466. "กีต้าร์" "KM" และ "สุนทรียสนทนา"
วันหนึ่งขณะไปรอลูกสาวเรียนเปียนโน..ก็หยิบเอกสารดนตรีของยามาฮ่า มาดู..น่าสนใจครับ เขาบอกว่า..."มีช่วงหนึ่งยามาฮ่า อยากปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานโลก..เลยเชิญผู้เชี่ยวชาญการทำกีต้าร์ระดับโลก มาทำงานที่ยามาฮ่า ญี่ปุ่นกว่า 6 เดือน โดยมาร่วมผลิต ทำงานร่วมกัน..ที่สุดยามาฮ่าก็สามารถยกระดับการผลิตขึ้นมาในระดับโลกได้...เพราะได้ครูดี..."...
ยังไม่พอครับ..พอได้กีต้าร์ดี..ก็เอาไปให้นักเล่นกีต้าร์ที่ดังระดับโลก เป็นชาวสเปน ลองเล่นดู ท่านก็ชอบ..ยามาฮ่า เลยขอให้ท่านใช้กีต้าร์ยามาฮ่าเล่นคอนเสิร์ต นี่แหละครับ..ยามาฮ่าเลยยกระดับตัวเองไปในระดับโลก...
.....
เห็นการทำ KM อย่างคนณี่ปุ่นไหมครับ...ไม่ใช่แค่เชิญวิทยากรระดับโลกไปสอนไปทำ workshop สั้นๆ ว่าทำอย่างไรจะผลิตกีต้าร์ได้ดีที่สุด...เอามาทำงานร่วมกันเลย..ระยะเวลาสั้นๆ...เพราะความรู้บางอย่าง..โดยเฉพาะความรู้ฝังลึก (Tacit Knowledge) บางครั้งพูดออกมายังไง ก็สู้ใช้เวลาสังเกตเอา หรือสอนกัน จับมือกันทำไม่ได้หรอกครับ...มาสร้างสรรค์ร่วมกันเลยดีกว่า (Co-creation หรือโค ครีเอชั่น)
.....
ผมเห็น และพบประโยชน์ในเรื่องนี้กับตัวเลยครับ..ผมมีพี่เพื่อนน้องที่เป็นวิทยากร และนักพัฒนาองค์กร (OD Consultant โอดีคอนชัลแตนท์)...หลายครั้งมีโอกาสไปสอน ไปเป็นที่ปรึกษาร่วมกัน...แต่ความที่ต่างคนต่างยุ่ง..ก็ประมาณว่ามาถึงก็แปะมือกันต่อ แทบไม่เคยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าใครทำอะไรเลย..รู้คร่าวๆแต่ว่า..พี่คนนี้เก่งเรื่องนี้ ทำโอดีแนวนี้..อีกคนเทพตรงนั้น...
....
มีวันหนึ่งรุ่นพี่ผมมาสอนโอดีที่ขอนแก่น..ผมเลยไปหาพี่เขาแต่เช้า เนื่องจากเป็นเจ้าบ้าน..แล้วผมก็ได้คุยทักทาย...ผมจะสอนต่อราวๆ 11 โมง..ผมก็เลยนั่งรอ..เลยถือโอกาสฟังพี่เขาบรรยายไปเลย..จะได้รู้อะไรมากขึ้น..ท่านพี่สอนมาหลายเรื่องครับ..แต่เรื่องสุดท้าย วันนั้นที่เขาทำ workshop เรื่อง Gen X Gen Y ประมาณว่าในนั้นก็มีคน Gen X Gen Y ...ประมาณว่าต่างปวดหัวกัน ไม่เข้าใจกันเลยว่าทำไมคนรุ่นนี้คิดอย่างนั้น คนรุ่นนั้นคิดอย่างนี้...และมาถึงฉากเด็ด..ท่านพี่บอกว่า คน Gen X Gen Y ต้องการอะไร...
.jpg&w=500&h=351&ei=2sjKT96hIMKzrAeP6ajCDg&zoom=1&iact=hc&vpx=1115&vpy=161&dur=1084&hovh=188&hovw=268&tx=173&ty=90&sig=113485936495146710537&page=1&tbnh=144&tbnw=205&start=0&ndsp=19&ved=1t:429,r:5,s:0,i:80)
....
ผมมองไปในฟลิบชาร์ต..เจอกับตาเลยครับ..."อยากให้ฟังเขามากกว่านี้"
....
นี่เลยผมปิ๊ง...ผมสอน Dialogue (สุนทรียสนทนา) นอกเหนือจาก AI อยู่แล้ว..ผมเชื่อมได้เลยครับ...
....
เมื่อพี่ท่านสอนจบ ผมก็ต่อเลยครับ..ว่า.."เห็นไหม..Gen X GenY ล้วนแต่ต้องคนฟังเขา" เดี๋ยวต่อเลย..ผมเลยสอนสุนทรียสนทนาต่อ...เพราะการทำสุนทรียสนทนาได้ คุณต้องฟัง..แบบไม่ตัดสิน คือห้อยแขวนเป็นปัญญาจะเกิดเอง...หลังฝึก Dialogue เสร็จ..พอสะท้อนผล..ทุกคนชอบมากๆ..
....
ที่สุดผมเลยขมวดปมครับ..ว่า...คนเราจะ GenX Gen Y ไม่ต้องกลัวครับ..เจอความท้าทายคนต่างวัย..ทำ Dialogue เลยครับ..และถ้าทุกคนทำ Dialoge เป็นจะเกิด Gen ใหม่..อะไรหล่ะ "Gen L ไง"...อาจารย์เป็นไงหล่ะ คืออะไร.."Gen Listener" หรือคนรุ่นนักฟังครับ.."มนุษย์เราฟังไม่เป็น ก็จะคุยไม่เป็น เข้าใจไม่เป็น อยู่กันไม่เป็น..ไงครับ..มาช่วยกันละลาย Gen X GenY ให้เป็น Gen L กันเถอะ..."
....
ที่สุดจากการได้ทำงานร่วมกันกับท่านพี่..ผมได้แนวทางทำงานร่วมกับท่านพี่ในอนาคต..
....
คล้ายๆกับยามาฮ่าไหมครับ...
....
สรุปเรื่องราวได้ดังนี้
1. ที่สุดแล้วการทำ KM ก็ไม่ได้จำกัดแค่คนในองค์กร หรือคนเหมือนๆกันนะครับ เอาคนนอกก็ได้...
2. การทำ KM สามารถใช้การทำงาน หรือการสร้างสรรค์ร่วมกัน นอกเหนือจากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรือเชิญวิทยากรเก่งๆมาบรรยาย
จริงแล้ว Takeuchi และ Nonaka ก็ได้สรุปไว้แล้วครับในทฤษฎี The Theory of Organizational Knowledge Creation เรื่องที่ผมตั้งข้อสังเกต ไม่แปลกไปจากทฤษฎีนี้ครับ...
....
ขอให้มีความสุขกับการทำ KM นะครับ
ความเห็น (1)
ขอบคุณค่ะ "ช่วยกันละลาย Gen X GenY ให้เป็น Gen L" ท้าทายดีนะคะอาจารย์