ท่านผู้อ่านบางท่านคงสงสัยว่า GMS คืออะไร GMS มาจากคำว่า Greater Mekong Sub region คือประเทศที่มีพรหมแดนติดแม่น้ำโขง
- ไทย
- พม่า
- ลาว
- เวียดนาม
- กัมพูชา
- จีน
สำหรับประเทศไทยเมื่อมีโครงการเกี่ยวกับ GMS จะมีประเทศจีนเพราะมีพรมแดนติดกับจีน มณฑลกวางสีและมณฑลยูนาน
แต่บางประเทศเช่น ญี่ปุ่น GMS จะไม่นับจีนเพราะคิดว่าจีนเป็นมหาอำนาจแล้ว
คนไทยและผู้ที่อ่านข่าวของผมคงจะต้องให้ความสนใจ เรื่อง GMS มากขึ้นในทุกๆมิติ
กิจกรรมที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยตั้งแต่วันเสาร์ที่ 19 – 28 พฤษภาคม 2555 คือ การประชุมนานาชาติ ครั้งที่ 3 เรื่อง พลังงานสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อความร่วมมือกันใน GMS
ขอรายงานความคืบหน้า หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ผมขอขอบคุณแนวหน้าที่เป็นหนังสือพิมพ์ที่กรุณาให้พื้นที่ดีๆ เพื่อผู้อ่านจะได้ทราบและคิดต่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้กระทบคนไทยอย่างไร?
การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายซึ่งจัดที่เมืองไทยเป็นปีที่ 3 ได้รับการสนับสนุนจาก Human Resources Development Bureau Thailand International Development Cooperation Agency (TICA) กระทรวงต่างประเทศ
ครั้งที่ 1 ปี 2010 จัด 6 วัน ผู้แทนทั้ง 6 ประเทศ มาจัดหลักสูตรร่วมกัน (Training needs) ว่าจะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในด้านการพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างไร
ต่อมาปี 2011 เน้นการเรียน ดูงาน ทำ Workshop ร่วมกัน อีก 20 วัน, โดยดูจากความต้องการปีที่ 1
ครั้งนี้ ปี 2012 มี 3 ช่วง 5 วันแรกเรียกว่า Pre – Conference คือ ไปอยู่ที่นครนายก ศึกษาดูงานเรื่อง สิ่งแวดล้อมมากหน่อย ปัญหาภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมและปัญหาการบริหารจัดการในระยะยาวอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องขอขอบคุณ ดร.สุรชัย ศรีสารคาม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายกที่กรุณาให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานช่วงแรก ได้กล่าวต้อนรับอย่างสมเกียรติ
นครนายกเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่มีแนวโน้มว่าจะเป็น Green Province น่าอยู่มากจึงเหมาะกับการเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้นยังได้ดูงานโครงการพระราชดำริการเกษตรแผนใหม่ที่เน้นความยั่งยืนเป็นหลัก ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการพัฒนาใน GMS ในระยะยาวต้องใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและลดภาวะโรคร้อนให้ได้
พิธีเปิดอย่างเป็นทางการที่กรุงเทพฯ ช่วงที่ 2 ซึ่งแต่ละประเทศได้นำเสนอ (Country Report) ข้อสรุปต่างๆที่ประเทศเหล่านี้ได้เรียนรู้จากการเข้าร่วมการประชุม 3 ปี ติดต่อกัน เพื่อความร่วมมือทำงานร่วมกันในอนาคต
พิธีเปิดสมเกียรติมากเพราะ ฯพณฯพลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรีได้กรุณาให้เกียรติมากล่าวเปิดและทักทายอย่างเป็นเกียรติกับผู้แทนทั้ง 6 ประเทศอย่างเป็นกันเอง
งานของผมเป็นการทูตภาคประชาชน ต้องสร้าง
- Trust (ความไว้เนื้อเชื่อใจ)
- ความเสมอภาค (equality)
- การมีผลประโยชน์ร่วม (Mutual Benefit)
ปัญหาใหญ่ของชาติคือ รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์และโดยเฉพาะรัฐมนตรีฯทั้งหลายไม่ให้ความสนใจทำงานที่สร้างความเข้าใจระหว่างประเทศ รัฐมนตรีฯชุดนี้ทำงานเพื่อส่วนรวมไม่เป็น และทำงานเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอ่อนหัดมากๆ บางคนไม่มีประสบการณ์การเมืองและการทูตระหว่างประเทศ
บางคนไม่เข้าใจว่ารัฐบาลต้องทำงานต่อเนื่อง ต้องให้เกียรติแขกที่มาเยี่ยมประเทศเรา ส่วนมากจะสนใจแค่ ดูแลคุณทักษิณ บางคนสนใจที่จะหาผลประโยชน์เพื่อประชานิยม บางคนขาดมารยาททางการทูต รัฐบาลทักษิณมีรัฐมนตรีฯตกต่ำสุดขีด ไม่มียุคไหนตกต่ำเท่า ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถ้าผมไม่พบด้วยตัวเองก็จะไม่ทราบว่ามีรัฐบาลฯเพื่ออะไร จึงรายงานให้คนไทยได้รับทราบ ทั้งนี้ประเทศไทยคงต้องพึ่งพา
-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
- องคมนตรี
- ข้าราชการดีๆ (มีไม่มาก)
- และนักวิชาการ (ที่มีคุณธรรมและมีความรู้)
- ภาคประชาชน
- สื่อบางกลุ่ม
ไม่มีความเห็น