อาหารกับการจัดการโรคนอนไม่หลับ
โรคนอนไม่หลับคืออะไรข้อแนะนำพิเศษ
หากมีมักจะมีอาการเป็นตะคริวที่ขาบ่อย ๆ จนทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ ก็แนะนำให้รับประทาน Calcium และ Magnesium (อย่างละ 600 มิลลิกรัม) ก่อนนอนจะช่วยได้ดีทีเดียว
แต่หากทีอาการซึมเศร้า เบื่อ ๆ ตั้งแต่น้อยมากจนถึงปานกลาง และคิดว่าอาการดังกล่าวรบกวนจนนอนไม่หลับได้ แนะนำลอง St. John´s wort (450 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง หรือ 300 มิลลิกรัม วันละ 3 ครัง อย่างใดอย่างหนึ่ง) แต่ตัวนี้ต้องรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือนจึงจะเห็นผลอย่างชัดเจน นอกจากนี้ Chamomile จะมีฤทธิ์ทำให้ง่วงแบบอ่อน ๆ และยังช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้ดีอีกด้วย ดังนั้นเจ้า Chamomile จะช่วยให้คนที่มีอาการนอนไม่หลับ ง่วงและหลับได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปจะนิยมรับประทานเป็นแบบชงเป็นน้ำชา Chamomile ซึ่งมีวิธีชงคือ นำดอก Chamomile มา 2 ช้อนชา สำหรับน้ำ 8 ออนซ์ (250 ซีซี) ชงโดยวิธีใช้น้ำร้อนเทใส่ลงบนดอก Chamomile อย่านำไปต้มด้วยกันนะ รอสัก 5 นาที แล้วเทน้ำออกมาดื่ม ส่วนอาหารเสริมที่ได้แนะนำตั้งแต่แรก คือ 5-HTP, melatonin, valerian, GABA ยังไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย และก่อนรับประทานควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทาน และควรจะใช้สลับกันไป ไม่ควรใช้ตัวใดตัวหนึ่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ พยายามหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ และพยายามแก้ไขที่สาเหตุจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
มาฝากรอย น่าสนใจมาก ค่ะ
ปัจจุบัน มีคนสนใจที่จะทาน น้ำchlorophy (ที่เป็นน้ำสีเขียว) มาก อย่างรู้จังว่า มีคุณค่า หรือประโยชน์อย่างไรบ่างค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ส่วนใหญ่คนที่นอนไม่หลับจะเป็นคนสูงอายุ(ไม่อยากเรียกคนแก่)
คนที่นอนไม่หลับ หรือหลับไม่ลึก จะทำให้ต่อมใต้สมอง[Pituitary gland]ไม่สามารถหลั่งGrowth Hormone หรือ Human Growth Hormone หรือ HGH เข้าสู่กระแสเลือดมุ่งไปสู่ตับ เพื่อให้ตับปลดปล่อยสาร Insulin like Growth Factor 1 หรือ IGF-1ไปหล่อเลี้ยงเซลล์ทั่วร่างกาย จึงทำให้ร่างการอ่อนแอ ขี้โรค ป่วยเรื้อรัง แก่เร็ว ตายเร็ว(ตรงกันข้ามกับเด็กอ่อน)
วิธีแก้ คือกินอาหารที่ปลอดภัย มีคุณค่า หรือกระตุ้นด้วย HGH
(ทั้งหมด เป็นการลักจำมาครับ)