หนังสือ International Private Law in Scotland เขียนโดย Dr. Elizabeth Crawford เมื่อพิจารณา outline ของหนังสือเล่มนี้แล้ว จะขอแบ่งหมวดหมู่ของเนื้อหาในหนังสือดังต่อไปนี้
ในลำดับแรกจะมีการพิจารณาถึง nature ของวิชานี้ว่ากล่าวถึงเนื้อหาของลักษณะวิชานี้ไว้อย่างไรบ้างรวมทั้งพูดถึงประวัติศาสตร์ของกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลในประเทศสก็อตแลนด์ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
ในลำดับต่อมาของหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึงหลักการของการใช้กฎหมายต่างประเทศ เรื่องการย้อนส่ง รวมไปถึงเรื่องของหลักภูมิลำเนาว่าจะต้องมีการพิจารณาอย่างไรบ้าง ซึ่งถือเป็นหลักการที่สำคัญในการพิจารณาใช้กฎหมายขัดกันในกลุ่มกฎหมายขัดกันของรัฐในกลุ่มกฎหมายตระกูล common law แต่ที่น่าสังเกต คือ ในหนังสือเล่มนี้มิได้มีการกล่าวถึงเรื่องสัญชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นหลักการในการพิจารณาใช้กฎหมายขัดกันในกลุ่มกฎหมายของรัฐในตระกูล civil law เลย
ในส่วนที่สามคือในส่วนของการพิจารณาปัญหากฎหมายขัดกันของเอกชน ซึ่งก็พูดถึงในส่วนของนิติบุคคล และในส่วนที่เป็นบุคคลธรรมดาก็จะมีการพูดถึงกฎหมายขัดกันในเรื่องของบุคคล สัญญา ครอบครัว สามีภรรยา ละเมิด มรดก โดยแต่ละเรื่องจะมีการพิจารณาออกเป็น 3 ส่วน คือ 1. Jurisdiction 2. Choice of Law 3 Recognition (of foreign decree ) และในส่วนที่น่าสนใจก็คือ ในส่วนของปัญหาการขัดกันแห่งกฎหมายเอกชนนั้น ในหนังสือเล่มนี้ได้มีการแบ่งเรื่องล้มละลาย และเรื่องทรัพย์สินของสามีและภรรยาแยกไว้เป็นบทอย่างชัดเจน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลในประเทศสก็อตแลนด์เล็งเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากเช่นเดียวกับเรื่องปัญหากฎหมายขัดกันในเรื่องอื่นๆ
ในส่วนที่สี่ คือ เรื่องของการพิจารณาใช้พยานหลักฐาน การดำเนินกระบวนพิจารณาในศาล เขตอำนาจศาล รวมไปถึงเรื่องการบังคับตามคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ และในเรื่องของกฎหมายอาญา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสังเกตอย่างมากว่ามีการแยกเรื่องกฎหมายอาญาไว้เป็นเรื่องสุดท้าย ซึ่งต่างจากกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลในเล่มอื่นๆ ซึ่งคิดว่าคงจะมีหนังสือกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลจำนวนน้อยมากที่จะมีการแยกเรื่องกฎหมายอาญาไว้เป็นบทหนึ่งในส่วนของกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลเหมือนกับในหนังสือเล่มนี้
จากที่ได้พิจารณาหนังสือเล่มนี้แล้ว ก็จะเห็นได้ว่า หนังสือเล่มนี้มีการแบ่งหมวดหมู่ในการทำความเข้าใจกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลไว้อย่างชัดเจน เป็นขั้นตอน ซึ่งน่าจะทำให้ผู้อ่านทำการศึกษาและทำความเข้าใจได้ง่าย และจะทำให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงพื้นฐานของกฎหมายคดีบุคคล รวมไปถึงช่วยสร้างความเข้าใจกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคลในประเทศของกลุ่มกฎหมายตระกูล common law ได้ดียิ่งขึ้น
การวิจารณ์หนังสือน่าจะให้ความสำคัญกับปีที่พิมพ์ด้วยค่ะ มันจะบอกเราได้ว่า ข้อมูลในหนังสือจะเก่าหรือใหม่
นอกจากนั้น ถ้าจะดูว่า หนังสือนี้มุ่งจะใช้ในระดับไหน ก็จะทำให้เราประเมินหนังสือได้ชัดมากขึ้น ซึ่งเราอาจดูจากการจัดประเภทหนังสือที่ปก ดูซิคะมีไหม
หนังสือเล่มนี้พิมพ์ในปี 1998 ค่ะ แต่ว่าการจัดประเภทหนังสือที่หน้าปกไม่ได้ให้รายละเอียดไว้ค่ะอาจารย์