เที่ยวเชียงคานวิมานหมอกภูทอก : ลุ่มน้ำโขง


เที่ยวเชียงคาน

                     เที่ยวเชียงคาน 19 - 21 ตุลาคม 2554

 

        หลังจากเกษียณ จึงเป็นโลกส่วนตัว มีโอกาสไปเที่ยวหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเป็นพ่อพิมพ์มานาน

เชียงคาน จังหวัดเลย เมื่อกลางเดือนตุลาคม ๕๔ ไปนอน ๒ คืน รถส่วนตัว เดินทางจากบ้านตรงไปที่เชียงคาน เดินทางสบาย ๆ จากพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่รีบเร่งมุ่งตรง จังหวัดขอนแก่น และก็ตรงไปจังหวัดเลย โดย ไปแวะที่ อำเภอวังสะพุง แวะชมตลาดสด มีอาหารป่า ขายมากมาย เช่น เนื้อเก้ง เต่า สารพัด ผักป่า แปลก ๆ เช่น หน่อหวาย พูดถึงหน่อหวาย ต้องเป็นฝีมือการแกงของ บ้านหนองห้าง จังหวัดกาฬสินธุ์ ผมไปทานที่ไหนไม่อร่อย กลมกล่อมอย่างที่นั่นเลยครับ ไม่มีรสขมเลย

        ที่อำเภอวังสะพุงนี่แหละครับ ทำให้ผมไม่อยากจะซื้อ สลากกินแบ่งอีกต่อไป แต่ก่อนผมเคยซื้อไม่มาก แล้วก็หยุดไปนาน ทั้งหวยใต้ดิน และบนดิน หวยใต้ดินไม่อยากซื้อเพราะเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ และเจ้ามือ เอาเปรียบผู้ซื้อมาก ถ้าเลขตัวไหนดัง ก็จะจ่ายไม่เต็ม แต่เงินซื้อรับเต็มบางราย คนถูกมาก ๆ หายหัวไปเลย สลากกินแบ่งที่ไม่อยากซื้อเพราะไม่ค่อยถูก ไม่มีดวง แต่ก่อนผมสอนอยู่ที่ โรงเรียนในกรุงเทพ เมื่อปี ๒๕๓๑-๒๕๔๑ ได้ไปเห็นที่ขายสลากกินแบ่ง แถว ๆ กองสลาก เขาเรียกสีแยกคอกวัว หรือเปล่าไม่แน่ใจครับ  ผมตกใจ ทำไมมากเหลือเกิน ดงสลาก เลย ปลงตก รางวัล ไม่เท่าไร แต่สลากที่ขาย เจ้าพระคุณเอย ทำไมมหาศาลเหลือเกิน มากจริง ๆ คนที่ถูกนับว่า สุดที่จะโชคดี จริง ๆ มหาโชคดี

        ผมไปพบที่วังสะพุงอีกครับ ดงสลากกินแบ่งเลยครับ ผมไม่ซื้อสลากกินแบ่งอีกต่อไป

        ผมเสร็จธุระอิ่มหนำสำราญก็ บึ่งตรงไป เชียงคานเลยครับ ถึงเชียงคาน บ่าย ๓ โมงเข้าที่พัก ชื่อนาวีเฮาว์ เจ้าของเป็นทหารเรือ จองทางอินเทอร์เน็ต สะอาด สบาย สะดวกปลอดภัย เจ้าของอัชฌาศัยดีมาก มีจักรยานให้เที่ยวชมสถานที่ ด้วยครับ มีที่จอดรถ ห้องแอร์ อาบน้ำพักผ่อน หายเหนื่อย ก็ออกเที่ยวเพราะเวลาน้อย มาก ๒ วัน จุดแรกที่ไป ก็ ถนนคนเดิน เป็นถนนวัฒนธรรม อนุรักษ์วัฒนธรรมเก่า ๆ เพลินดีครับ ได้พบได้เห็นสิ่งแปลก ๆ ถนนนี้ อยู่เรียบ ฝั่งโขง

 

                     ฝั่งโขงตะวันยอแสง  อ.เชียงคาน  จ.เลย

        ก่อนที่จะเดินชมวัฒนธรรม ก็ได้ไปชมบรรยากาศ สองฝั่งโขง ช่วงเวลาที่เรียกว่า   อัสดง ตะวันยอแสง กำลังจะลับขอบฟ้า แสงแดง อ่อน ๆ ดวงอาทิตย์ค่อยจมลงแม่น้ำโขง สวยจริง ๆ ครับ บนทองฟ้ามีนกสีขาว บินกลับรัง ช่างเป็นภาพที่ประทับใจยิ่งนัก หากเราไม่มองตะวันลับขอบฟ้า ก็หันหลังให้ตะวันแล้วมองไปทางทิศตะวันออก เสาไฟฟ้ารูปหงส์ ที่เป็นทิวแถว ฉาบสีทอง กระทบกับแสงตะวันที่กำลังยอแสง เชียงคานมีเสน่ห์ยิ่ง ฝั่งตรงข้าม ก็จะเห็นบรรยากาศ ประเทศเพื่อนบ้าน สาธรณรัฐประชาชนลาว  


        บนถนนคนเดินนักท่องเที่ยว เริ่มหนาตาขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพลบค่ำ ต่างเที่ยวชน ซื้อของที่ระลึก ไม่แพงด้วย แต่ละบ้านจะตกแต่ง เป็นเชิงอนุรักษ์เก่า ๆ แม้แต่ธนาคารกรุงไทย ผมชอบบรรยากาศมาก นักท่องเที่ยวไม่ว่าคนไทย ต่างชาติ ไม่พลาดแม้แต่แห่งเดียวต้อง ไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึกแทบทุกจุด

            รถเก่าคันเก่ง บนถนนคนเดิน  อ.เชียงคาน  จ.เลย

                    ธนาคารกรุงไทย  ถนนคนเดิน  อ.เชียงคาน จ.เลย

               คนกับผีตาโขนที่ถนนคนเดิน อ.เชียงคาน จ.เลย

 

           หลังจากเดินเที่ยว ก็แวะเข้าไปที่ตลาด หาที่ทานข้าว ก็ไปพบร้านหนึ่ง อาหารใช้ได้ครับ ไม่แพง จนเกินไป ราคาก็ปกติ ผมไม่เคยได้ยิน คั่วกลิ้ง ลองสั่ง ไปทานที่ที่พัก อย่าบอกใคร รสชาติ เผ็ดน้ำตาร่วงเลยครับ ผมเป็นคนชอบรสจัด มาเจอคั่วกลิ้ง สุดยอดความเผ็ด

        พอเสร็จก็กลับที่พัก ปั่นจักรยานไปเรื่อง ๆสองข้างถนนในตัวเมืองเชียงคาน มีป้ายการรณรงค์ การใช้ยานพาหนะ ที่ป้าย เขียนว่า “สุรา เมาไม่ขับ ถูกจับปรับแพง” ผมอ่านแล้วงง นึกว่ามี ป้ายเดียว ทุกป้ายเขียนเหมือนกันหมด

                                       ป้ายเตือนให้ปฏิบัติอย่างไรกันแน่

        ถ้าใครไปเที่ยวเชียงคาน คนไม่เมา ขับ โดนจับแน่ ๆ เพราะป้าย เขียนว่า สุรา เมาไม่ขับ ถูกจับปรับแพง นั่นแสดงว่า เมาแล้วต้องขับ จึงจะไม่ถูกจับใช่ไหม หรือ เขา สื่อสารป้ายอย่างไร คิ คิ คิ

        ถึงที่พัก ก็รีบอาบน้ำ หลับง่าย คงเป็นเพราะเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจ ทั้งวัน

 

        วันที่สองของการท่องเที่ยว หลังจากพักผ่อน มารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเวลา ตีสี่ รีบตื่น เตรียมตัวออกเดินทาง ไปชมทะเลหมอกบนภูทอก ห่างจากที่พักประมาณ ๑๐ กว่ากิโลเมตร ไม่ไกล แต่เราไม่ชินทาง อีกประการ ป้ายแนะนำทางไม่ค่อยมี ไม่ชัดเจน เมืองท่องเที่ยวน่าจะมีการสื่อสารให้ดีกว่านี้

        ได้ข้อมูลการท่องเที่ยว จากเจ้าหน้าที่ ที่ถนนคนเดินตอนเย็น เขาแนะนำ ถ้าจะไปชมทะเลหมอกต้องตื่นแต่เช้า เพราะสายไปจะไม่เห็น ก็จริง แต่เราเกือบไม่ทัน เพราะอย่างที่บอก ไม่คุ้นทาง ขึ้นไปถึงแล้ว แต่เนื่องจากว่า ป้ายไม่ชัดเจน จึงทำให้ เราเลยทางไปไกล เป็นเส้นทางที่จะเข้าเมืองอีกทางหนึ่ง โชคดีมีเจ้าของถิ่น หยุดถาม จึงย้อนกลับมา หาที่จอดรถฝากเจ้าของถิ่นที่นั่น นั่งรถสองแถวขึ้นบนยอดเขา ก็ยังดี เราขึ้นไปเป็นชุดที่สอง ข้างบนพึ่งมี สองคน คุ้มค่า ทิวทัศน์ที่สวยงาม ปักหลัก ตีห้าครึ่ง ยังมืด สลัว แล้วค่อยมีแสง จากพระอาทิตย์ดวงสีแดง ค่อยโผล่ทีละนิด เป็นภาพที่สวยสดงดงามของธรรมชิ ดังบทพรรณนาที่ผู้เขียนยกมา

       

                        ทะเลหมอกภูทอกยามเช้า อ.เชียงคาน  จ.เลย

              

               “ภาคพื้นพนารัญ            จรแสนสราญรมย์

      เนินราบสลับสม                       พิศเพลินเจริญใจ

                โขดเขินศิขรเขา             ณ ลำเนาพนาลัย

      สูงลิ่วละลานนั -                       ยนพ้นประมาณหมาย

                ยอดมัวสะหลัวเมฆ         รุจิเลขเรียงราย

      เลื่อมเลื่อมศิลาราย                  ก็สลับระยับสี”

 

                      ( จากอิลราชคำฉันท์ : พระยาศรีสุนทรโวหาร (ผัน สาลักษณ )

 

        พอสายหมอกจะหาย ลงจากภูทอก ไปชมแก่งคุดคู้ สถานที่นี้ ถ้านักท่องเที่ยวไม่มีเวลา ผู้เขียนว่าไม่ไปก็ได้เพราะไม่มีอะไร ที่น่าสนใจเป็นที่จำหน่าย อาหาร ของที่ระลึกซึ่งมีอยู่ทั่ว ๆ ไป อาจเป็นเพราะเราไปถึงแต่เช้า เขากำลังจัดเตรียมร้านค้า ตามที่เดินชม เห็นมี มะพร้าวแก้ว ขนมจีนแห้ง เสื้อผ้าทั่ว ๆ ไป

      

                             แก่งคุดคู้  อ.เชียงคาน จ.เลย

       เดินชมทิวทัศน์ถ่ายรูป กับเสาหลักกิโลใหญ่ ตรงบันไดทางลงแม่โขง เสร็จ ก็ออกเดินทางด้วยรถคู่ชีพ ไปไหว้พระ บนยอดควายเงิน มีรอยพระพุทธบาทจำลอง ขณะที่ไปเขากำลังบูรณะ บนยอดเขาจะมีวัด พระสงฆ์ บริเวณเลี้ยงกระต่าย เดิน บนยอดเขา คุ้นกับนักท่องเที่ยว เสร็จเก็บภาพก็ลง กลับที่พัก

                           พระพุทธบาทภูควายเงิน  อ.เชียงคาย จ.เลย

       

               หมดที่เที่ยวแล้วครับ ถ้าจะไปท่าลี่ก็ไกลไปอีก สำหรับเชียงคาน ก็มีเท่านี้ ถึงที่พัก ก็อาบน้ำพักผ่อน วางแผนว่าวันรุ่งขึ้นจะไปเที่ยวที่ไหน ก็ตกลงกันว่า เราจะไปเที่ยวที่ ผาหินงาม (คุนหมิงเมืองไทย) พักผ่อนรอ ห้าโมงถึงหกโมงเย็น จะไปที่ถนนคนเดินต่อเพราะยังไม่ได้ของฝากและของที่ระลึก

        วันรุ่งขึ้น จัดแจงเรื่องค่าที่พัก ทานข้าวต้ม กาแฟ ที่เจ้าของเตรียมไว้ให้ ก็ลาเจ้าของที่พักกลับ        ออกเดินทางไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน แวะรับประทานอาหารที่ผานกเค้า ภูกระดึง และซื้อของฝาก หมวกไหมพรม เขาวางขาย สองข้างทาง รานตาไปหมด ก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อยครับ

                 หมวกไหมพรมน่ารัก ๆ  ที่ผานกเค้า ภูกระดึง  จ.เลย

ออกเดินทางต่อ แวะที่วังสะพุงอีกครั้งเพราะ อยากได้อาหารป่า แต่วันนี้ไม่มี จึงได้เฉพาะส้มโอ ฝากหลานขิง ถึงบ้านก็ได้ชิม ส้มโอ รสชาติเดียวกันกับที่บ้าน ที่บ้านมีส้มโอ ดกมาก สองปีแรก ทานไม่ได้ ขมมาก ปีที่สามรสหวาน ถึงผาหินงาม ประมาณบ่ายโมง โอกาสหน้า จะนำภาพสวย ๆ จากผาหินงามมาฝากครับ

       

หมายเลขบันทึก: 485382เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2012 17:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน 2012 16:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

เก็บประสบการณ์มาฝากครับ

ขอบคุณสำหรับภาพงามๆ ค่ะ ไม่เคยไปแต่ได้ดูเป็นบุญตาค่ะ ทะเลหมอกสวยงามมากจริงๆ ค่ะ

สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์

สวัสดีครับท่านแว่นธรรมทอง

ผมเพิ่งท่องเชียงคานเมื่อเดือนก่อน

เสียดายถึงเชียงคานค่ำจึงไม่ได้ดูวิธีที่เท่าที่อยากชม

 

แล้วก็ขึ้นภูหลวง 

 

 

ว้าว หมอกหยอกเอินขุนเขางามหลายๆ เจ้า

เคยไปเชียงคานเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เปลี่ยนไปจำไม่ได้เลยนะคะ

ชอบภาพคนกะผีตาโขน ได้ยิ้มและฮา ขอบคุณค่ะ

คิดฮอด เชียงคาน แท้ๆ น้อ งามหลายประทับใจบ่มีวันลืม... ขอบคุณสำหรับประสบการณ์และภาพสวยๆๆครับ

คนไม่ดื่มสุรา ไปเที่ยวเชียงคานสิบ่โดนตำรวจจับบ่น้อ...อิอิ

ขอบคุณท่านวอญ่า คุณปริม คุณ pooแวะมาเยี่ยมเยียน และสวัสดีปีใหม่ ขอให้พบแต่ส่งที่ดี ๆ ในชีวิต สำหรับ...คุณสุกรณ์ ขอให้โชคดี ในชีวิต ทุกอย่าง โดยเฉพาะ ที่ปรารถนา ในช่วง มิถุนา ครับ

มาชมภาพงามๆและการนำเที่ยวที่มีความสุขเช่นนี้ค่ะ..

โอโห สวยมากๆ อยากไปบ้าง เย้ๆๆ

กุงฝอยทอด แซบ ครับ ท่านพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท