ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราก็ตาม แม้ว่าใครๆ จะมองว่าเป็นเคราะห์กรรม เราอย่าไปมองว่าอย่างนั้น ให้มองว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไรมองให้เห็นประโยชน์ มองให้เห็นข้อดีของมันแล้วเราจะไม่ทุกข์ เราจะไม่กลุ้มอกกลุ้มใจ นี้เรียยกว่าเป็นผู้ฉลาด คือเจอทุกข์แล้วไม่ทุกข์ แถมยังได้กำไรคือได้สติปัญญา เราจะต้องเป็นผู้ฉลาดเผชิญทุกข์ด้วยการรู้จักหาประโยชน์หรือได้กำไรจากความสูญเสียพรัดพราก จากความเจ็บความป่วย และจากเหตุการณ์ทั้งหลายให้ได้
ข้อความข้างต้นนี้ตัวกระผมเองได้เปิดอ่านเจอในหนังสือ สงบเย็นและเป็นประโยชน์ ผู้แต่งคือพระไพศาล วิสาโล วัดป่าสุคโต ซึ่งกระผมเคยไปไหว้พระวัดนี้ตอนไปเรียนบริหารการศึกษากับท่าน อาจารย์ ดร.สุรเชษฐ์ น้อยฤทธิ์ ซึ่งผมมองว่าอาจารย์ระดับ ดร. ส่วนมากเชื่อในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย แต่พอมาถึงวันนี้กระผมได้ตระหนักอย่าถ่องแท้ว่าหากเราตั้งมั่นในธรรม คิด หรือใช้ชวิตให้เข้าใกล้ธรรมะมากที่สุด มีสติ มีหลักธรรม จะสามารถเป็นเกราะคุ้มกันทำให้เราใช้ชีวิตตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท และอีกท่านหนึ่งคือ ท่าน ดร.สุธรรม ท่านก็ใฝ่ในธรรมะเช่นกันผมก็เลยมีคำถามว่า ตอนนี้อายุ 31 ปี ถ้าจะศึกษาหลักธรรมอย่างจริงจังจะแปลกมากไหม นึกขำตัวเองอยู่เหมือนกันอาจจะศึกษาไม่ได้ถ่องแท้แต่ขอบคุณท่าน อาจารย์ ดร.ภาควิชาบริหารการศึกษาทุกท่าน ที่ได้กรุณาสั่งสอนศาสตร์และศิลป์ต่างๆ และทำให้กระผมสามารถประยุกต์ องค์ความรู้ต่างๆ มาใช้ได้ ถึงแม้จะยังก้าวไม่ถึงตำแหน่งผู้บริหารแต่อย่างน้อยกระผมก็บริหารตนเอง บริหารเวลาได้ เขียนไปเขียนมาชักงง...สวัสดีครับ
ไม่มีความเห็น