หมออนามัย เรื่องจริง..ในความทรงจำ 4


หมออนามัย เรื่องจริง..ในความทรงจำ 4

นายอานนท์ ภาคมาลี นักวิชาการสาธารณสุข ชำนาญการ

 

เรื่องจริง..ในความทรงจำ ยายกลม อายุประมาณ 72 ปี อยู่หมู่บ้านหนองผำ หมู่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ยายกลมจะออกจากบ้านแต่เช้ามืดทุกๆวัน บางวันยายจะไปหาเก็บถ่านในป่าแถวภูเขาห่างจากบ้านประมาณ 2-3 กิโลเมตร จากเตาถ่านที่มีคนเผาและเก็บไปแล้วเศษเหลือเขาทิ้งเพราะเป็นก้อนเล็กๆ เพื่อนำมาไว้ใช้หุงอาหาร บางวันยายกลมไปตกเบ็ดในสระน้ำที่ห่างจากบ้านประมาณ 2-4 กิโลเมตร ยายจะไปอย่างนี้มาตลอด 30 กว่าปี พร้อมกับบางวันยายกลมจะมาหมอที่สถานีอนามัยโป่งก้อนเส้า ซึ่งระยะเดินทางจากบ้านมาสถานีอนามัยฯเป็นระยะทางมากกว่า5 กิโลเมตร บางวันลูกหลานก็พานั่งรถมอเตอร์ไซค์มาส่ง เพราะยายต้องมารับยาบำรุงยาแก้ปวดและวัดความดันโลหิตและยายกลมจะเจ็บที่ปากและปากเป็นแผลตลอด ผมบอกยายกลมว่ายายเลิกตกเบ็ดเถอะมันเป็นกรรมทำให้ยายเจ็บปากตลอด บางวันยายจะรอโบกรถมารับยาเวลามีรถผ่าน

มีอยู่วันหนึ่งยายกลมบอกให้ลูกหลานมาส่ง ไม่มีใครมาส่งยายตัดสินใจเดินทางด้วยเท้า เดินลัดป่ามาตั้งแต่เช้ามืดถึงสถานีอนามัยฯประมาณ 3 โมงเช้า ผมจัดยาให้เสร็จและบอกยายว่าเดี๋ยวผมขี่มอเตอร์ไปส่ง ยายกลมรีบปฏิเสธบอกว่าเกรงใจหมอแดง เดี๋ยวยายเดินกลับเอง ยายขอนั่งพักก่อน ยายขอกรอกน้ำสักหนึ่งขวด พร้อมหยิบเอาหมากมาตำ และยายมาลาผมบอกว่า ยายจะไปร้านจ่าชาลี ไปกินก๋วยเตี๋ยวและจะกลับ จนบ่ายสามโมงเย็นลูกหน้าตาตื่นมาหาผม ถามว่ายายกลมมาหาหมอแดงหรือไม่ ผมบอกว่ามาเมื่อเช้าและกลับไปนานแล้ว ลูกบอกว่ายายกลมยังไม่กลับ เมื่อเช้ายายคุยกับหมอแดงว่าจะไปทางลัดในป่า ผมจะไปส่งยายๆไม่ให้ผมไปส่งเกรงใจผม ผมจึงช่วยออกตามหาและผมพบยายประมาณ 5 โมงเย็น ยายบอกว่าเดินมาเรื่อยๆ เหนื่อยก็นอนพักลมพัดเย็นสบายเผลอหลับไป พอมีแรงก็เดินต่อ

    ในวันที่ 8 เดือนมิถุนายน 2548 เวลาประมาณ เจ็ดโมงเช้ามีคนมาเรียกผมที่บ้านพักสถานีอนามัยฯ หมอแดงครับ หมอแดงครับ ช่วยพวกผมด้วยยายกลมหายไปตั้งแต่เมื่อวาน ยังไม่กลับบ้าน ตามหากันเมื่อวานและทั้งคืนไม่พบ ผมจะให้หมอแดงช่วยตามหาด้วย ผมบอกกลับก่อนหมอขอเวลา ครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวพาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปช่วย โดยใช้ วิทยาสื่อสาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้มาช่วยกันค้นหา มาห้า คน หกคนพร้อมผม ผมเตรียมเสบียงอาหารและน้ำทันที่ ผมถามข้อมูลก่อนออกตามค้นหา ยายบอกว่าจะไปเก็บถ่านในหุบเขา ซึ่งห่างจากบ้านไปประมาณ3 กิโลเมตรผมยังบอกกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่ายายเก่ง แข็งแรงเดินไหว ค้นหาอยู่สามชั่วโมง ไปพบถุงหมากยายและไม้เท้า น้ำดื่ม ที่วางไว้ใกล้ๆเตาถ่าน พวกเราคุยกันว่ายายจะเดินไปไหนได้ไกล ไม้เท้าและหมากก็อยู่ทั้งน้ำดื่ม พวกเราพยายามค้นหาต่างกระจายกันออกไปรอบๆบริเวณที่พบสิ่งของไม่เห็นมีรอยเลือดและเสื้อผ้า ท้องฟ้าเริ่มมืดและมีฝนตกลงมาเล็กน้อย ทำให้เราเดินลื่นกัน ทั้งตะโกนเรียกยาย ไม่มีเสียตอบ จนเวลาบ่ายโมง เราจึงยุติการค้นหา ผมบอกป่าไม้ว่า ขอหน่อไม้เจ้าป่าเจ้าเขาและพริกป่าไปแกงเนื้อกินกันดีกว่าเราเหนื่อยมามากแล้ว ส่วนลูกๆนั่งบนเจ้าป่าเจ้าเขา ขอให้ได้และเจอศพยาย บ่ายสี่โมงเย็นหลานๆพากันไปริมป่าชายเขา นำของไปถวายเจ้าป่าเจ้าเขาเหล้าและไก่นึ่ง และเป็นลูกศิษย์พร้อม กำลังกินกันเพลินและคุยกันเสียงดัง อยู่ๆยายโผล่ออกมาจากชายป่า ถามว่าเอ็งมาทำอะไรกัน ทุกคนตกใจนึกว่าผีหลอกและคิดว่ายายตายแล้ว จากการสอบถามของผมว่ายายไปไหน ยายบอกว่าจะไปดูถ่านอีกฝากภูเขาหนึ่งเลยทิ้งของไว้ มีมีดเล่มเล็กๆยายเลยตัดไม้เท้าใหม่ เละเห็นอากาศมันมืดเลยนอนหลับที่ก่อไผ่ตรง ตัดเอาใบตองมาปูนอน เห็นท้องสว่างจึงเดินออกมา ยายบอกว่าหลับสบายเหมือนนอนบนที่นอน ยุงและพวกลิ้นไรไม่กัด เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีส่วนร่วม ได้เข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นและทุกอย่างจบลงด้วยดี

                                                  นายอานนท์ ภาคมาลี

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องจริง
หมายเลขบันทึก: 489194เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2012 16:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 10:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท