จดหมายถึงลูก "ภัคร + เพรียง" ฉบับที่ ๑๑


จดหมายถึงลูก "ภัคร + เพรียง" ฉบับที่ ๑๑

 

 

จดหมายถึงลูก "ภัคร + เพรียง" ฉบับที่ ๑๑

(ไปพักผ่อนที่เขื่อนภูมิพล ตอนที่ ๓)

 

 

ช่วงเช้าเวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น. ของวันที่ ๕ มิถุนายน

พ.ศ. ๒๕๕๕ น้องเพรียง + น้องอ้อม ได้เช่าเรือที่เหนือ

เขื่อนภูมิพล ออกไปตกปลากันที่เหนือเขื่อนภูมิพล...

แม่อยากจะบอกว่า..."นี่เป็นความรัก + ความสุขของหนู

(น้องเพรียง) เอาเสียจริง ๆ กับการที่ได้ตกปลา...เรียกว่า

"อาจจะรักการตกปลาเป็นชีวิตจิตใจเลยก็ว่าได้"

เพราะน้องเพรียงแตกต่างกับพี่ภัครเอาเสียมาก ๆ แม่ขอย้ำ

เพราะพี่ภัครไม่ชอบการเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อื่น ๆ

แต่น้องเพรียงชอบ ยิ่งการตกปลา น้องเพรียงชอบมาก ๆ...

 

 

น้องเพรียงลงทุนซื้อคันเบ็ดฝรั่งที่แม่ว่า ราคามันแพง

คันหนึ่ง ๆ ก็เกือบ ๆ ๕,๐๐๐ บาท เข้าไปแล้ว พอแม่ว่า...

น้องเพรียงก็บอกว่า นี่ยังราคาถูกนะแม่ คันละเป็นหมื่น ๆ

ก็มีนะ...แม่จะหัวใจวายตาย อะไรมันจะปานนั้น...น้องเพรียง

เตรียมมีคันเบ็ดหลายคัน แต่นำไปในครั้งนี้เพียง ๒ คัน...

คันเบ็ดยังไม่พอ แถมน้องเพรียง "บ้า" แม่ขอใช้คำว่า "บ้า" ๆ

ซื้อเหยื่อปลอม ซึ่งตัวหนึ่ง ๆ ราคาเป็นร้อย ๆ ขึ้นไป

บางตัวก็ราคาเฉียดพันบาท หนูมีเหยื่อปลอมเกือบ

๒๕ ตัวก็ว่าได้...แม่ถึงว่า...แม่จะหัวใจวายตาย

กับการที่หนูซื้ออะไรไม่รู้ (ในความรู้สึกของแม่)...

แต่น้องเพรียงบอกว่า "ก็เพรียงชอบนี่แม่"...

 

 

ก่อนหน้านี้ น้องเพรียงได้เบอร์โทร.ของเจ้าของเรือเช่า

เพื่อตกปลาทาง Internet แล้ว ตกลงกันว่าจะเช่าไปตกปลา

ราคาลำละ ๑,๕๐๐ บาท สำหรับน้ำมันน้องเพรียงต้อง

เตรียมไปต่างหากอีกประมาณ ๗๕๐ บาท ตกลงกันว่าวันนั้น

น้องเพรียงจะต้องเสียเงินให้กับเจ้าของเรือ ๒,๒๕๐ บาท...

 

 

น้าต้น (น้องเขย) บอกว่า ให้เพรียงลองไปดูก่อน ถ้าดี

น้าต้นจะไปร่วมด้วยในวันหน้า...เออ!!! เอาเข้าสิ ทั้งน้า

ทั้งหลาน ชอบตกปลา...

 

 

แม่ถามน้องเพรียงว่า น้องอ้อมว่ายน้ำเป็นหรือเปล่า?

น้องเพรียงบอกว่า "เป็น" ความจริงแม่ห่วง เพราะน้ำ

เหนือเขื่อนลึกมาก แถมมีคลื่นลมแรงยิ่งกว่าทะเลอีก...

แต่น้องเพรียงก็ไปกับน้องอ้อม...

 

 

น้องอ้อมกลับมาเล่าให้แม่ฟังว่า "หนูเปียกหมดเลยแม่

เพราะหนูนั่งกลางลำเรือ ส่วนเพรียงไม่เปียกเพราะนั่งที่

หัวเรือ...ลมแรง คลื่นก็ใหญ่มาก"...แม่ก็ว่าไปอีกว่า...

แล้วก็ยังอยากที่จะไปกันอีก...น้องอ้อมบอกว่า...

"แต่ก็สนุกดีแม่"...

 

 

 

อุปกรณ์ที่น้องเพรียงเตรียมกันไปเพื่อตกปลา...น้องเพรียง

บอกว่า "ปลาตัวมันเล็ก แม่ ตัวละประมาณ ครึ่งกิโลเห็นจะได้

ไม่โตหรอก เพราะพี่เขาบอกว่า ถ้าจะให้ได้ตัวโต ๆ

ต้องมานอน เขาจะพาไปในที่ที่ไกลกว่านี้"...ในความรู้สึก

ของแม่ว่า "เขาคงพาไปที่ที่แถวโรงเรียนเหนือเขื่อนฯ

ที่แม่เคยไปตรวจโรงเรียนตอนที่แม่ไปทำงานที่นั่นแน่ ๆ เลย

กว่าจะไปถึงที่นั่นก็เล่นเอาเกือบครึ่งวัน เรียกว่า

"ไกลมาก ๆ"...น้องเพรียงบอกว่า...

"ตาข่ายที่ดักปลา ช่องมันโตกว่าปลาของเพรียงอีกนะแม่"...

 

 

น้องเพรียงบอกว่า คราวหน้าอีกประมาณ ๒ เดือน

เพรียงจะไปอีก...เพราะมันสนุกดี...แล้วจะชวนน้าต้นไปด้วย

ต้องไปกันหลาย ๆ คน ถึงจะคุ้ม + สนุก ไปกัน ๒ คนกับอ้อม

ราคาเรือมันแพงด้วย แล้วก็ไม่คุ้มหรอก...

 

 

แม่ถามว่า แล้วปลาที่ตกได้เอาไปไว้ไหน...น้องเพรียงบอกว่า

"ปล่อยมันไปแล้ว เราตกเพื่อสนุก ๆ เท่านั้นเอง"

...เออ!!! หนอ เวร - กรรม...ตกมาแล้วก็ปล่อย

ดีมากลูก..."ค่าเรือตั้ง ๒,๒๐๐ กว่าบาทนี่นะตกปลาได้แล้ว

ก็ปล่อยไป...แม่ว่าเราไปซื้อปลาที่ตลาดมากินดีกว่ามั้ง

ไม่ต้องนั่งตากแดดออกไปตกมันหรอก...

แล้วน้องเพรียง + น้องอ้อม ก็หัวเราะกัน...

 

 

เป็นความสุขของหนูที่แม่ก็ไม่อาจขัดได้...การไปครั้งนี้

หนูเตรียมเงินไปเอง โดยที่ไม่ให้เดือดร้อนเงินของแม่เลย...

(น้องเพรียงเตรียมเงินไปในครั้งนี้ประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท)

 

 

 

 

ปลาที่ได้เป็นปลาชะโด แต่ตัวยังเล็กอยู่...

 

 

แม่ว่า...นิสัยของหนูกับพี่ภัครนี้ ผิดกันริบลับเลยทีเดียว...

พี่ภัครชอบ เรื่อง "ธรรมะ" การไม่ทำบาป

แต่น้องเพรียงตรงกันข้ามกันเสียจริง ๆ กับพี่ภัคร...

 

 

หนูบอกว่า..."ก็เพรียงชอบแบบนี้" แล้วแม่จะไปเถียงอะไร

ได้เล่า...เพราะคนเราเกิดมาชอบไม่เหมือนกัน...

 

 

 

แม่ว่า...ปลาก็ยังตาถั่วที่จะมากินเหยื่อปลอมของหนูอีก

ก็ได้แน่ะ...

 

 

บรรยากาศเหนือเขื่อนภูมิพล ก็ยังน่าเที่ยวเหมือนเดิม...

 

 

 

 

 

 

 

เจ้าฟ้าคราม + พ่อเพรียง

 

 

เจ้าฟ้าคราม + แม่อ้อม 

 

"ความสุขของครอบครัวเราอาจไม่เหมือนกับความสุข

ของครอบครัวคนอื่น...เสียงหัวเราะของครอบครัวเรา...

ใครจะสัมผัสได้เท่ากับครอบครัวของเรา..."

 

 อ่านจดหมายถึงลูกทุกฉบับ ได้จากที่นี่...

"จดหมายถึงลูก"

 

หมายเลขบันทึก: 490731เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 14:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2013 15:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)


"ความสุขของครอบครัวเราอาจไม่เหมือนกับความสุข
ของครอบครัวคนอื่น..." 

เป็นสิ่งที่เห็นด้วยนะคะ ใครจะคิดอย่างไรไม่รู้แต่เรามีความสุขตามประสาเรา เสียงหัวเราะของเราใครจะได้ยินและมีความสุขกับมันได้เหมือนเรา ไม่มี

  • ขอบคุณค่ะ คุณ Sibah Blank
  • เสียงหัวเราะของครอบครัวเรา ใครจะได้ยินและมีความสุขกับมันได้เหมือนเราไม่มีจริง ๆ ค่ะ...นี่คือ "ความสุขจากครอบครัวของเราค่ะ"...ความสุขที่ครอบครัวของเราสัมผัสกับมันได้...
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ...
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท