"รักอย่างพรหม" ... (ธนาคารความสุข ๔ สาขาบางรัก : พิทยากร ลีลาภัทร์)


เลือกเรื่อง "ความรัก" มาเล่าใ่ห้ฟัง เพราะมีน้องของกัลยาณมิตรกำลังผิดหวังอะไรบางอย่างจาก "ความรัก" ที่คาดหวัง ;)...

 

"รักอย่างพรหม" เขียนโดย "พิทยากร ลีลาภัทร์" เจ้าของหนังสือชุด "ธนาคารความสุข" ปัจจุบันออกเป็นหนังสือเล่มที่ ๔ แล้ว ชื่อ "ธนาคาีรความสุข ๔ สาขาบางรัก"

 

เมื่อคนที่กำลังผิดหวังในความรัก อาจจะคิดอะไรได้บ้าง ...

 

 

 

"รักอย่างพรหม"

 

Q : ถ้าเรายังทุกข์เพราะความรัก แปลว่า เรายังรักอย่างพรหมวิหารไม่เป็นใช่ไหมค่ะ ?

A : ใช่ครับ มันขาดตัวที่เรียกว่าอุเบกขาไป

 

เวลาพูดถึงคำว่า อุเบกขา หลายคนชอบไปแปลว่าไม่มีความรู้สึก ไม่ยินดียินร้าย ต้องเฉย ๆ ทื่อ ๆ เหมือนก้อนหิน รูปสลักหรือยักษ์วัดแจ้ง

ที่จริงการมีอุเบกขา ไม่ใ่ช่ แปลว่า ต้องไม่รู้สึกอะไรเลยนะครับ รู้สึกได้ สะเทือนใจได้ รักได้ เสียใจได้ แต่ไม่ฟูมฟาย ไม่คร่ำครวญหวนไห้เหมือนแม่นาคแห่งคลองพระโขนง

คือเราอาจจะเคยได้ยินว่า ความรักที่ดี ย่อมต้องอาศัยองค์ประกอบคือความเมตตา อยากให้เขาเป็นสุข ความกรุณา อยากให้เขาทันทุกข์ และมุทิตา ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดีมีสุข

 

นึกถึงช่วงจีบกันใหม่ ๆ นะครับ มักจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะอะไร? เพราะมันมีแต่เมตตา  กรุณา มุทิตาให้กัน ภาษาแถวบ้านเรา เขาเรียกจีบกันน่ะครับ มันถึงดีไง

จะหนุ่มจีบสาวหรือสาวจีบหนุ่ม หรือสมัยนี้ก็มีสาวจีบสาว หนุ่มจีบหนุ่ม กระทั่งเทวดาอุ้มสม มันก็ทำให้รู้สึกดีได้ถ้าอยู่ในข่ายของ ๓ ตัวนี้

แต่อาจจะลืมไปว่า พรหมวิหาร ๔ น่ะก็ต้องมี ๔ ข้อ ถ้าขาดไปอีกข้อก็ย่อมไม่สมบูรณ์ ข้อที่ว่านั่นคือ อุเบกขา คือ การมีปัญญารู้จักวางใจ ถ้าผลจาก ๓ ข้อแรก ออกมาไม่ดีอย่างที่คิด

 

ความต่างของคนที่มีอุเบกขาหรือไ่่ม่มี อยู่ที่สติกับสัมปชัญญะ สติ คือ ความรู้สึกตัว รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ ส่วน สัมปชัญญะ คือ ตัวปัญญา

คนที่มีสติสัปชัญญะ เมื่อมีความรู้สึกเสียใจอะไรแล้ว จิตมีสติก็ไม่เสียศูนย์ และมีปัญญาเห็นกระทั่งว่า ความเสียใจก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เกิดได้ก็หายได้ จากนั้นก็สามารถอยู่กับมันแบบรู้เท่าทัน

 

อุเบกขา คือ มีใจเป็นกลางต่อสิ่งที่เกิด สิ่งที่ดับ ต่อความเสียใจ กระทั่งความไม่ชอบใจ เสียใจ พอรู้ทันได้สติก็เป็นกลางได้ วางเฉยได้

เพราะจิตเกิดมีปัญญาว่าสิ่งทั้งหลายมันก็เป็นของมันอย่างนั้นเอง เพราะมีเหตุของมัน ไม่ใช่เพราะห้ามได้ หรือบังคับได้ว่าจิตต้องไม่รู้สึกนึกคิดอะไรเลย

 

ผมพูดบ่อย ๆ ในหลายบทว่า จิตมันเป็นอนัตตา มันไม่มีปุ่มให้เรากดสั่งได้ตามใจว่าเวลาไหนอยากอินเดอะมู้ดไหน จะหวั่นไหวหรือโหวกเหวก จะวาบหวิวหรือวอกแวก

มันเป็นอย่างที่มันเป็น มันเป็นของมันเองตามเหตุปัจจัย จิตไม่เคยเป็นได้อย่างใจเราเลยนะ ที่เรารู้สึกว่ามันได้อย่างใจในบางเวลาน่ะไม่ใช่นะ

 

อาจจะมีบางครั้งที่บังเอิญว่าเหตุและปัจจัยในเวลานั้น มันทำให้จิตเป็นไป "ตรงกับใจเรา" ที่เราชอบ ที่เราอยากพอดี แต่ไม่ใช่เพราะเราสั่งมันได้หรอกนะ

ขนาดใจเราเอง เรายังสั่งให้มันได้อย่างใจ เป็นอย่างใจเราอยากไม่ได้ แล้วจะหวังอะไรกับใจคนอื่นล่ะ

ฉะนั้นอย่าไปเหนี่ยวรั้งใครไว้เลยครับ ถ้าใจเขาไม่อยู่กับเรา จะรั้งเอาเขาไว้แต่ตัวแต่หัวใจไปอยู่ที่อื่น มันก็ฝืนใจเขาเปล่า ๆ

 

อดีตนักร้องนำวงเดอะโพลิส (The Police) ที่ชื่อสติง เคยเขียนเพลงชื่อว่า ถ้ารักใครแ้ล้วไซร้ ให้ปล่อยเขาเป็นอิสระ If you love somebody, set them free.

ใคร ๆ ก็อยากอยู่กับคนที่เขาอยากอยู่ด้วย เราเองก็เหมือนกัน ถ้าเราไม่อยากอยู่ แต่ต้องอยู่เพียงเพราะเขาอยากรั้งเราไว้ เราก็ทุกข์แหละ ว่าไหม

ถ้าอยากรั้งเขาไ้ว้ ทั้ง ๆ ที่เขาอยากไป ก็อย่าไปพูดว่ารั้งไว้ด้วยความรัก เพราะมันไม่ใช่ ถ้าเราทำแบบนั้น เราแค่รักตัวเองนะ เราเมตตาตัวเอง แต่ไม่เมตตาไม่กรุณาเขา และไม่มีมุทิตา อุเบกขาด้วย

คือเราห่วงแค่ตัวเอง เราสนใจแค่ความรู้สึกตัวเอง อีกคนจะเป็นไงไม่รู้ ขอแค่ฉันได้เป็นเจ้าของเธอก็พอใจละ แบบนี้มันรักตัวเองเห็น ๆ นี่นา

 

พูดแบบนี้ เดี๋ยวรับรองมีคนโอดครวญว่า แหม...มันทำยากจะพี่ ก็มันไม่ง่ายน่ะสิ พระพุทธเจ้าถึงตรัสว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์

เคยมีบางคนฟุ้งซ่านหน่อย บอกว่า พี่พูดแบบนี้ เดี๋ยวถ้าคนทั้งโลก เขาไ่ม่ยอมมีคู่แล้วมนุษย์ก็สูญพันธุ์หรอก

ปัดโธ่ ... พระพุทธเจ้าตรัสคำนี้มาสองพันกว่าปีแล้ว แต่ถึงเวลาไปสบตากันปิ๊ง ๆ ๆ แล้วมันมีสักกี่คนล่ะ ที่ห้ามใจได้

อีตาแอสตันที่เขียนอยู่นี่ก็คนหนึ่งล่ะตัวดีเลย ฉะนั้นอย่าได้กังวลในสิ่งที่ไม่มีทางจะเกิดเลย

 

สุขสันต์ วันที่ยังมีคนทุกข์กับความรักครับ

 

.....................................................................................................................................

ช่องไฟในความคิด ...

 

หากจะให้ผมพูดถึงประสบการณ์ส่วนตัวล้วน ๆ นั้น ผมคิดว่า ตัวเองผ่านประสบการณ์แบบนั้นมาแล้ว

ผมตัดสินใจที่จะไม่เหนี่ยวรั้งคนที่อยากเดินจากไป

ผมสามารถทำได้ (ก็ไม่เคยคิดว่าจะทำได้)

ตอนนี้ผมยังสามารถพูดคุยด้วยความห่วงใยเหมือนที่ผ่านมาได้ เพียงแค่สถานะนั้นไ่ม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ชีวิตของใคร คนนั้นก็เป็นคนเลือก

เราเลือกเส้นทางชีวิตแทนใครไม่ได้

 

 

...

ความรักแท้อยู่ไหนใครรู้บ้าง
มันวิ่งอยู่ตามทางใช่หรือไม่
หรือวิ่งอยู่วกวนในหัวใจ
เห็นอยู่ไกลแสนไกลใช่ไหมเออ

หัวใจคนเป็นเพียงแค่ก้อนเนื้อ
จักจุนเจือเจ็บจำระกำเผลอ
ปล่อยหัวใจวางไว้กับใจเธอ
แอบละเมอคนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ

แอบเดินตามความรักของคนอื่น
แอบขมขื่นในใจจะใช่ไหม
แอบรักเขา เขาไม่รัก ไม่วางใจ
ก็คงแอบอยู่ต่อไป แอบรักเธอ

ไม่มีรักใดใดนิรันดร
มีแต่รักเอื้ออาทรเธอเสมอ
ลมหายใจฝากไว้กับตัวเธอ
อุปสรรคมากนะเออ เธอทำไง

กำลังใจใดใดไม่สำคัญ
อยู่ที่ฝันมั่นคงเธอขานไข
อุปสรรคมากมายสักปานใด
เธอคนเดียวบอกได้ด้วยตัวเอง

...

 

 

ขอส่งกำลังใจไปให้คนทุกข์กับความรักนะครับ

 

บุญรักษา ครับ ;)...

 

 

 

.....................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือ ...

พิทยากร ลีลาภัทร์.  ธนาคารความสุข ๔ สาขาบางรัก. กรุงเทพฯ : พรีมา พับบลิชชิง, ๒๕๕๕.

 

หมายเลขบันทึก: 490878เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 18:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (38)
  • ทุกข์มักมาพร้อมกับความคาดหวัง หวังมากจากคนที่เรารัก
  • แต่สุดท้ายก็อย่าลืมรักตัวเองให้มากที่สุด ...

ขอร่วมฝากข้อคิดไว้กับคุณ Lect. Wasawat Deemarn ด้วยคน ในฐานะคนที่ผ่านประสบการณ์...

  • ก็จำไว้เป็นบทเรียน...เวลาจะค่อยๆ ทำมันให้เจือจางเองจ้า  เชื่อรุ่นพี่ชมรมคนเคยน้ำตานองหน้า... เถอะน้อง 

โอ แปลกจัง ระบบโกทูโนว์ เดี๋ยวนี้ค่ะอาจาารย์เสือ

ทำไม พอเปิดอ่านปุ๊บ ขึ้นโชว์ ว่า เรา กดไลค์ ใน เอฟบีแล้ว

ทั้งๆ ที่ปู ก็เพิ่งมาอ่านครั้งแรก ก็ตอนนี้เอง ฮา และแปลกใจ ที่สุดค่ะ :)

ขอบคุณ บันทึก และประสบการณ์ ตรงจากอ. เสือโสด โหดสนิท เจ้า

โอเค แล้วค่ะ แล้ว กดไลค์ ก็หายไป ในบัดดล ค่ะ แปลกแต่จริง

ขอมาแชร์ด้วยคนนะคะ ดอกโศกบานเต็มจอเลยค่ะ แต่ไม่เศร้านะคะ ก็รักอย่างพรหม แต่ไม่วายแอบเช็ดน้ำตาค่ะ

"ตอนนี้ผมยังสามารถพูดคุยด้วยความห่วงใยเหมือนที่ผ่านมาได้ เพียงแค่สถานะนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป"

อันนี้ก็ทำได้ยากนะคะอาจารย์ แต่หากทำได้ แสดงว่าเจ๋งมากค่ะ...

สวัสดียามดึกค่ะอาจารย์ :)

ขอบคุณประสบการณ์อันมีค่าของ Blank โรงเรียนพ่อแม่ ครับ ;)...

ทำได้และผ่านไปแล้วครับ อาจารย์ Blank ...ปริม pirimarj... ;)...

ขอบคุณมากครับ

..ถ้า รัก ใครแล้วไซร้..ปล่อยเขาเป็น อิสระ.....(มาเป็นพยานให้เจ้าค่ะ..ว่า..จริงๆ..อิอิ..จนบัดนี้..ปีที่สามสิบเอ็ด..ยังไม่ได้หย่า จากความรักที่ปล่อยเขาเป็นอิสระ..เฮ...)....ยายธี

ผมตัดสินใจที่จะไม่เหนี่ยวรั้งคนที่อยากเดินจากไป

ผมสามารถทำได้ (ก็ไม่เคยคิดว่าจะทำได้) ...

ประสบการณ์เช่นนี้ เป็นแบบทดสอบที่ยากมาก ขออนุญาตสัมภาษณ์ อาจารย์ผ่านมา ด้วยธรรมะของพรหมอย่างเดียว หรือมีสิ่งอื่นประกอบด้วยค่ะ

ขอบคุณนะค่ะอาจารย์ เข้ามา blog อาจารย์เมื่อไร ไม่เคยผิดหวัง ชอบมากค่ะ ขอยกรางวัล โคตรสุดคะนึงให้ อ.เสือค่ะ

ภวังค์ทุกข์ (เพราะรัก) กับ ภวังค์รัก มันมีแค่เพียง อุเบกขา คั่นอยู่เท่านั้นเอง จริง ๆ

  • พรหมวิหาร ๔ เป็นหลักธรรมที่ดีสำหรับผู้ครองเรือนค่ะ หากคู่ใดมีศีลเสมอกัน การรักษาพรหมวิหาร ๔ ให้คงไว้กับคู่เราก็จะยาวนาน
  • สมัยวัยสาว ๆ (เน้น) มีอันต้องแยกจากคนรัก ต่างคนต่างเข้าใจว่าไปด้วยกันไม่ได้ ตอนนั้น คุณแม่ปลอบใจและใช้คำพูดหนึ่งที่จดจำถึงทุกวันนี้
  • "คนเราพอหมดวาสนาต่อกัน ก็ถึงเวลาต้องจากกันไป"
  •  วันนี้ วันที่รู้จักใคร ไม่ว่าในฐานะอะไร "มิตร = เมตตา" ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอค่ะ
  • ขอบคุณสำหรับธรรมะดี ๆ สาธุ

ส่วนตัวผมน่าจะเป็น "ประสบการณ์" และ "เวลา" ครับ คุณหมอบางเวลา Blank ป. ;)... ที่ทำให้สามารถคิดได้ คิดเป็นดั่งปัจจุบัน จริง ๆ ผมก็เคยพยายามรั้งไว้ัอยู่แล้ว แต่เมื่อนาน ๆ เข้า คำว่า "ไม่มีใครบังคับใครให้รักใครได้" ก็ผุดขึ้นมา ผมจึงหยุดทุกอย่างและปล่อยเขาไป เพราะหากอยู่ด้วยกันต่อไป มีแต่ทุกข์กันทุกฝ่าย

ผมคิดว่า "ความผิดหวัง" เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ และ "อกหัก" คือ ความเข้มข้นของความผิดหวังที่เราต้องใช้สติตั้งตัวให้ทันมากกว่าฟูมฟาย ดั่งคนขาดเหตุผล

ดังนั้น เมื่อต้องสัมผัสเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกครั้ง ทำให้ระยะเวลาในการทำความเข้าใจสั้นลง เราจักแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

นี่แหละหนา "อุเบกขา" ดั่งที่ผู้เขียนหนังสือว่าเอาไว้

ขอบคุณประเด็นที่สงสัยครับ อาจจะตอบตรงใจบ้าง ไม่ตรงใจบ้าง ก็ขออภัยครับ ;)...

คุณ Blank ชลัญธร ใ้ห้เกียรติเกินไปครับ ไม่สามารถรับได้

ผมก็แค่คนชอบอ่านหนังสือแล้วเอามาเล่าให้ฟังเท่านั้นครับ หาใช่ความคิดเห็นของผมทั้งหมดไม่

ขอบคุณนะครับ ;)...

เห็นด้วยกับคำของแม่ท่านอาจารย์นพลักษณ์ ๙ Blank Sila Phu-Chaya ครับ

"หมดวาสนาต่อกัน" เห็นจะจริงที่สุดครับ

เมื่อทุกอย่างเริ่มต้น ดำเนินไป และสิ้นสุด เป็นสัจธรรม

เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

เขามาเกื้อกูลผม แล้วก็จากไปตามกาลเวลา

ขอบคุณมาก ๆ ครับที่เล่าเรื่องอดีตให้ฟัง ;)...

มาที่ไรก็อดใจไม่ได้ ต้องให้ดอกไม้ทุกที อ่านคำเขียนและกลอนเพียงไม่กี่ประโยค ก็เหมือนกับว่าได้อ่านหนังสือทั้งเล่ม

สวัสดีครับอาจารย์

ผมไม่ได้มาซะนานเลย อิอิ

ขอบคุณมากครับ ท่านอาจารย์ Blank ภูคา ;)...

สวัสดีครับ คุณครูเฉลิมศักดิ์ Blank ครูดอย ;)...

ยังอยู่โรงเรียนเดิม และยังสบายดีอยู่ไหม ;)...

สวัสดีค่ะอาจารย์ วันคล้ายวันเกิดคุณแม่ของอาจารย์ขออวยพรให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยทั้งปวง ค่ะ วันนี้เห็นหนังสือเล่มหนึ่งของอาจารย์ ที่คุณหมอ ป. บอกว่าเป็นแรงบันดาลใจให้เขียนและปฏิบัติ น่าชื่นใจเนาะๆ

ขอบคุณมากเลยครับ คุณครู Blank Rinda ;)...

แฟนคลับตัวจริง "ธนาคารความดี" เลยโดยนะครับ

...

อ่านหนังสือ คือวิธีการหนึ่งของการท่องโลกใบนี้

ตัวจริง เสียงจริง ทีเดียวครับ คุณ Blank แผ่นดิน ;)...

ทำอะไรอยู่ครับเนี่ย ;)...

ขอบคุณครับ คุณครู Blank เกษเกล้า ที่แวะมาเยี่ยม

  • มาแจ้งอาจารย์ว่า
  • มีว่าโปรแกรม turnitin อ่านว่า trrn-it-in  อันนี้ของม มหิดล ต้องมี password ครับ  

    อันนี้ของต่างประเทศครับ

    http://turnitin.com/

    ใช้ดูว่ามีการ copy ผลงานหรือไม่

ไม่มี PWW ก็ใช้งานไม่ได้นะครับ อาจารย์ Blank ขจิต ฝอยทอง ;)...

แต่ขอบคุณมากครับ ;)...

ผมอยู่โรงเรียนศูนย์ปางมะผ้าในโครงการตามพระราชดำริครับ ได้ สองปีแล้ว

ครูส่งลูกศิษย์ไปออกค่ายดีไหม คุณครูเฉลิมศักดิ์ Blank ครูดอย ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท