KM00101 : บัตรประชาชนในฝัน (บ้าง)
ในชีวิตผมเกินครึ่งทางของชีวิตการทำงานพัวพันอยู่กับบางส่วนของบัตรประชาชน แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด นั่นคือเลข ๑๓ หลัก ที่อยู่บนบัตรประชาชน เชื่อกันว่าเลข ๑๓ หลัก เป็นเลขที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละคน (UNIQUE) แต่บางครั้งก็พบว่า ๑ คนมีเลข ๑๓ หลักมากกว่า ๑ เลข ด้วยประโยชน์ของเลข ๑๓ หลักนี้ มันจึงถูกนำมาใช้ในการ "ระบุตัวบุคคล" ในการเก็บข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงใช้ในการ "เชื่อมโยง" ข้อมูลต่างๆ ของบุคคลนั้นเข้าด้วยกัน เราไปโรงพยาบาลก็ถามเลข ๑๓ หลัก ไปธนาคารก็บันทึกเลข ๑๓ หลักเรา ใบขับขี่ก็มีเลข ๑๓ หลักเราบนบัตร แม้แต่เลขประจำตัวผู้เสียภาษีบุคคลก็เปลี่ยนมาใช้เลข ๑๓ หลัก และยังหน่วยงานของรัฐและเอกชนอื่นๆ อีกมากมายที่เก็บข้อมูลเลข ๑๓ หลักของเรา
ที่กล่าวมาทั้งหมดคือ ข้อดี ของการมีเลข ๑๓ หลัก บนบัตรประชาชนของเรา คำถามคือ แล้วทำไมต้องมีหลายบัตร? ทำไมไม่ใช้บัตรประชาชนแทนใบขับขี่ ทำไมไม่ใช้บัตรประชาชนแทนบัตร ATM ทำไมไม่ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรโรงพยาบาล ทำไม......ทำไม...... มันน่าจะสะดวกขึ้นใช่ไหมครับ
โดยส่วนตัวผมจึงอาจเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบางเรื่อง ถ้าในเรื่องของความ "สะดวก" ที่กล่าวมาข้างต้นผมเห็นด้วย แต่อาจเป็นผมเพราะดูหนังฝรั่งมากไป เห็นหลายต่อหลายเรื่อง หากรู้เลขอะไรซักอย่างที่ "ระบุตัวบุคคลได้" ก็สามารถรู้แทบทุกเรื่องของคนๆ นั้น ถามว่าในชีวิตจริงเป็นไปได้ไหมครับ ต่อว่า "อาจได้" แต่อาจจะไม่ OVER เหมือนในหนัง ขนาดเรามีบัตรประชาชนแยกกับบัตร ATM ก็ยังมีคนโดนหลอกให้ไปกดเงินโอนให้ได้ เราอาจจะบอกว่าเป็นเรื่องคนที่ไม่ระวังตัวเอง แต่ลองคิดดูดีๆ ซิครับ เพราะมันแยกกันคนละบัตร "มิจฉาชีพ" จึงต้องมีขั้นตอนมากมายมาหลอกล่อ แต่หากเป็นบัตรเดียวกันล่ะครับ ก็อาจมีคนตอบอีกว่าก็ใส่รหัสเข้าไปก่อนกดอยู่แล้วนี่ แต่อย่าลืมว่าบนบัตรประชาชนมีข้อมูลที่ระบุตัวบุคคลอยู่บนบัตร หากตกไปอยู่ในมือใคร การเดาเรื่องรหัสผ่านก็ง่ายขึ้นอีกนิด คำถามคือ บ้านเรามีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดีหรือยัง?(ขนาดเบอร์โทรศัพท์ได้มาใหม่ ไม่เคยบอกใคร ผมยังเคยโดนโทรมาหาแถมระบุชื่อได้ถูกต้องด้วย)
ผมกลับไม่ค่อยคิดเรื่องการรวมหลายๆ บัตรมาใช้ในบัตรเดียว ในตอนนี้ เพราะหากทำเช่นนั้นได้ ต้องมีระบบหรือมาตรการการป้องกันข้อมูลที่ดีทีเดียว หรือบางทีอาจต้องแก้กฏหมายหรือไม่ จะเกิดอะไรขึ้นหากบัตรประชาชน ใบขับขี่ และ ATM เป็นบัตรใบเดียวกัน โชคไม่ดีวันนั้นจะออกไปกดเงิน โดนตรวจและยึดใบขับขี่ (จะด้วยข้อหาอะไรผมไม่ทราบ) ทีนี้ล่ะครับ เรียกว่า "งานเข้า" ได้เลย บางคนก็บอกว่าดีจะได้ระวังมากขึ้นในการเคารพกฏจราจร แต่อย่าลืมนะครับว่าบ้านเราเป็นยังไง
สิ่งที่ผมอยากเห็นมากที่สุดสำหรับ "บัตรประชาชนในฝัน" คือ "มีข้อมูลที่จำเป็นบนบัตร" ครับ ต้องย้ำนะครับว่าบนบัตร ไม่ใช่ในชิพ (Chip) เช่น หมู่เลือด ยาที่แพ้ (ถ้ารู้) ถ้าเป็นเด็ก (ตอนนี้ ๗ ขวบต้องทำบัตรประชาชนแล้ว) ก็น่าจะมีชื่อพ่อแม่ผู้ปกครอง (ผมเห็นด้านหลังยังมีที่ว่างอีกเยอะ ไม่แน่ใจว่ากฎหมายระบุให้หลังบัตรประชาชนต้องมีที่ว่างๆ หรือเปล่านะครับ ใครทราบช่วยบอกหน่อย และก็สงสัยว่าเวลาถ่ายเอกสารทำไปต้องถ่ายหลังบัตรไปด้วย) ส่วนเบอร์โทรศัพท์อาจเปลี่ยนกันบ่อยเลยคิดว่าไม่จำเป็น
และสุดท้ายอยากให้บัตรประชาชนในฝัน เป็นของประชาชนครับ เพราะจัดซื้อด้วยภาษีประชาชน อย่าให้ใครมาใช้ประโยชน์จากการที่คน ๖๐ กว่าล้าน ต้องมีบัตรมากกว่า ๖๐ กว่าล้านใบครับ (เพราะต้องเปลี่ยนและหายกันตลอดเวลา) วันนี้ดูหนักไปหน่อย ไม่ค่อยใช่แนวผม ขอบคุณครับ
ความเห็น (2)
เห็นด้วยในหลายสิ่ง และก็เห็นด้วยในเรื่องของการแยกธุรกรรมทางการเงินออกมาต่างหาก แต่ลักษณะข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคลในด้าน สำมโนครัว ประวัติทางการแพทย์ที่สำคัญ ใบขับขี่ แบบนี้น่าจะมีจัดเก็บลงไปที่บัตรนั้นเลย เรื่อง Blood group ผมไม่คัดค้าน อิอิ ที่จริงน่าจะเพิ่มรายละเอียดพวก Rh group ลงไปด้วยยิ่งดี แค่ไม่กี่ตัวอักษรเอง ส่วนเรื่องการแพ้ยา อันนี้ผมยังไม่เห็นด้วยมากนักครับ แต่ถ้าเป็นการแพ้สารชนิดอื่นๆ เช่น แพ้กุ้ง แพ้ถั่ว แบบนี้ยังพอเข้าท่า ที่ยังไม่ค่อยเห็นด้วยกับเรื่องการแพ้ยาเพราะ มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยแพ้ อาจจะแพ้ จากที่แพ้ กลับไม่แพ้ ซะแล้ว ก็เป็นไปได้
เห็นภาพเลยครับน่าจะมีหมวดหมู่ของบัตรว่าเป็นบัตรในหมวดใหนแต่ถ้าใช้ 13 หลักเฉพาะหน้าบ้านคือ 13 หลักแต่หลังบ้านอาจจะเชื่อมโยงกันแค่บางรายการ ต้องเน้นการควบคุมระดับการเข้าถึงของระบบงานทะเบียนราฏษ์ เพราะข้อมูลเชิงลึกมันเป็นความมั่นคงของประเทศ ไปโน่นเลยครับ ไม่รู้จะคิดมากไปหรือเปล่า อิอิ