บทบาทของพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกที่สำคัญก็คือการซักประวัติและคัดกรองคนไข้ ก่อนส่งไปพบแพทย์ ซึ่งไม่ใช่ว่าสักซัก โดยไม่ดูหรือแก้ไขอะไร ปล่อยไว้ให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ “ ก็แพทย์มีหน้าที่รักษานี่หว่า” นี่คือความคิดของพยาบาลหลายๆคน แต่สำหรับชลัญแล้ว บางอย่างที่แก้ไขได้ต้องจัดการก่อนถึงมือแพทย์ เพื่อสิทธิ์ประโยชน์ของคนไข้เอง เช่นหากวันนี้คนไข้เยอะมาก แพทย์ อารมณ์เสียหงุดหงิด สิ่งที่เราอยากให้แพทย์ตรวจอาจไม่ได้รับการตรวจที่ถูกต้องเหมาะสม ดังกรณีตัวอย่าง คนไข้เบาหวานรายนี้
คุณป้าวัย 58 ปี ป่วยด้วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงมาซักประวัติ นุ่งขาวห่มขาวคล้ายแม่ชี แต่ที่แปลกคือทัดดอกไม้ที่หู ทาปากแดง ถือศิลคงไม่ใช่แน่ เอ๊ะ!!!เกิดอะไรขึ้น ชลัญคิดในใจ
ชลัญ : คุณป้าวันนี้เป็นอะไรมาจ๊ะ
ป้า : ป้ามารับยาเบาหวานความดันต่อจ้า คุณหมอ
ชลัญ : ( ก็พูดจารู้เรื่อง จึงลองถาม การรับรู้ต่างๆ คน วัน เวลาสถานที่ ตอบได้หมด เอ! ไม่น่าผิดปกติ ) จึงให้คุณป้าออกไปรอก่อน ขอคุยกับญาติบอกว่าจะทบทวนเรื่องการกินยา คุณป้าออกไปอย่างว่าง่าย
ลูกสาวป้า : หมอมีอะไรจะถามชั้นหรือจ๊ะ
ชลัญ : ทำไมคุณป้าแต่ตัวแปลก ๆ
ลูกสาวป้า : อ๋อ .... แม่เป็นร่างทรง พอดี สัก 6 เดือน ก่อนนี่ แม่ป่วยมากรักษายังไงก็ไม่ดีขึ้น มาตรวจที่ รพ. หมอบอกเป็นติดเชื้อเข้ากระแสเลือด รักษาอยู่ รพ.นาน เป็นเดือน หลังจากนั้นแม่ก็ฝันว่า เจ้าแม่ ......(จำไม่ได้แล้ว ) มาขอให้แม่ รับองค์ จะมาอยู่ด้วย ถ้าไม่รับก็ไม่หาย หลังจากนั้นแม่ก็รับและก็ใส่ชุดแบบนี้มาตลอด แม่ก็หายป่วยนะ แต่พฤติกรรมแม่เปลี่ยนไป คือ กับสามีฉัน นี่แต่ก่อนแม่ก็รักลูกเขยดี แต่ตอนหลังนี่แม่บอกว่าสามีฉันเป็นกาละกิณีบ้าน ต้องแยกกันอยู่ นี่ฉันก็จะต้องสร้างบ้านใหม่ แต่ก็ห่วงแม่จะไม่มีคนอยู่ด้วย ยิ่งช่วงหลังนี่มีคนมาหาแกมากเพราะแกเคยบอกหวยชาวบ้านถูก และบอกว่าสามีฉันจะฆ่า พี่น้องคนอื่นๆก็พลอยโกธร ฉันด้วย แต่ฉันก็ทน เพราะห่วงแม่ สามีฉันก็ลาบากใจแต่ห่วงฉันกับลูกก็ทน นี่ลูกคนอื่นๆ มีแต่คนว่าฉันกับสามี แต่แม่ป่วยก็มีแต่ฉันกับสามีนี่แหล่ะที่ดู บางทีฉันก็รู้สึกไม่พอใจเจ้าแม่.... แต่ไม่กล้า ฉันกลัวเขาจะมาเอาชีวิต ครอบครัวฉันน่ะหมอ
ชลัญ :( โอ้ว ....ได้ข้อมูลเพียบ ) นี่มันไม่ใช่เจ้าม่งเจ้าแม่แล้วมันเป็นอาการจิตเภท ซึ่งเป็นโรคจิตประเภทหนึ่งนี่เอง อาการนี่จะเนียนๆดูไม่ออกนักหรอกว่าผิดปกติ ก็เลยถามลูกสาวต่อว่า “ ป้าแกมีพูดบ่นคนเดียวมั๊ย “
ลูกสาวป้า : มีหมอบางครั้งกลางคืนฉันเห็นเหมือนนั่งคุยกับใคร ถามแม่บอกคุยกับเจ้าแม่ ฉันก็กลัว อ้อ ... บางคืนไม่นอนนะหมอ เดินไปมาบ่นพรึมพรำ พอไม่ถาม ก็ตวาด บอก “ มึงรู้มัยว่ากูเป็นใคร “ กูไม่อยากนอน เดี๋ยวส่งผีตายโหงไปหักคอ “ ฉันกลัวบริวารเจ้าแม่ ก็ได้แต่นอนเฉย แต่กับคนอื่นแม่จะพูดจาดีมากยกเว้นกับฉันกับสามีฉัน
ชลัญ : แล้วเราเชื่อมั๊ยว่าแม่เป็นร่างทรง มีเจ้าแม่จริง
ลูกสาวป้า : ก็ตอนแรกว่าจะไม่เชื่อแต่แม่ให้หวยถูกมา 2งวด แล้ว คนแถบนั้นเชื่อถือแกมาก ถ้าไม่เชื่อแล้วจะเป็นอะไรเหรอ ผีเข้าหรือหมอ (โอ๊ย..ไปกันใหญ่ ชลัญคิดในใจ )
ชลัญ : เอางี้ ...ถ้าให้ความร่วมมือพยาบาล แม่เราจะหาย O.K มั๊ย
ลูกสาวป้า : หมอจะทำไง แล้วไม่กลัวเจ้าแม่เหรอ
ชลัญ : โอ๊ย ...ไม่ต้องห่วง พยาบาลมีเจ้าแม่ ชลัญธรวดี (ชื่อตั้งเอง เพราะคนไข้ไม่รู้ชื่อเรา ชลัญธรมักลืมแขวนป้าชื่อประจำ ส่วนใหญ่เขารู้กันในชื่อหมอโจ้มากกว่า ) เก่งกว่าเจ้าแม่อะไรนั่นอีก รับรองหาย
ลูกสาวป้ายอมรับเจ้าแม่ ชลัญธรวดี รักษาแม่เธอ จากนั้นก็เป็นปฏิบัติการเตรียมการกับแพทย์ แพทย์ก็ให้ความร่วมมือด้วยดีสั่งยา ให้สำหรับผู้ป่วย Case schizophrenia คือ Haloperidol ขนาดที่แพทย์สั่งจำไม่ได้แล้ว และฉีด Deca นัดติดตามอาการ อีก 1เดือน ลูกสาวป้ามาส่งข่าว ว่า เจ้าแม่ ชลัญธรวดี นี่แน่จริง แม่ พูดจากับฉันและสามีดีขึ้น เหมือนปกติ แม่เห็นของบูชาที่อยู่ในบ้าน แม่บอกจำไม่ค่อยได้ว่าเอามาไว้ทำอะไร พอเล่าให้แม่ฟังถึงเจ้าแม่....และแม่ก็บอกงงเหมือนฝันแต่ก็ให้เก็บเพราะแม่บอกว่าเจ้าแม่คงไปแล้วมั๊งเพราะตอนนี้แม่หลับสบายดี
สุดท้ายชลัญธรก็เลยต้องเฉยว่าที่ป้าเป็นน่ะเป็นอาการทางจิต หรือเรียกว่า โรคจิตเภท รักษาได้ แต่ต้องดูแลให้กินยาต่อเนื่อง บรรดาลูกๆป้ากลับมาขอบคุณกันใหญ่ เกือบผิดใจกับเขย คิดว่าจะทำร้ายแม่จริงๆเพราะหวังสมบัติ
เรื่องนี้ก็จบแบบ happy ending ป้ามารับยาอย่างสม่ำเสมอ ลูกดูแลให้ป้ากินยาต่อเนื่อง เจ้าแม่ “ชลัญธรวดี”ก็ไม่ต้องออกโรงอีก คิดไปก็น่าขัน อิ อิ ...
โรคจิตเภทคือ กลุ่มอาการของโรคจิต ที่มีความผิดปกติของความคิด มีลักษณะอาการแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทคือ ลักษณะอาการทางบวก และลักษณะอาการทางลบ
กลุ่มลักษณะอาการทางบวกหมายถึง อาการที่มีเพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไป ได้แก่
- ประสาทหลอน เช่นได้ยินเสียงคนพูดคุย ได้ยินเสียงคนพูดตำหนิ พูดโต้ตอบเสียง นั้นเพียงคนเดียว
- อาการหลงผิด เช่นคิดว่ามีเทพวิญญาณอยู่ในร่างกาย คอยบอกให้ทำสิ่งต่างๆ
- ความคิดผิดปกติ เช่นพูดไม่เป็นเรื่องเป็นราว พูดไม่ต่อเนื่อง เปลี่ยนเรื่องพูด โดยไม่มีเหตุผล
- พฤติกรรมผิดปกติ เช่นอยู่ในท่าแปลกๆ หัวเราะหรือร้องไห้ สลับกันเป็นพักๆ
กลุ่มลักษณอาการทางลบหมายถึง อาการที่ขาดหรือบกพร่องไปจากคนปกติทั่วๆไป ได้แก่
- สีหน้าอารมณ์เฉยเมย ชีวิตไม่มีจุดหมาย ไม่มีสัมพันธภาพกับใคร ไม่พูด ไม่มีอาการยินดียินร้าย
อะไรคือสาเหตุ
เชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของสมองบางส่วน โดยอาจขาดการกระตุ้นให้ทำงาน จากสารสื่อสารของใยประสาทในสมอง ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
ในปัจจุบันยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงของโรคจิตเภท ดูเหมือนว่ากรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อมจะมีอิทธิพลต่อการเกิดโรคนี้พอๆกัน นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ตรงไปตรงมาว่ายีนส์อะไร สารเคมีตัวไหน หรือความเครียดแบบใดที่เป็นสาเหตุของโรคจิตเภทนี้โดยตรงโรคจิตเภทมีสาเหตุมาจากปัจจัยทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งทางร่างกายนั้นเกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมองในการสร้างสารบางอย่างที่มีปริมาณมากหรือน้อยเกินไป ส่วนทางด้านจิตใจนั้น เกิดจากความเครียดในชีวิตประจำวันเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความเจ็บป่วยขึ้น ดังนั้นหากสงสัยว่าท่านหรือผู้ใกล้ชิดมีอาการดังกล่าว ขอแนะนำให้รีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้ให้การบำบัดรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่เริ่มแรก
การรักษาโรคจิตเภท
เป้าหมายของการรักษามี 3 ประการคือ
1. รักษาอาการให้หายหรือบรรเทาลง
2. ป้องกันไม่ให้ป่วยอีก โดยการให้ยากินติดต่อกัน หลีกเลี่ยงสาเหตุที่จะทำให้ ป่วย หรืออาการกำเริบขึ้นควรสังเกตุอาการก่อนที่จะมีอาการกำเริบใหม่
เพื่อปรับการรักษาก่อนที่จะมีอาการรุนแรง
3. การฟื้นฟูสมรรถภาพ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่นฝึกทักษะ การใช้ชีวิตในสังคม ทักษะในการประกอบอาชีพ ทักษะในการสื่อสาร