มันเป็นเรื่องที่ต้องบันทึกไว้ในความทรงจำของคนที่เหลือกำ(ไม่เชื่อฟังคำพูด)ของญาติผู้ใหญ่มาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับเมื่อเข้าเรียนเขาเรียนอยู่ในแผนกวิทยาศาสตร์ ไม่มีความเชื่อเรื่องผีๆสางๆ เพราะถือว่ามันคือเรื่องโกหก มดเท็จกันชัดๆ
ต่อมาเมื่อโตขึ้นเข้าทำงาน มีอาชีพมีหน้าตา มีเกียรติยศในสังคมผู้คนนอบไหว้จนกระทั่งอายุเกือบจะหกสิบมะรอมมะร่อ
ตื่นขึ้นเช้ากำลังแปรงฟัน มีอาการมึนหัว อ้วกน้ำลายพุ่งกระจูด สายตามองเห็นคนเดียวกลายเป็นสามสี่คน พร่ามัว ล้มลง บรรดาลูกเต้าเหล่าภรรยาต่างรีบนำส่งโรงยาบาลเชียงราย หมอจะผ่าเอาเส้นเลือดฝอยออกเพราะมันคืออาการของความดันสูงเส้นเลือดฝอยแตก แต่คนใกล้ชิดบอกว่าอย่าเพิ่งผ่าสมองขอให้รีบส่งโรงพยาบาลสวนดอกจังหวัดเชียงใหม่โดยด่วน
รถหวอส่งเสียงหว้อ....หว้อ........จากเชียงรายผ่านภูเขาสูงสู่จังหวีัดเชียงใหม่เข้าโรงพยาบาลมหาราชสวนดอกบรรดาท่านหมอๆต่างรีบรับตัวเข้าสู่ห้องฉุกเฉินและผ่านเวลานานเกือบจะเสียชีวิต..ไม่รู้สึกตัวว่ามันอยู่กันที่ไหน..อย่างไร..
เพียงแต่เห็นชายร่างดำสองคนมาอยู่ที่ตรงหน้าใกล้ๆที่เขายืนอยู่.....ชายสองคนมีตาแดงก่ำ อยู่ริมบันไดกวักมือเรียกให้เขาไปหา แต่ขณะเดียวกันข้างบนไกลออกไปเบื้องหน้ามีหอปราสาทราชวังลอยอยู่บนก้อนเมฆไปมา..วนเวียนเพื่อให้เขากระโดดขึ้นไป...
ในใจเขาบอกตัวเองว่า หากกระโดดลงไปที่ต่ำมีชายสองคนกำลังกวักมือเรียกอยู่จะง่ายและสะดวกกว่า...การที่จะกระโดดสูงขึ้นไปบนปราสาท...
ทันใดเขาตื่นขึ้น...เห็นนางพยาบาลกำลังเช็ดเหงื่อไคค้าว(เหงื่อกาฬก่อนตาย)ที่ออกท่วมตัวเขา..ได้ยินพยาบาลพูดว่า "รอดแล้ว ตาขมิบแล้ว.."
เขาพยายามรวบรวมความรู้สึกทั้งหมดถามพยาบาลว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร...
พยาบาลจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง.....
หลังจากนั้นออกจากห้องฉุกเฉินมาพักอยู่ห้องพิเศษ..เขาเห็นภรรยาญาติพี่น้องและเพื่อนๆมารุมล้อมเยี่ยมไข้....
เขาเล่าเรื่องที่มีคนมากวักเรียกให้ผู้ที่มาเยี่ยมไข้ฟัง.....
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า "ดีแล้วที่ไม่ไปหาคนที่กวักมือเรียก...นั่นคือยมบาลแน่ๆ...ถ้ากระโดดลงไปตามมือกวัก ป่านนี้คงเป็นศพนอนในโลงไปแล้ว...
หลังจากที่เขาหายป่วยเขาบอกตัวเองว่า..ต่อไปนี้ต้องทำบุญสุนทานก่อนที่จะไปหายมบาลแท้จริง.....
เขาเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนฟังบอกให้ทุกคนว่านรก..สวรรค์มีจริง....จากที่ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องกรรมเวร..การเวียนว่ายตายเกิด...ภพชาติ....บัดนี้เขาเจอด้วยตนเองจึงกลับกลายเป็นคนละคนจากเมื่อก่อนเป็นนักวิทยาศาสตร์เต็มตัว....กลับเป็นคนเชื่อเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องเวียนว่ายตายเกิด
ประสบการณ์ย่อมทำให้คนเรียนรู้ด้วยตนเอง...มากกว่าการได้รับคำสอน...
ประสบการณ์ย่อมทำให้คนเรียนรู้ด้วยตนเอง.. มากกว่าการได้รับคำสอน.. เห็นด้วยค่ะ (ประสบการณ์.. เปลี่ยนพฤติกรรม)
สวัสดีเจ้าคุณระพี....
ยินดีเจ้าที่เข้ามาแว่อ่านและก้อ...ให้ความคิดเห็น....
คนเราอย่างที่เขาบอก..."ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตานั่นปะไรเจ้า..."
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา
ท่านชัดแนะนำ blog ของท่านน่ะค่ะ อ่านสนุกทีเดียว ทำให้ชลัญต้องติดตามตอนต่อไป
สวัสดีคุณชลัญธร..
ขอบคุณที่เข้ามาแว่อ่าน...ขอบคุณท่านชัดครับที่ยังคิดถึง...ผมก็คิดถึงพวกเราทุกคนว่างๆ..เชิญที่แหล่งเรียนรู้ผะหญาล้านนา..มีนำ้สมุนไพรให้ดื่มครับ
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา
ประโยคเด็ดโดนใจ "ประสบการณ์ย่อมทำให้คนเรียนรู้ด้วยตนเอง...มากกว่าการได้รับคำสอน..." ยินดีจ้าดนักเนอเจ้า
สวัสดีเจ้าคนต่างเมือง.....
เมินนานนักหนาที่บ่ได้พบกันเกือบเป็นปีละเน้อ....
ยินดีเจ้าที่เข้ามาแว่อ่านหากมีเวลาว่างก็เข้ามาอ่านแถมเน้อเจ้า.....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
สวัสดี แถมเตื้อ เจ้าอาจารย์ นิคมเจ้า ถ้าจะเป๋นดังคำสอน ของครูบาอาจ๋าแต้ๆ เลยเจ้า คนเหืลอกำสั่งสอนของ ป้อ แม่ ปู่ ย่า ต๋า ยาย ตึงบ่าดี ตอ้งได้ประสบกับตั๋วเก่า ถึงจะเจื่อ เหมือนกำตี่ว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งนํ้าตา แม่นก่อเจ้า อาจ๋านเจ้า ขอขอบคุณนักๆเจ้า ตี๊มีเรื่องดีๆ เป็นอุทาหรณ์สอนใจ๋ มาฮื้อได้อ่านกั๋น แล้วจะแว่เข้ามาอ่านบ่อยๆเจ้า ลูกศิษย์ ปี 1 เจ้า
สวัสดีเจ้าคุณอรุณ.....
หากมีประสบการณ์นำมาเล่าสู่กันฟังก็จะมีความรู้หลากหลาย....ขอพวกเราช่วยกันเล่าสิ่งที่มีคุณค่าเจ้า....
้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา