เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๕ สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพรร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอปะทิวจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดับอำเภอ (DW)ครั้งที่ ๒ ณ ห้องประชุมสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาก็เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน ในต่อละพื้นที่ที่รับผิดชอบ และเป็นการพัฒนางาน เพื่อเป้าหมายผลสัมฤทธิ์ของงานอันเป็นภารกิจขององค์กร ในการจัดครั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วยนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร เจ้าหน้าที่ธุรการ หัวหน้ากลุ่ม / ฝ่าย เกษตรอำเภอ พนักงานราชการ รวมผู้เข้าสัมมนาทั้งหมด ๙๐ คน
การจัดกิจกรรมทีมงานได้ให้มีการเปิดงานเป็นทางการเล็กน้อยโดยการกล่าวต้อนรับของผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร และเปิดการสัมมนาโดยนายเกรียงศักดิ์ พรหมเกิดทอง รักษาการเกษตรจังหวัดชุมพร
จากนั้นก็เป็นการทบทวนแนวทางการจัดการความรู้ สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ปี ๒๕๕๕ โดยนายประสงค์ บุญเจริญ
แล้วจัดให้มีการแบ่งกลุ่มการแบ่งกลุ่มในการจัดครั้งนี้ทางทีมผู้จัดก็พยายามจัดบุคลากรที่อยู่หน้างาน ผู้รับผิดชอบงานนั้นๆอยู่ในกลุ่มเดียวกัน โดยแบ่งเป็นกลุ่มระบบข้อมูลสารสนเทศ กลุ่มศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน กลุ่มศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง กลุ่มผลิตไม้ผลนอกฤดู
กลุ่มระบบข้อมูลสารสนเทศ
KA: ระบบข้อมูลการเกษตร
ปัญหาของข้อมูล
๑.ข้อมูล ทบก และ รต ไม่สอดคล้องกัน
๒.ข้อมูล ทบก ไม่เป็นปัจจุบัน
๓.เกษตรกรไม่ให้ความร่วมมือในการขึ้นทะเบียน
๔.นิติบุคคลไม่ขึ้นทะเบียน เช่น บริษัทปาล์มน้ำมัน
๕.เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ สับสนในการปฏิบัติ
๖.ขาดความร่วมมือจากผู้นำชุมชน เช่น อบต ผญบ กำนัน
๗.ผู้บริหารไม่ยืนยันข้อมูลว่าถูกต้อง ชอบยอมรับว่าเป็นข้อมูลที่ต้องแก้ไข
สาเหตุของปัญหา
๑.เกษตรกรไม่ให้ข้อมูลตามจริง
-ผู้ให้ข้อมูลไม่ใช่คนเดิม
-อายุมากจำไม่ได้
-กลัวเสียภาษี
-บุกรุกป่า
๒.กระบวนการและระยะเวลาเร่งด่วน
๓.เกษตรกรไม่เห็นความแตกต่างในการช่วยเหลือของรัฐ ระหว่างเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับไม่ขึ้นทะเบียน
ข้อเสนอแนะ แนวทางการแก้ไข
๑.ปรับปรุงข้อมูลทั้ง ๒ ระบบให้สอดคล้องกัน
๒.ผลักดันให้มีกฎหมายรองรับการขึ้นทะเบียนเกษตรกร
๓.ให้ส่วนท้องถิ่นเห็นความสำคัญกับภารกิจถ่ายโอน
๔.จัดทำข้อมูลรายพืช (ชนิดพืช)
๕.ให้อำเภอยึดข้อมูลหลักจากทะเบียนเกษตรกร ทบก ๐๑ และปรับ รต ให้อดคล้องกัน
๖.ทบทวนบทบาทของ ศบกต อกม และสภาเกษตรกร ในการร่วมกันทำงานกับเจ้าหน้าที่
๗.ให้ยืนยันขอมูลของสำนักงานเกษตรจังหวัดว่ามีความถูกต้องเนื่องจากมีหลักฐานสามารถพิสูจน์ได้
กลุ่มศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน
KA: การบริหารจัดการศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน
ประเด็นที่ ๑ การบริหารงบประมาณ ในปี ๒๕๕๕ ในการจัดทำแปลงต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าวและการกำจัดศัตรูมะพร้าวอย่างครบวงจร มีงบประมาณอยู่จำนวน ๓๒๐๐๐ บาทต่อแปลงที่ควรจะปรับเปลี่ยนเนื่องจากกิจกรรมที่ระบุในโครงการจากส่วนกลางไม่เหมาะสมกับจังหวัดชุมพร เช่น ค่าพันธุ์มะพร้าว ค่าตัดทางใบมะพร้าว ค่าฉีดพ่นสาร Bt โดยในกลุ่มมีแนวคิดร่วมกันจะนำงบประมาณในส่วนนี้ไปดำเนินการจัดทำนิทรรศการศัตรูมะพร้าว การจัดทำป้ายแปลง และหารือเกษตรกรเจ้าของแปลงต้นแบบจัดทำกิจกรรมอื่นที่มีความเหมาะสม เช่น ปลูกพืชแซมในสวนมะพร้าว การเลี้ยงผึ้ง การสาธิตการกำจัดด้วงแรด หรืออาจจะทัศนศึกษาในกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมะพร้าว
ประเด็นที่ ๒ การบริหารโครงการ เรื่องการคัดเลือกสถานที่ในการจัดตั้งศูนย์ ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขโครงการ รวมถึงสมาชิกกลุ่มต้องมีความสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ และมีการประกอบอาชีพเดียวกัน
ประเด็นที่ ๓ เรื่องเล่าประสบการณ์
พี่นิวัฒน์ ย้อยสวัสดิ์ มีประสบการณ์ในการเลี้ยงแตนเบียนซึ่งดำเนินการโดยศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน พบว่าเกิดความล้มเหลวเนื่องจากไม่มีค่าตอบแทนผู้เลี้ยง ไม่มีใครซื้อ โดยมีการเสนอว่าให้สมาชิกกลุ่มเลี้ยง แล้วให้ อบต ตั้งงบในการจัดซื้อ
พี่อารีย์ จักรมานนท์ จากการดำเนินงานศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน พบว่า ขาดแรงจูงใจ ทำปีเดียวเลิก อุปกรณ์เครื่องมือไม่พร้อม
กลุ่มศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง
KA: การพัฒนาศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียง
ประเด็นที่ ๑ Show ผลงาน
การพัฒนาคนอื่น พัฒนาตนเองก่อน การพัฒนาศูนย์เรียนรู้สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพรได้มอบหมายให้ทุกสำนักงานเกษตรอำเภอได้ดำเนินการในหน่วยงานให้เกษตรกรได้เห็น (ทำให้ดู)ในวันนี้ก็ได้นำผลงานมา Show กัน
๑.สำนักงานเกษตรอำเภอท่าแซะ ปลูกมะนาวในท่อซิเมนต์รอบสำนักงาน ปลูกผักในล้อยางรถยนต์ เลี้ยงปลาในสระรอบสำนักงาน
๒.สำนักงานเกษตรอำเภอปะทิว แปลงผักหลังสำนักงาน มีผักรับประทานทุกฤดูกาล
๓.สำนักงานเกษตรอำเภอละแม ปลูกผักสวนครัวรอบสำนักงาน
๔.สำนักงานเกษตรอำเภอทุ่งตะโก สร้างสวนปาล์มบริเวณใกล้ๆสำนักงาน
๕.สำนักงานเกษตรอำเภอหลังสวน แปลงผักและไก่พื้นเมือง ดำเนินการศูนย์เรียนรู้ฯที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงาน ได้แก่ ศูนย์เรียนรู้ท่ามะพลาโมเดล ศูนย์เรียนรู้ (มนูญ นาคกล่อม) ศูนย์เรียนรู้ตำบลวังตะกอ ศูนย์เรียนรู้ตำบลบ้านควน
๖.สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร บริเวณสำนักงานมีสวนผัก บริเวณบ้านพักมีสวนครัว เก็บกลับไปรับประทานที่บ้านได้
ประเด็นที่ ๒ ผลที่ได้รับจากการดำเนินการศูนย์เรียนรู้
๑.เกิดความร่วมมือร่วมใจของเจ้าหน้าที่
๒.นำผลผลิตมาประกอบอาหารกลางวันรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน
๓.เกิดความมั่นใจ ปลอดภัยในการบริโภคผักที่ปลูกเอง
๔.เป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานของผู้ที่สนใจ
ประเด็นที่ ๓ แนวทางการพัฒนา
๑.เพิ่มกิจกรรมในศูนย์
๒.ช่วยกันทำ ช่วยกันหานำมาปลูก
๓.ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
๔.นำมาเล่าในครั้งต่อไป
กลุ่มพัฒนาระบบการกระจายการผลิต
KA: การผลิตมังคุด ลองกอง นอกฤดู
ขั้นตอนการปฏิบัติในจากประสบการณ์เขตพื้นที่จังหวัดชุมพร
๑.การเตรียมความพร้อมหลังการเก็บเกี่ยว หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตเดือนสิงหาคม –กันยายน เรียบร้อยแล้วให้ทำการตัดแต่งกิ่งแล้วใส่ปุ๋ย สูตร ๑๕-๑๕-๑๕ หรือ สุ๖ร ๑๖-๑๖-๑๖ (๒ กก/ต้น)หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก (๒๐-๓๐ กก/ต้น)หรือโดลไมท์ (๒ กก/ต้น) ใช้สารเร่งทางใบ ไทโอยูเรีย (๔๐๐ กรัม) +น้ำตาลกลูโคส (๒๐๐ กรัม)+น้ำ ๒๐๐ ลิตร ฉีดพ่นในช่วงเย็น
๒.การสะสมอาหารให้ใบแก่ โดยใช้ปุ๋ยสูตร ๐-๕๒-๓๔ (๕๐๐-๖๐๐ กรัม)+กรดอะมิโน (๒๐๐ กรัม) ผสมน้ำ ๒๐๐ ลิตร ฉีดพ่นทางใบ พร้อมใส่ปุ๋ยทางดินสูตร ๘-๒๔-๒๔ (๒ กก/ต้น)
๓.การกระตุ้นการออกดอก ใช้สาหร่ายสกัดสูตรเข้มข้นฉีดพ่น
๔.การจัดการผลผลิตให้ปุ๋ยทางใบสูตร ๑๓-๐-๔๖ (๑ ลิตร ผสมน้ำ ๒๐๐ ลิตร) พร้อมใส่ปุ๋ยทางดินสูตร ๘-๒๔-๒๔ (๒ กก/ต้น) หมั่นสำรวจศัตรูพืช ป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดง
ไม่มีความเห็น