หลังจากที่ได้ชมนิทรรศการที่สะท้อนให้เห็นชีวิตที่เรียนรู้ของครูและเด็กกันไปเต็มอิ่มแล้ว ทุกคนก็กลับมาเขียนข้อความลงในกระดาษรูปหัวใจ เพื่อสะท้อนว่า
จากที่ได้เรียนรู้จากเรียนรู้เรื่องราวของเพื่อนๆ ฉันได้รู้ว่า...
ขอบคุณวิชาอื่นๆ ที่สอนให้ฉันรู้ว่าครูที่ดีควร “ให้โอกาสและรอคอยพวกเขามากขึ้น” “ครูต้องไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้” “อย่าเลยผ่านธรรมชาติของผู้เรียน” “ครูต้องพร้อมเปลี่ยน ไม่ใช่แค่คิด”
เปิดโลกกว้างทางการศึกษา จากที่เคยเห็นครูเป็นผู้สอนอย่างเดียว กลับกลายเป็นครูได้เรียนรู้พร้อมไปกับเด็กที่ตนเองสอน
เปิดโลกกว้างทางความคิด การได้ฟัง ได้มีโอกาสอ่านเรื่องเล่าของครูแต่ละท่านทำให้รู้สึกได้ว่า สิ่งที่ครูทุ่มเทให้เด็กๆ กับแผนการสอนแต่ละครั้งมากกว่าคำว่า “คุ้มค่า”
“สอนน้อย เรียนมาก”
จากนั้นก็มาถึงการล้อมวงพูดคุยกันว่า เราชื่นชมเพื่อนๆ ในหน่วยวิชาเดียวกันกับเราว่าเขาสอนน้อยแต่ทำให้เด็กได้เรียนมากอย่างไร และประทับใจข้อคิดดีๆ อะไรจากครูต่างหน่วยวิชาบ้าง
ดิฉันอยู่กลุ่มครูภูมิปัญญาภาษาไทย ครูอ้อ – วนิดา เริ่มจากการให้สมาชิกเล่าความประทับใจจากเรื่องเล่าของเพื่อนในประเด็นสอนน้อย เรียนมาก แล้วใครที่อยากขยายความก็จะเล่าต่อๆ กันไป โดยมี ครูแอน- สุธนา และดิฉัน ทำหน้าที่สกัดความรู้แล้วบันทึกเป็นผังมโนทัศน์
ธรรมชาติของการเรียนรู้แบบ “สอนน้อย เรียนมาก” ที่ค้นพบร่วมกัน
เป็นการเรียนรู้ที่สะท้อนคุณค่าของตัวเองและเกิดความภูมิใจ ซึ่งตั้งอยู่บนความดี ความจริง และการหยั่งลงไปถึงจิตใจ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนอยากเรียนรู้ั เป็นเจ้าของการเรียนรู้ และเป็นผู้ขับเคลื่อนการเรียนรู้ด้วยตนเอง
กระบวนการเรียนรู้ที่ประสบความสำเร็จ
เคล็ดลับความสำเร็จ
ขอบคุณคุณสมศรีด้วยค่ะ ที่ส่งความสุขกลับมาให้คนเขียนบันทึกด้วย :)
อ่าน "ชื่นใจฯ" ภาคครูเพลิน จบ ทำให้นึกถึงบทความที่เคยอ่าน ... จาก "คู่มือพ่อแม่ 2"
"...มีพ่อแม่บางคน เปิดสมุดพกดูผลการเรียนลูกทีไรอ่อนใจทุกที จนในที่สุดทำใจยอมรับว่าลูกเราเป็นเด็กหัวขี้เลื่อย...
หารู้ไม่ว่า เด็กปกติทุกคนมีความฉลาดไม่มากน้อยไปกว่ากันเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ครูอาจารย์จะค้นพบศักยภาพที่อยู่ในตัวลูกหรือไม่ แล้วก็เป็นที่น่าเสียดายว่าในห้องเรียนของโรงเรียนต่าง ๆ เราจะค้นพบเด็กเก่งหรือเด็กหัวดีอยู่เพียงน้อยนิด ไม่เกิน 10 % นอกนั้นเป็นเด็กที่เราเรียกว่าหัวปานกลาง จนถึงอ่อนด้อย ...
... เด็กทุกคนมีศักยภาพในการเรียนรู้ เพียงแต่ว่าแต่ละคนมีสไตล์การเรียนรู้ที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าคนคนนั้นถนัดใช้สมอง ซีกไหนมากกว่ากัน ... "
- ก็ให้เกิดความรู้สึกว่าเด็กๆ โชคดีที่มีครูแบบเพลินฯ -