การส่งเสริมกีฬา


จำได้ว่า ตอนที่เป็นประธานชมรมเทนนิสเพชรบูรณ์ ผมกล่าวว่า "...ผมหวังว่า พวกเราจะเล่นเทนนิสเพื่อคนอื่นด้วย..." ที่ได้กล่าวมาเป็นวิธีเล่นเทนนิสเพื่อคนอื่นของผม สรุปสั้นๆ คือ เล่น สอน จัดแข่ง พาไปแข่ง ทำทีม ฝึกซ้อม จัดการสนามให้พร้อมสำหรับการฝึกซ้อมและแข่งขัน

        กีฬาเป็นยาวิเศษ แต่คนไทยเป็นจำนวนมากไม่ค่อยได้เล่นกีฬาเป็นประจำ ทั้งๆ ที่ทราบว่ากีฬาเป็นยาวิเศษ

       "ไม่มีเวลา"  "ไม่ว่าง"  "งานเยอะ"  "สุขภาพไม่ดี" "ทำงานก็เหนื่อยพอแล้ว" "ไม่มีแรง" ฯลฯ เป็นข้ออ้างในการไม่เล่นกีฬา หากพิจารณาให้ดีแล้ว หลายท่านมีเวลา แต่บริหารเวลาไม่ดี และมิได้ให้ความสำคัญกับการเล่นกีฬา น่ายินดีกับหลายท่านที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว ด้วยวิธีใดก็ตาม การเล่นกีฬาเป็นการออกกำลังกายวิธีหนึ่งที่มีความสนุกเป็นแรงจูงใจ 

       ผมเองเล่นกีฬามาตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ อายุ 61 ปีกว่า ยังสนุกกับการเล่นเทนนิส สอนเทนนิส ส่งเสริมให้ผู้อื่นเล่นเทนนิส 

       ตอนเด็กเล่นแบดมินตัน เคยแข่งกีฬาสีของโรงเรียนวินิตศึกษา จ.ลพบุรี  เล่นปิงปอง (เทเบิลเทนนิส) และฟุตบอล ตามประสาเด็ก จบมาทำงานใหม่ๆ ยังเล่นแบดมินตันต่อมาอีกหลายปี แข่งขันกีฬาภายในกับนักศึกษาบ้าง เคยเป็นตัวตั้งตัวตีในการทำทีมว่ายน้ำของ เขต 3 ตอนเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยครูนครราชสีมา เป็นทั้งผู้ควบคุมทีม ผู้ฝึกสอนและนักกีฬาว่ายน้ำ ผมไม่ได้มีความสามารถมากนัก แต่รักที่จะเล่นกีฬาและส่งเสริมให้ผู้อื่นเล่นกีฬา ด้วยเห็นว่าไม่ค่อยมีใครทำ จึงทั้งเล่นเองและส่งเสริมคนอื่นด้วยเท่าที่ตนจะทำได้ ประเมินตนเองอย่างที่คิดว่าไม่ได้เข้าข้างตนเองว่า ดีกว่าเราไม่ได้ทำ เพราะเป็นส่งเสริมให้ผู้อื่นได้เล่นกีฬา การเล่นกีฬาไม่จำเป็นต้องชนะเลิศ หรือชนะ การเล่นกีฬาแม้จะแพ้ก็มีประโยชน์ ขอเพียงแต่เล่นกีฬา

      หลังจากที่เล่นแบดมินตันมาเกือบ 20 ปี วันหนึ่งรู้ตัวว่ากระโดดไม่ค่อยไหวแล้ว จึงเปลี่ยนมาเล่นเทนนิส ตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จนถึงทุกวันนี้ ปี พ.ศ. 2543 เป็นประธานชมรมเทนนิสเพชรบูรณ์ และเป็นประธานชมมรมเทนนิสจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งเสริมการเล่นเทนนิสในจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดสอน จัดแข่งทั้งในจังหวัด และจัดการแข่งขันเทนนิสเพชรบูรณ์โอเพน ในปี คศ. 2003 (พ.ศ. 2546)  ปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548)  ช่วยจัดการแข่งขันเทนนิสเพชรบูรณ์โอเพน ในปี คศ. 2007 (พ.ศ. 2550) พานักเทนนิสเยาวชนที่สอนไปแข่งขันรายการพัฒนาฝีมือของชมรมผู้ปกครองนักเทนนิสแห่งประเทศไทย พานักเทนนิสเยาวชนตัวแทนจังหวัดไปแข่งขันในรายการกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย รายการกีฬาเยาวชนแห่งประเทศไทย กีฬาแห่งชาติ พานักเทนนิสทั้งเยาวชนและสูงอายุไปฝึกซ้อมยังสนามต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด อาทิ บางมูลนาก พิจิตร ชัยภูมิ กำแพงเพชร โคราช ขอนแก่น พาสมาชิกชมรมไปชมการแข่งขันเทนนิสรายการไทยแลนด์โอเพน ครั้งแรกที่เมืองทองธานี ผมเข้าร่วมการแข่งแข่งเทนนิสสโมสรอาจารย์วิทยาลัยครู (สถาบันราชภัฏ/มหาวิทยาัลัยราชภัฏ) ภาคเหนือหลายครั้ง ที่พิษณุโลก เชียงราย อุตรดิตถ์ นครสวรรค์

      เล่นแล้ว ทำแล้วมีความสุข ก๊เล่นและทำมาเรื่อยๆ หยุดบ้าง เล่นบ้างทำบ้าง

      จำได้ว่า ตอนที่เป็นประธานชมรมเทนนิสเพชรบูรณ์ ผมกล่าวว่า "...ผมหวังว่า พวกเราจะเล่นเทนนิสเพื่อคนอื่นด้วย..." ที่ได้กล่าวมาเป็นวิธีเล่นเทนนิสเพื่อคนอื่นของผม สรุปสั้นๆ คือ เล่น สอน จัดแข่ง พาไปแข่ง ทำทีม ฝึกซ้อม จัดการสนามให้พร้อมสำหรับการฝึกซ้อมและแข่งขัน

      หากดูเผินๆ แล้วดูเหมือนว่า ประเทศไทยส่งเสริมการเล่นกีฬาจริงจัง แต่จากประสบการณ์ของผม ผมเห็นว่าเรายังไม่ได้ส่งเสริมกีฬาอย่างจริงจัง เราทำเพียงเปลือกนอก เหมือนทำไปตามหน้าที่ แม้จะมีการแข่งขันกีฬาสี กีฬาภายใน กีฬานักเรียนแห่งประเทศไทย กีฬาแห่งชาติ และกีฬาระหว่างประเทศ แต่การส่งเสริมกีฬาในระดับล่าง ระดับท้องถิ่น ระดับผู้เริ่มเล่นกีฬา กีฬามวลชนกีฬาเพื่อสุขภาพ กีฬาเพื่อนันทนาการ ยังมิได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมอย่างจริงจังจากหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่นๆ ที่มีหน้าที่โดยตรง ผมขออนุญาตเสนอแนวทางการส่งเสริมกีฬาไว้ดังต่อไปนี้

      1. โรงเรียนควรสร้างสนามกีฬาหลาย ๆ ชนิด อาทิ สนามเทนนิส มิใช่มีแต่สนามฟุตบอล สนามบาสเกตบอล สนามวอลเลบอล สนามตะกร้อเท่านั้น และควรมีการสอนและแข่งขันด้วย กรมพลศึกษามีการจัดแข่งกีฬาหลายชนิดที่ไม่มีการเล่นและการแข่งขันในโรงเรียน อาทิ เทนนิส โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่มีสนามเทนนิส ผู้บริหารหลายท่านอาจเข้าใจผิดว่า สนามเทนนิสราคาแพง อุปกรณ์เทนนิสราคาแพง เป็นความเข้าใจผิด เพราะการเล่นเทนนิสที่จริงแล้วค่าใช้จ่ายถูกว่าการเล่นเทเบิลเทนนิส แบดมินตันและกีฬาอื่นๆ อีกหลายชนิด 

     2. ทุกอำเภอควรมีสนามกีฬาต่างๆ ที่ยังไม่มี เช่น สนามเทนนิส

     3. ควรก่อตั้งชมรมกีฬาต่างๆ ในทุกอำเภอ อาจารย์พลศึกษา ศูนย์การท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัด อำเภอ สมาคมกีฬาจังหวัดควรทำหน้าที่นี้ หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ อบต. อบจ. เทศบาล ควรสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนเล่นกีฬาอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง สร้างสนามกีฬา ดูแลซ่อมบำรุงสนามกีฬา จัดการฝึกสอน ฝึกซ้อมและแข่งขันสม่ำเสมอ

     4. สมาคมกีฬาต่างๆ ควรส่งผู้ฝึกสอนไปจัดการฝึกสอนให้นักกีฬา และจัดฝึกการอบรมผู้ฝึกสอนในต่างจังหวัด อาจหมุนเวียนไปตามจังหวัดต่างๆ ปีละ 5 -10 จังหวัด หรือจัดงบประมาณให้จังหวัดส่งผู้ฝึกสอนและผู้ตัดสินเข้ารับการอบรม

     5. ผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างสนามกีฬาควรควบคุมให้การก่อสร้างสนามกีฬามีคุณภาพ ได้มาตรฐานพอสมควร ไม่ชำรุดง่าย

     6. ลดภาษีรายได้ให้ผู้เล่นกีฬาประจำ 

     7. เพิ่มรายการแข่งขันกีฬาในระดับท้องถิ่น เช่น กีฬาระหว่างโรงเรียนภายในจังหวัด แทนที่จะแข่งขันกีฬาสีภายในโรงเรียนของแต่ละโรงเรียน การแข่งขันกีฬาระหว่างอำเภอภายในจังหวัด การแข่งขันกีฬาระหว่างสโมสรหรือชมรมกีฬาภายในจังหวัด การแข่งขันกีฬาเฉพาะชนิดระหว่างโรงเรียน เช่น การแข่งขันเทนนิสระหว่างโรงเรียนภายในจังหวัด การแข่งขันเป็นการพัฒนาฝีมือ ยิ่งมีการแข่งขันมากยิ่งเพิม่ฝีมือของนักกีฬา คณะกรรมการส่งเสริมกีฬาจังหวัดควรดำเนินการ

     8. ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาชน ควรจัดงบประมาณสนับสนุนส่งเสริมกีฬาอย่างแท้จริง ท่านที่กำลังฉ้อราษฎร์บังหลวง โปรดเปลี่ยนใจ กลับใจมาทำกุศลกรรมด้วยการส่งเสริมกีฬาแล้วท่านจะมีความสุขที่แท้จริง มิใช่ความสุขจอมปลอมจากการคดโกงเงินเพื่อตนเอง 

        

หมายเลขบันทึก: 484111เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2012 14:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 17:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เห็นด้วยครับเรื่องการส่งเสริมกีฬาต่อต้านยาเสพติดและเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

ตัวผมเองก็เพิ่งได้มีโอกาสไปพบคนดีที่ช่วยส่งเสริมกีฬาเพื่อสุขภาพที่อำเภอบางมูลนากซึ่งได้ส่งเสริมให้เยาวชนและผู้สูงอายุได้มาเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพด้วยการเล่นกีฬาแบดมินตัน ตัวผมเองก็น้ำหนักเกินค่า BMI มาก เลยหาที่เล่นกีฬาแต่เนื่องจากเป็นอำเภอทำให้หาสนามกีฬาได้ยาก แต่โชคดีที่ปลัดอำเภอท่าเสาคุณเชาวิชได้ร่วมมือกับบุคคลที่รักในการออกกำลังกายและส่งเสริมให้เยาวชนเล่นกีฬาห่างไกลยาเสพติดได้ขอความอนุเคราะห์จากอำเภอบางมูลนากใช้อาคารของอำเภอทำเป็นสนามแบดมินตันชั่วคราว โดยร่วมมือร่วมแรงใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัวในการสร้างสนามและติดตั้งระบบไฟฟ้า ซึ่งหน่วยงานราชการหลายส่วนได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม ปัจจุบันแม้ว่าสนามจะยังไม่สมบูรณ์และมีแค่สนามเดียวแต่ได้รับความสนใจจากเยาวชนตลอดจนผู้สูงอายุไปเล่นกีฬาจำนวนมาก ต้องขอชื่นชมคนดีปลัดและทีมงานและหน่วยงานราชการต่างๆที่ส่งเสริมกีฬาให้กับชุมชนแม้จะเป็นแค่อำเภอก็ตาม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท