จากการเป็นครูแค่เพียง ๓ ปี ในโรงเรียน ซึ่งมีนักเรียนเกือบ ๔,๐๐๐ คน และทำการสอนในระดับมัธยมศึกษา ได้พบเห็นพฤติกรรมที่ครูรุ่นก่อนได้ปฏิบัติเป็นแบบอย่างและเยี่ยงอย่างไว้มากมาย ตอนเป็นครูใหม่ๆ มีครูเคยบอกว่าต้องเก็บเด็กให้ได้ แต่การเก็บเด็กนั้นขึ้นกับวิธีการเฉพาะคนไม่อาจสอนกันได้ แต่ในความคิดผมนั้นการเก็บเด็ก เสมือนการกดดันให้เด็กนักเรียนต้องอยู่ในข้อบังคับที่ตนเองไม่เข้าใจ และถูกกดดันตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมก็ว่าผมคงเก็บเด็กได้ระดับหนึ่งโดยที่เขาไม่เครียดมากนักและยอมรับถึงการมีวินัยได้ดีขึ้น โดยไม่ต้องใช้เสียงดุ บ่น ว่า ให้รำคาญใจมากนัก (แต่บางห้องก็ต้องทำ เพราะสภาพที่บ้านเด็กเป็นเช่นนั้นเอง) ซึ่งผมใช้วิธีการต่อไปนี้
๑. ครูต้องเชื่อว่าไม่มีใครโง่บนโลกใบนี้ แต่การไม่รู้หรือไม่ทันนั้นเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ซึ่งไม่เท่ากัน
๒. หากจะสอนสิ่งใดต้องรู้แจ้ง ตอบข้อสงสัยทุกประการที่ตนไม่แน่ใจให้ได้ก่อน ไม่ใช่ไปท่องจำ แล้วให้นักเรียนท่องตาม มันจะไม่มีราคา
๓. พูดอะไรไปแล้วต้องเป็นตามนั้น คือต้องยุติธรรมกับนักเรียนทุกคน ไม่โอนอ่อนผ่อนตามโดยไม่จำเป็น
๔. วินัยเป็นเรื่องสำคัญ ครูมาสาย/กลับก่อน คร้านตรวจงาน อย่ามาหวังให้นักเรียนเชื่อฟัง (เด็กเขารู้ว่าใครตรวจงานหรือแค่ลงชื่อเฉยๆ)
๕. ศรัทธาเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะมันสำคัญและคงทนกว่าศักดิ์/ศรีมากนัก
แค่ ๕ ข้อนี้ที่ผมทำ แม้นักเรียนที่ไม่รู้จัก หรือเกเร เมื่อพบหน้ากันจะมีกิริยาที่ไม่ลบหลู่ เมื่อเข้าห้องนักเรียนส่วนใหญ่ก็เกรงใจ นี่คือประสบการณ์ที่ผมได้รับ
ครูที่ดี มีหลักการ
ขอบคุณครับ ที่นำตัวอย่างมาให้ดู