นโยบายด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเด็กอายุ ๐-๕ ปี ในประเทศไทย


 

          ผมไปประชุมคณะกรรมการชี้ทิศทางของ HITAP เมื่อวันที่ ๓๐ เม.ย. ๕๕   ไปพบเอกสาร รายงานผลการทบทวนนโยบายด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเด็กอายุ ๐ -๕ ปี ในประเทศไทย    นำไปสู่การค้นใน กูเกิ้ล พบว่ามีการประชุม การพัฒนานโยบายด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มเด็กอายุ ๐-๕ ปี ในประเทศไทยจัดโดย สสส. และ HITAP เมื่อ ๒๘ - ๒๙ ก.พ. ๕๕  เสียดายที่ค้นรายงานนี้ไม่พบใน อินเทอร์เน็ต

 

          จากเอกสาร และจากกำหนดการประชุม ที่มีรายชื่อและสังกัดของผู้เข้าร่วมเสนอข้อคิดเห็น   ทำให้ผมดีใจว่า เวลานี้มีกลไกให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากหลากหลายด้าน หลากหลายสถาบัน มาร่วมกันมองภาพใหญ่ ที่เป็นภาพเชิงระบบ   มีนักวิชาการด้านนโยบายหรือด้านระบบร่วมคิด   ทำให้มีการมองครบถ้วนรอบด้าน   และมองอย่างมีลำดับความสำคัญ

 

          ผมชอบข้อความในหน้า ๑ ของเอกสาร ที่ระบุว่า ทฤษฎีการสร้างเสริมสุขภาพของ Tannahill ระบุว่าการสร้างเสริมสุขภาพต้องมีทั้งการส่งเสิมสุขภาวะ และป้องกันทุกขภาวะ   และมี ๓ องค์ประกอบ คือ (๑) การให้สุขศึกษา  (๒) การคุ้มครองสุขภาพ ปกป้องประชากรด้วยเครื่องมือทางกฎหมาย ทางการเงินการคลัง และด้วยมาตรการทางสังคม  (๓) การป้องกันโรค  

 

          ผมตีความว่าบริการสร้างเสริมสุขภาพที่รัฐพึงจัดให้แก่ประชาชน ๓ องค์ประกอบนั้น   ส่วนที่ป้องกันทุกขภาวะจากสิ่งต่างๆ รอบตัวมีมากมาย   ซึ่งเด็กพึงได้รับความคุ้มครอง เพราะยังไร้เดียงสา ยังปกป้องตนเองไม่ได้   เช่นอันตรายจากขนมหวาน และขนมกรุบกรอบทั้งหลาย    จึงควรห้ามขายขนมกรุบกรอบ ห้ามขายน้ำอัดลม ในโรงเรียน เป็นต้น

 

          จากนโยบายที่ยกร่างกันในการประชุม ผมเดาว่าจะมีการดำเนินการป้องกันโรคที่ละเลยกันมานาน อย่างเป็นระบบยิ่งขึ้น เช่นโรคเลือดจางธาลัสซีเมีย  กลุ่มอาการ ดาวน์ เป็นต้น   ทำให้ประเทศไทยมีการลงทุนดำเนินการด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ที่มีผลดีต่อเด็กอายุ ๐-๕ ปี อย่างมีหลักการ และคำนึงถึงความคุ้มค่า

 

 

วิจารณ์ พานิช

๓๐ เม.ย. ๕๕

หมายเลขบันทึก: 490107เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 10:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 17:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท