ครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า “หลักนิยมทางทหาร” จากรายละเอียดโครงการ “พัฒนาหลักนิยมทางทหารของของกองทัพบก” ที่ได้ส่งมาขอสนับสนุนงบประมาณกับ สกว. ก็นึกสงสัยว่าหมายถึงอะไร.....และเมื่อได้เข้าร่วมการประชุมหารือวันที่ ๔ ก.ย.๔๙ ระหว่าง ดร.อุดมเกียรติ ผู้พิจารณาให้ทุนสนับสนุนโครงการนี้ ของ สกว. และทีม พ.อ. สุรศักดิ์ พันธเศรษฐ ผอ.ส่วนวิจัยและพัฒนายุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง พร้อมด้วยทีม สคส. เราที่นำโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช........ก็ได้ทำความเข้าใจความหมายของคำว่า “หลักนิยมทางทหาร” ซึ่งก็อาจจะยังเข้าใจไม่กระจ่างนัก แต่น่าจะหมายถึง หลักทฤษฎีต่างๆ ที่ใช้กันอยู่ในกองทัพทั้งหมด เช่น การบริหารจัดการกองทัพ งานปฏิบัติการต่างๆ ของกองทัพ หรือการให้การสนับสนุนด้านต่างๆ ของกองทัพ ซึ่งถือเป็นหลักพื้นฐานสากลทางการทหารที่ใช้เหมือนกันในแต่ละประเทศ ซึ่งโครงการพัฒนาหลักนิยมฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ หลักนิยมพื้นฐานสากลที่มีอยู่นี้..มีหลักพื้นฐานของบริบทไทยอยู่ด้วยเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในประเทศไทยและทันสมัยอยู่ตลอดเวลา การพัฒนาหลักนิยมจะต้องสัมพันธ์กับหน่วยงาน/องค์กร ต่างๆ ด้วย มิใช่เป็นหลักนิยมที่เข้าใจเฉพาะในกองทัพเท่านั้นแต่ต้องการให้สังคมรับรู้ด้วยว่าผลจากการกระทำของกองทัพนั้นจะกระทบคนในสังคมอย่างไร........
การหารือครั้งนี้ สคส. เราได้แนะถึงการนำ KM เข้าไปใช้กับโครงการนี้ โดยเน้นเรื่องการ ลปรร. ว่าจะทำอย่างไรในกองทัพจึงจะมีการ ลปรร. กันอย่างทั่วถึงในทุกระดับชั้นโดยผู้น้อยก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ เนื่องจากวัฒนธรรมขององค์กรในกองทัพนั้นเป็นไปตามยศ ตามตำแหน่ง...............
ได้มาเข้ารับการอบรมหลักสูตร การพัฒนาหลักนิยม (Doctrine) ทางทหาร รุ่นที่ 1 ที่ สบส. ห้วงเวลาระหว่าง กันยา 49 และ 12-16 มี.ค.50 ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับการนำวิธีการ KM (Knowledge management = การจัดการเกี่ยวกับองค์ความรู้) มาช่วยในการดำเนินการ ทำให้พอจะมองเห็นแนวทางความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวต่อไป แต่นึกดูแล้วก็ยังหนักใจไม่น้อย ที่เราจะต้องมาเขียน มากำหนดแนวทางปฏิบัติให้กับทหารในเหล่าสายวิทยาการของเราซึ่งเป็นทหารเหล่าหนึ่งในกองทัพ และมีจำนวนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ให้มาเชื่อถือและมาปฏิบัติตามในแนวความคิดของเราทั้งหมด
แต่พอมาคิดต่อไป มันก็คงไม่ใช่แนวความคิดของเราแต่เพียงผู้เดียว คงจะต้องผ่านการกลั่นกรองจากระดับต่าง ๆ อีกหลายขั้นตอนจึงจะผ่านออกไปเป็นเหมือนกับกฏหมายออกไปใช้งาน