กระแทกเสียงใส่ว่า "ไปไหน พ่อบอกขึ้นรถไฟไง ผมว่าขึ้นไม่ได้ ไม่ไปพ่อเลิกยิ้ม คลายจากภวังค์ได้ แล้วหันหน้ามาหาผมบอกว่า เออ..ไม่ไป..ถูกแล้ว..ไม่ไป พ่อยกมือขึ้นเหมือนกำลังจะบอกผมว่าถูกแล้วที่ห้ามพ่อ
 


ให้กำลังใจ อนุโมทนาบุญ กับเจ้าของบันทึกได้ที่
 

คำสำคัญ (Tags): #กฏแห่งกรรม
หมายเลขบันทึก: 491227เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 06:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 08:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท